เปอโยต์ ท้ารบ อีวีจีน ทุบราคา-ลุยเพิ่มความพึงพอใจลูกค้า

สุนทรพันธ์ เดชะเทศ
สุนทรพันธ์ เดชะเทศ
คอลัมน์ : สัมภาษณ์

เข้ามาทำตลาดในบ้านเราได้พักใหญ่ สำหรับแบรนด์รถยนต์ เปอโยต์ และจี๊ป ภายใต้บริษัท เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ต้องบอกว่ารูปแบบการทำตลาดของรถยนต์ทั้ง 2 แบรนด์ ถือว่ามีกลุ่มแฟนพันธุ์แท้ที่เหนียวแน่น

วันนี้ “สุนทรพันธ์ เดชะเทศ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปอโยต์ และจี๊ป ประเทศไทย ประกาศแผนงานที่จะขับเคลื่อนเพื่อบรรลุเป้าหมายยอดขายรถยนต์ทั้งสองแบรนด์ ท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้นในตลาดรถยนต์ไทย โดยเฉพาะการไล่ล่าจากค่ายรถอีวีจีน

เพื่อขยับยอดขายไปแตะระดับ 1,000 คัน ในปีนี้ให้ได้ รวมทั้งการเดินหน้าการสร้างแบรนด์ และการขับเคลื่อนธุรกิจ ของเบลฟอร์ต ออโตโมบิล จะเป็นอย่างไร ไปติดตามกัน

Q : ความสำเร็จของเปอโยต์-จี๊ปในปีที่ผ่าน

สำหรับปี 2566 ที่ผ่านมานั้น ต้องบอกว่าเป็นอีกปีที่เราเผชิญกับความท้าทาย หลังสถานการณ์โควิด เนื่องจากเปอโยต์ และจี๊ป ต้องเผชิญสถานการณ์เช่นเดียวกับค่ายรถยนต์อื่น ๆ หลังจากค่ายรถยนต์อีวีจากจีนเข้ามาทำตลาด ส่งผลให้กลุ่มรถเครื่องยนต์สันดาปภายในที่เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลาง-ใหญ่ แบรนด์ญี่ปุ่น และรถยุโรปในกลุ่มเริ่มต้น ได้รับผลกระทบอย่างหนัก

เนื่องจากค่ายอีวีจีนทำราคาขายเข้ามาชนโดยตรง และส่งผลให้ลูกค้าในตลาดนี้มีพฤติกรรมการตัดสินใจที่เปลี่ยนไป

ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมทำให้ผู้บริโภคมีการชะลอการตัดสินใจไป

สำหรับ เบลฟอร์ตฯ ในปีที่ผ่านมา มียอดขายลดลงไป 27% จากปี 2565 มียอดจำหน่ายรวมอยู่ที่ 489 คัน แบ่งเป็น เปอโยต์ 427 คัน และจี๊ป 62 คัน

โดยในปี 2565 ที่มียอดจำหน่ายรวมอยู่ที่ 636 คัน แบ่งเป็น เปอโยต์ 590 คัน และจี๊ป 46 คัน

Q : เป้าหมายในปีนี้

สำหรับปีนี้ เราคาดว่าสถานการณ์โดยรวมจะดีขึ้น แม้ว่าความร้อนแรงของค่ายรถยนต์อีวีจากจีนจะมีเพิ่มขึ้น ประกอบกับสถานการณ์ความเข้มงวดของไฟแนนซ์ทำให้ตลาดรถยนต์มีการชะลอตัว แต่สำหรับเปอโยต์ และจี๊ป เราวางเป้าหมายไว้ค่อนข้างท้าทาย ว่าปีนี้จะต้องมียอดขายรวมกันที่ระดับ 1,000 คัน ในจำนวนนี้แบ่งเป็น เปอโยต์ จำนวน 820 คัน ส่วนแบรนด์จี๊ป ตั้งเป้าว่าจะมียอดขายที่ 180 คัน

Q : สาเหตุที่ทำให้มั่นใจว่าไปถึงเป้าหมาย

ก่อนอื่นต้องบอกว่า เราค่อนข้างมั่นใจอย่างยิ่ง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเดินหน้าทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้บริษัทได้มีการปรับโครงสร้างราคาจำหน่ายรถยนต์เปอโยต์ลง เฉลี่ย 8-16% หรือลดลงราว ๆ 100,000-300,000 บาท

สำหรับรถใน 3 รุ่นหลัก ๆได้แก่ เปอโยต์ 2008 ปรับราคาใหม่อยู่ที่ 1,089,000 บาท จากเดิม 1,189,000 บาท, เปอโยต์ 3008 ปรับราคาใหม่อยู่ที่ 1,489,000 บาท จากเดิม 1,699,000 บาท, เปอโยต์ 5008 ปรับราคาใหม่อยู่ที่ 1,589,000 บาท จากเดิม 1,889,000 บาท ซึ่งเราเชื่อว่าตรงนี้น่าจะช่วยผลักดันให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงรถเราได้ง่ายขึ้น

