โควิดทุบอุตฯรถยนต์อยู่หมัด หวั่นลดเป้าผลิต 50% เงินหาย 1 ล้านล้าน

สภาอุตฯยันโควิด-19 ยืดเยื้อถึงเดือน ก.ย. ยอดผลิตรถยนต์ในประเทศจะเหลือแค่ 1 ล้านคัน ตกงานอีก 750,000 คน คนวงการชี้เม็ดเงินหาย 1 ล้านล้านบาท

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดผลิตรถยนต์ในประเทศไตรมาสแรกที่ผ่านมา (มกราคม-มีนาคม 2563) มีจำนวนทั้งสิ้น 453,682 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนเกือบ 20% ผลกระทบหลักมาจากเศรษฐกิจโลกและการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ สภาอุตฯประเมินว่า หากไวรัสโควิดยังยืดเยื้อไปจนถึงเดือนมิถุนายน อาจจะต้องปรับเป้าการผลิตปี 2563 ใหม่ โดยคาดว่าน่าจะทำได้เพียง 1.4 ล้านคัน และหากยังไม่จบลากยาวไปจนถึงเดือนกันยายน 2563 คาดว่าเป้าผลิตทั้งปีจะเหลือแค่ 1 ล้านคันเท่านั้น จากเป้าหมายเดิมที่กำหนดไว้ 2 ล้านคัน แบ่งเป็นตลาดในประเทศและส่งออกอย่างละ 50%

“น่าเป็นห่วงเพราะเท่ากับเป้าผลิตหายไปครึ่งหนึ่งทีเดียว ซึ่งถ้าหากนานถึงเดือนกันยายนจะส่งผลทำให้ภาคการผลิตชิ้นส่วนและยานยนต์ได้รับผลกระทบหนักมาก ทั้งช่าง แรงงานในโรงงาน พนักงานในโชว์รูม รวมทุกส่วนในอุตสาหกรรมรถยนต์กว่า 750,000 คน อาจถูกเลิกจ้างชั่วคราวจนกว่าจะกลับมาผลิตใหม่”

นายสุรพงษ์กล่าวอีกว่า ยอดผลิตรถยนต์เฉพาะเดือน มี.ค. 2563 ทำได้ทั้งสิ้น 146,812 คัน ลดลงเกือบ 27% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แบ่งเป็นผลิตเพื่อส่งออก 85,376 คัน ลดลงจากปีที่แล้วเกือบ 18%

ด้านนายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในไตรมาสแรกปี 2563 มีทั้งสิ้น 200,064 คัน ลดลง 24.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 78,385 คัน ลดลง 23.6% รถเพื่อการพาณิชย์ 121,679 คัน ลดลง 24.4% ซึ่งผลกระทบดังกล่าวมาจากเศรษฐกิจในประเทศได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19


แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวเสริมว่า ผลกระทบเที่ยวนี้ถือว่ารุนแรงมาก หนักกว่าเมื่อคราวน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 การปรับเป้าผลิตลงจาก 2 ล้านคัน เหลือ 1 ล้านคัน จะทำให้ประเทศไทยผลิตรถยนต์ได้น้อยลงครึ่งหนึ่ง และถ้าคำนวณเป็นเม็ดเงิน ซึ่งประเมินค่าเฉลี่ยคันละ 1 ล้านบาท เท่ากับเม็ดเงินหายไปจากอุตสาหกรรมยานยนต์สูงถึง 1 ล้านล้านบาททีเดียว4