Market Think: เฉลียง-K-POP

K-POP
คอลัมน์ : Market-think 
ผู้เขียน : สรกล อดุลยานนท์

วันก่อน น้องคนหนึ่งมาบ่นให้ฟังว่าตอนนี้ธุรกิจจัดคอนเสิร์ตเหมือนอยู่ใน “ทะเลสีเลือด”

เพราะเจอโควิดมา 2 ปี จัดคอนเสิร์ตไม่ได้

พอรัฐเปิดให้จัดได้ ทั้งคนจัดและศิลปินที่อั้นมานานก็เลยปล่อยของกันออกมาเต็มไปหมด

โดยเฉพาะ “แกรมมี่”

“แกรมมี่” เป็นยักษ์ใหญ่ของวงการดนตรีอยู่แล้ว ศิลปินในค่ายเยอะมากกก…..

ถ้าเป็นช่วงปกติ เขาก็จะค่อย ๆ ปล่อยของ ทยอยปล่อยศิลปินออกมาไม่ให้ชนกัน

Advertisment

แต่พออั้นมา 2 ปี ศิลปินทุกคนก็อยากจัดคอนเสิร์ต

คิวที่วางไว้ทะลักออกมาพร้อมกัน

Advertisment

มีข่าวว่าตอนนี้ “แกรมมี่” จองอิมแพ็คยาวถึงสิ้นปี

ทุกสัปดาห์จะมีคอนเสิร์ตใหญ่ของค่ายแกรมมี่

ส่วนผู้จัดรายอื่นที่มีสปอนเซอร์อยู่ในมือ ดีลกันมาแล้วแต่เลื่อนมาเรื่อย ๆ 
ก็มาปล่อยของช่วงเดียวกัน

แม้จะรู้ว่าเป็นทะเลสีเลือด

แต่ก็เลือกไปตายเอาดาบหน้า

อย่างน้อยก็มีสปอนเซอร์ไว้พออุ่นใจบ้าง

ส่วนผู้จัดรายใหม่ที่ไม่ได้เตรียมทางถอย คิดแต่เพียงว่าคอนเซ็ปต์ของเราดี ศิลปินก็มีแฟนเพลง

คนดูก็อั้นมานาน

ยังไงก็กำไร

เรียบร้อยเลยครับ

เพราะเขาไม่รู้จักธุรกิจนี้ดีพอ และไม่ได้คาดว่าจะมีคอนเสิร์ตชนกันเยอะขนาดนี้

ที่สำคัญ “กำลังซื้อ” ของแฟนเพลงก็มีจำกัด

บางคนเป็นแฟนเพลงหลายวง

ถ้าในยามปกติที่มีคอนเสิร์ตห่าง ๆ กันหน่อยสัก 2-3 เดือนก็ยังเก็บตังค์ไปอุดหนุนได้

แต่พอจัดติด ๆ กัน เขาก็ต้องเลือก

ยิ่งเศรษฐกิจตอนนี้ก็ไม่ดี บางกลุ่มก็ไม่มีเงินเหลือพอสำหรับความบันเทิงที่ใช้เงินมากพอสมควร

เพราะบัตรคอนเสิร์ตวันนี้ราคาค่อนข้างสูงขึ้นมาก

1,500 บาท จะอยู่ไกลระดับเห็น “ศิลปิน” เป็น “หัวไม้ขีด”

ต้อง 3,000 ถึง 5,000 บาท จึงจะเห็น “ศิลปิน” เป็นผู้เป็นคนบ้าง

คอนเสิร์ตไทยที่จัดกันตอนนี้ นอกจากจะเจอคู่แข่งที่เป็นศิลปินไทยแล้ว

เขายังเจอกับ K-pop จากเกาหลีใต้อีก

วงการเพลงทั่วโลกนั้นเจอปัญหาแบบเดียวกันในช่วงโควิด ดังนั้น เมื่อตลาดเปิดทุกคนก็โหมจัดคอนเสิร์ตเหมือนกัน

ศิลปินไทยส่วนใหญ่มีเฉพาะตลาดภายในประเทศ

แต่ K-pop นั้นตลาดของเขาคือทั่วโลก

และเมืองไทยก็เป็นตลาดใหญ่ของเขาแห่งหนึ่ง

แฟนคลับของศิลปินเกาหลีในเมืองไทยนั้นมีจำนวนมาก และมีพลังมาก

บัตรคอนเสิร์ตจะแพงแค่ไหนก็หมด

พอเขาขยับเข้าไทย ตลาดคอนเสิร์ตเมืองไทยจึงปั่นป่วน

แต่ในข่าวร้ายก็มีข่าวดี “บิ๊กเมาน์เท่น” ของ “ป๋าเต็ด” ยุทธนา บุญอ้อม ขายบัตร 90,000 ใบ หมดภายในไม่กี่ชั่วโมง

แสดงว่าถ้าวางตำแหน่งสินค้าดี ๆ หรือเป็นแบรนด์ที่มีลูกค้าประจำเหนียวแน่น

คอนเสิร์ตนั้นก็ยังรอด

วันก่อน เจอ “จุ้ย” ศุ บุญเลี้ยง ผมถามถึงคอนเสิร์ต “เฉลียง”

ฟังดูแล้วทุกคนคงจะตกลงกันได้แล้วว่าจะจัดแน่นอน

แต่คงไม่ใช่ปีนี้

เพราะปีนี้เป็นทะเลสีเลือด

“จุ้ย” บอกว่าถ้าจะมี คงประมาณต้นปี หรือกลางปีหน้า

ฟังเผิน ๆ เหมือนกลุ่มเป้าหมายของ “เฉลียง” เป็นกลุ่มเดียวกับ K-pop

แต่นึกดูอีกที ก็น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน

เป็นกลุ่มคนที่จ่ายเงินซื้อตั๋ว

แฟนเพลง “เฉลียง” อยู่ในวัยกลุ่มพ่อแม่ที่ควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อบัตร K-pop ให้ลูก

พอซื้อให้ลูก

เงินในกระเป๋าก็ไม่พอมาซื้อบัตรของเฉลียง

ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกันแบบวิถีโค้ง