ขณะที่ในงานมอเตอร์โชว์ 2024 ที่จะถึงนี้ เรามีแผนเพิ่มรุ่นย่อยในส่วนของ เปอโยต์ 408 GT, 408 Allure (อัลลัวร์), 408 Allure Plus (อัลลัวร์ พลัส)

และบริษัทมีแผนจะเปิดตัวรถเปอโยต์อีก 2 รุ่นใหม่ และหนึ่งในนั้นคือ รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% หรืออีวี ในการขับเคลื่อนด้วย

ส่วนแบรนด์จี๊ปนั้น ปีนี้ยังไม่มีแผนจะเปิดตัวรุ่นใหม่แต่อย่างใด

Q : เน้นเพิ่มประสิทธิภาพหลังการขาย

ถือเป็นการเดินหน้า มอบความพิเศษให้กับลูกค้าคนสำคัญ โดยเราได้ตัดสินใจเพิ่มความอุ่นใจให้กับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวในปีนี้ นับจากนี้ ด้วยการเพิ่มการรับประกันคุณภาพสินค้า สูงสุดถึง 7 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร ให้รุ่นใหม่ อาทิ นิว เปอโยต์ 408 GT, 408 Allure, 408 Allure Plus และรถนิว จี๊ป แรงเลอร์ รูบิคอน (Minor Change) และจี๊ป ออล-นิว แกรนด์ เชโรกี

รวมทั้งการเพิ่มประกันให้ในส่วนของแบตเตอรี่ไฮบริดในรุ่น จี๊ป ออล-นิว แกรนด์ เชโรกี นานสูงสุด 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร

ส่วนลูกค้าที่ซื้อไปก่อนหน้านี้ เราก็กำลังดูแพ็กเกจที่เหมาะสมเพื่อนำเสนอให้กับลูกค้าต่อไป

Q : เตรียมเปิดธุรกิจยูสคาร์

วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เปอโยต์จะต้องเริ่มในส่วนของตลาดรถยนต์ใช้แล้ว เนื่องจากเราต้องการทำให้โครงสร้างราคาขายต่อของรถเปอโยต์ดีขึ้น ตอนนี้เรากำลังเร่งศึกษาและพัฒนาในส่วนของ “เปอโยต์เซอร์ทิฟายยูสคาร์” ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ราว ๆ ไตรมาสที่ 2 อย่างแน่นอน

เพราะปัจจุบันแบรนด์เปอโยต์มีฐานลูกค้าอยู่ที่ 2,011 ราย การมีตรงนี้ก็น่าจะเป็นส่วนที่เข้ามาสนับสนุนและส่งเสริมการทำตลาดทั้งรถใหม่และรถเก่าให้ดีขึ้น

Q : ขยายสาขาเพิ่มต่อเนื่อง

ขณะที่แผนการขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายนั้น ปัจจุบัน เปอโยต์ มีเครือข่ายโชว์รูมพร้อมบริการหลังการขายครบวงจร 9 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ เกษตร-นวมินทร์, เยาวราช, สุขุมวิท, วงเวียนพระราม 5-ราชพฤกษ์, อุบลราชธานี, หาดใหญ่, ภูเก็ต, พัทยา และเชียงใหม่ และยังได้ร่วมมือกับ เอ็มเอ็มเอส บ๊อช คาร์ เซอร์วิส แอนด์ ไทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการซ่อมบำรุงรถยนต์แบบครบวงจร ภายใต้ชื่อ “PEUGEOT SERVICE OUTLET” เพื่อให้บริการหลังการขายอีก 13 สาขา

แบ่งเป็น กรุงเทพมหานคร 10 สาขา ได้แก่ พระราม 4, งามวงศ์วาน, ลำลูกกา, รังสิต, เพชรเกษม, รามคำแหง, คู้บอน, พุทธบูชา, กาญจนาภิเษก และศรีนครินทร์ และอีก 3 สาขาในต่างจังหวัด ได้แก่ ระยอง, อุบลราชธานี และภูเก็ต

ขณะที่แบรนด์ จี๊ป มี 4 สาขา คือ สุขุมวิท, วงเวียนพระราม 5-ราชพฤกษ์, พัทยา และเชียงใหม่ ปีนี้น่าจะเพิ่มได้อีก 4 แห่ง คือ อุดรธานี, ขอนแก่น, นครราชสีมา และอุบลราชธานี เพื่อให้บริการได้ครอบคลุมทั่วประเทศ และช่วยกันขับเคลื่อนให้รถยนต์ทั้ง 2 แบรนด์สามารถเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป