ยุบพรรคก้าวไกล? อนาคตใหม่ธนาธร

ยุบก้าวไกล อนาคตใหม่ธนาธร
คอลัมน์ : สามัญสำนึก
ผู้เขียน : อิศรินทร์ หนูเมือง

หลังวันที่ 18 พ.ค. 67 เป็นวันชี้ชะตาพรรคก้าวไกล (ก.ก.) อีกครั้ง เมื่อศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงข้อกล่าวหาคดียุบพรรคออกไป 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.67

แม้ท่าทีพรรคก้าวไกลจะไม่ยี่หระต่อคดียุบพรรคอีกต่อไป แต่ในทางกฎหมายก็หาทางหนีทีไล่ต่อสู้หลายสเต็ป ทั้งขอขยายเวลาอีกครั้ง-งัดสารพัดหลักฐานเตรียมแถลงต่อศาล

ตามคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคก้าวไกลมีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นเหตุแห่งการยุบพรรค ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2)

ต่อเนื่องจากคดีล้มล้างการปกครอง ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 กรณีพรรค ก.ก. เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ…. เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

ศาลวินิจฉัยตอนหนึ่งว่า “เป็นการลดสถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นการนำสถาบันลงมาเพื่อหวังผลคะแนนเสียง และประโยชน์ในการชนะการเลือกตั้ง มุ่งหมายให้สถาบันอยู่ในฐานะคู่ขัดแย้งกับประชาชน…มีเจตนาเซาะกร่อนบ่อนทําลายสถาบัน เป็นเหตุให้ชํารุดทรุดโทรม เสื่อมทราม หรืออ่อนแอลง นําไปสู่การล้มล้างการปกครองในที่สุด”

คดีเก่าศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 31 ม.ค. 67 ว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและพรรค ก.ก. ผู้ใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 สั่งให้เลิกการกระทำ

ADVERTISMENT

ผูกพันให้ กกต.ใช้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งยุบพรรค และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรค 10 ปี โดยใช้หลักฐานจากสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สภาความมั่นคงแห่งชาติ อัยการสูงสุด ศาลยุติธรรม และศาลอาญาอีก 4 แห่ง

คนในพรรค ก.ก.บอกข้อต่อสู้ว่า มีทั้งในเชิงกฎหมายและข้อเท็จจริง ปักธงว่า “ขาดเจตนา” และ “ไม่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง” งัดรัฐธรรมนูญมาตรา 49 และ พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 92 ถูกพลิกตีความเป็นข้อต่อสู้อย่างเข้มข้นทุกพยางค์

ADVERTISMENT

พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 92 บัญญัตถึงการยื่นยุบพรรค ให้ศาลสั่งยุบพรรค-เพิกถอนสิทธิกรรมการบริหารพรรคนั้น กระทำได้ หากมีหลักฐานอันเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองกระทำการ “ล้มล้างการปกครอง, กระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง..”

ส่วนรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 บัญญัติว่า “บุคคลจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมิได้ ผู้ใดทราบว่ามีการกระทำตามวรรคหนึ่ง ย่อมมีสิทธิร้องต่ออัยการสูงสุด เพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าวได้

ในกรณีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ หรือไม่ดำเนินการภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ ผู้ร้องขอจะยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ การดำเนินการตามมาตรานี้ไม่กระทบต่อการดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำการตามวรรคหนึ่ง”

การยุบพรรคจะเกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างไร ต้องอดใจรอ แต่ก้าวไกล-ก้าวหน้า เดินหน้าทางการเมือง ทั้งเกาะติดการเลือกตั้ง สว. และการบุกเลือกตั้ง อบจ. ปูทางไปข้างหน้า และรอคอยการกลับมาของชาวอนาคตใหม่

ธนาธร-ผ่านโทษตัดสิทธิทางการเมืองมาแล้ว 4 ปี อีก 6 ปี เขาบอกว่า ถ้าถึงตอนนั้นประเทศยังไม่เป็นประชาธิปไตย เขาก็พร้อมเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง

เขาเคยบอกไว้ว่า “ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ใช่เป้าหมายสูงสุด เป้าหมายสูงสุดคือการเปลี่ยนแปลงประเทศ…คุณสมบัติข้อสำคัญของนายกรัฐมนตรี คือเจตจำนงทางการเมืองเรื่องประชาธิปไตย…ต้องเอาไทยออกจากวังวนของเผด็จการ วังวนของอำนาจนิยมที่รับใช้ชนชั้นนำให้ได้”

ธนาธรและคณะเชื่อว่า ปัญหาประเทศไทยไม่ใช่เรื่องการบริหาร เป็นนักบริหารมือหนึ่งของโลกก็แก้ปัญหาไม่ได้ “เพราะจะไม่มีเวลาแก้ปัญหาประเทศ ทุกอย่างถูกออกแบบให้เป็นการเมืองไปหมด”

ไม่ควรลืมว่า ธงแรกที่ธนาธรเคยปักว่า เลือกตั้งครั้งที่ 2 ต้องได้คะแนนสูงสุดอันดับ 1 ทะลุธงไปแล้ว แต่การจัดตั้งรัฐบาล-เป็นนายกรัฐมนตรี ยังไม่เข้าเส้นชัย

มวลชนของคณะก้าวหน้ารออนาคตใหม่ หลังคดียุบพรรคอย่างระทึกใจอย่างยิ่ง

……………