
สื่อดังญี่ปุ่นรายงานข่าวว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ส บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นจะเลิกการผลิตในจีน หลังยอดขายสู้รถจีนไม่ไหว ปิดฉากทั้งการขายและการผลิตในตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
วันที่ 27 กันยายน 2023 สำนักข่าวนิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานว่า บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ป (Mitsubishi Motors Corp.) จะยุติการผลิตในประเทศจีน โดยขณะนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส กับบริษัทร่วมทุนสัญชาติจีน “กว่างโจว ออโต้โมบิล กรุ๊ป” (Guangzhou Automobile Group : GAC) กำลังเจรจาเตรียมการขั้นสุดท้ายเพื่อที่จะยุติการผลิต
รายงานข่าวนี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประกาศระงับการทำธุรกิจในจีนเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากเผชิญภาวะยอดขายย่ำแย่ในประเทศจีนมาหลายปี ซึ่งนิกเคอิระบุว่า บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นรายอื่น ๆ ก็ประสบปัญหายอดขายในจีนตกต่ำ และอาจทบทวนกลยุทธ์การทำธุรกิจของตนเองเช่นกัน
ด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า โฆษกของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส บอกกับบลูมเบิร์กว่า บริษัทกำลัง “หารือในหมู่ผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับแผนการในอนาคต และยังไม่มีการสรุปขั้นสุดท้าย”
ทั้งนี้ “แก็ค มิตซูบิชิ มอเตอร์ส” (GAC Mitsubishi Motors Co.) บริษัทร่วมทุนในจีนของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส มีโรงงานในมณฑลหูหนานทางตอนใต้ของจีน
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ระบุว่า ได้ระงับธุรกิจในจีนอย่างไม่มีกำหนด และเตรียมเลิกจ้างพนักงาน และในบันทึกของบริษัทเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ถูกเผยแพร่บนโซเชียลมีเดียของจีนระบุว่า ยอดขายของบริษัทลดลงต่ำกว่าคาดมาก ในตลาดจีนซึ่งเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว
ความสั่นคลอนของมิตซูบิชิในประเทศสะท้อนถึงความยากลำบากของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นรายอื่น ๆ ซึ่งเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าช้า และสูญเสียส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์ให้กับคู่แข่งรายใหม่ที่ทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าก่อน อย่างเทสลา (Tesla) และบีวายดี (BYD)
ยอดขายของฮอนด้า (Honda Motor) และนิสสัน (Nissan Motor) ในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลดลงมาเป็นเวลาอย่างน้อยสองปีแล้ว ขณะที่การส่งมอบของโตโยต้า มอเตอร์ (Toyota Motor Corp.) ในปีที่แล้วลดลงเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ
ทาคาโอะ กาโตะ (Takao Kato) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส กล่าวเมื่อเดือนพฤษภาคมว่า ชัดเจนว่าบริษัทจำเป็นต้องทบทวนกลยุทธ์ในจีนอีกครั้ง
ผู้ซื้อรถยนต์ในประเทศจีนเปลี่ยนไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าอย่างรวดเร็วกว่าในประเทศอื่น ๆ โดย 1 ใน 4 คันของรถยนต์ที่ขายในประเทศจีนเมื่อปีที่แล้วเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นให้คำมั่นที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น แต่พวกเขากำลังเล่นเกมที่ยากลำบากในการไล่ตามผู้นำตลาดอย่าง เทสลา และ บีวายดี และอีกหลายบริษัท รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์จีน เช่น นีโอ (Nio) และ เสี่ยวเผิง (Xpeng)
เมื่อปี 2022 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ขายรถยนต์สปอร์ตยูทิลิตี้ไฟฟ้า “แอร์เทรค” (Airtrek) ในประเทศจีนได้เพียง 515 คัน ในขณะที่การผลิตโดยรวมในประเทศจีนลดลงเหลือ 1,530 คันในเดือนมกราคม 2023 และหลังจากนั้นก็ไม่มียอดการผลิตเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากการดำเนินงานถูกระงับ
มิตซูบิชิ มอเตอร์สกล่าวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า บริษัทมีแผนจะลงทุนเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้ามากถึง 1.8 ล้านล้านเยน (12,000 ล้านดอลลาร์) ภายในปี 2030 ซึ่งการประกาศแผนลงทุนนี้ทำให้ตลาดตอบรับต่อหุ้นของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่นก็เพิ่มขึ้นประมาณ 20% ในโตเกียวนับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน
“ผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจ” วิเคราะห์เพิ่มเติมว่า การยุติการผลิตในจีนของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส น่าจะส่งให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญยิ่งขึ้นอีก จากปัจจุบันที่ไทยเป็นหนึ่งในฐานการผลิตนอกญี่ปุ่นร่วมกับอินโดนีเซีย และจีน ซึ่งจากการค้นข้อมูลในรายงานประจำปีของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส พบว่าประเทศไทยมีจำนวนการผลิตสูงสุดในบรรดาฐานการผลิตนอกญี่ปุ่น
อีกทั้ง เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประกาศว่าเริ่มผลิตรถยนต์ไฮบริด (PHV) ในประเทศไทยในต้นปีหน้า ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่มิตซูบิชิผลิตรถยนต์ไฮบริดนอกประเทศญี่ปุ่น