Market-think : คอนโด-คอนเสิร์ต

BLACKPINK_BANGKOK
คอลัมน์ : Market-think
ผู้เขียน : สรกล อดุลยานนท์

คนในแวดวงอสังหาริมทรัพย์หลายคนบ่นว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง

ลดลงตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้จนถึงไตรมาสสองก็ยังไม่ดีขึ้น

ยิ่งมาเจอ กนง.ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25%

จาก 1.75% เป็น 2.00%

กำลังซื้อที่ต่ำอยู่แล้ว ยิ่งลดฮวบไปอีก

ตอนนี้ยอดคนมาดูโครงการก็น้อยลง ยอดจองก็ลดลง

ที่สำคัญยอดโอนกรรมสิทธิ์ก็ลดลงอีก

แต่ที่สำคัญกว่า คือ พออัตราดอกเบี้ยขึ้น คนซื้อก็ต้องผ่อนต่อเดือนสูงขึ้น

รายได้เท่าเดิม แต่ต้องผ่อนมากขึ้น

อัตราการปฏิเสธการปล่อยกู้ของสถาบันการเงินจึงเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม

ตอนนี้ยอดการปฏิเสธสูงถึง 30-40% แล้ว

ตลาดบ้านที่ยังไปได้ คือ ตลาดบน

ส่วนอสังหาริมทรัพย์ราคาระดับ 3-5 ล้านบาท เริ่มมีปัญหา

ยิ่งตลาดทาวน์เฮาส์ชานเมืองราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ไม่ต้องพูดถึงเลย

ส่วนใหญ่จะกู้ไม่ผ่าน

ล่าสุดค่ายพฤกษาฯที่เป็นเจ้าตลาดกลุ่มนี้ ประกาศเปลี่ยนนโยบายมาบุกตลาดระดับกลางและบนแล้ว

“ปิยะ ประยงค์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บอกว่า ปัญหาเกิดจากเศรษฐกิจเปลี่ยนมาขับเคลื่อนด้วยกำลังซื้อของคนชั้นกลางถึงระดับบนเป็นหลัก

ขณะที่คนระดับกลางล่างมีกำลังซื้อน้อยลง แม้แต่กลุ่ม SMEs ก็ลำบากในช่วงเศรษฐกิจที่ผ่านมา

“เราขายบ้านเราจะรู้เลยว่าช่องว่างมันถ่างออกไปเรื่อย ๆ เศรษฐกิจโดยรวมดูเหมือนโอเคนะ แต่ถ้าเจาะไปตามระดับเซ็กเมนต์ของเรา กลุ่มทาวน์เฮาส์ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือกลุ่มพลัม คอนโด ซึ่งทำราคา 1 ล้านต้น ๆ ค่อนข้างจะลำบากในการขาย”

ชัดเจนมาก

ลองหันมาดูธุรกิจการจัดคอนเสิร์ตในช่วงที่ผ่านมาบ้าง

เราจะพบว่าคอนเสิร์ตไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องเศรษฐกิจเลย

ทั้งที่ราคาบัตรคอนเสิร์ตตอนนี้สูงมากนะครับ

คอนเสิร์ต “อัสนี-วสันต์” “ไมโคร” และ “อาร์เอส” ราคาบัตรไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท

สูงสุดไปถึง 5,000-6,000 บาท

ล่าสุดที่เปิดให้จองคือ คอนเสิร์ต “แกรมมี่-อาร์เอส” หมดเกลี้ยงภายในพริบตา

เช่นเดียวกับ “แบล็คพิงก์” ที่สนามราชมังคลากีฬาสถานเพิ่งผ่านไป

บัตรราคาเป็นหมื่น

หมดเกลี้ยงแบบแย่งกัน

ปรากฏการณ์นี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่ากำลังซื้อของคนระดับบน และระดับกลางสูงไม่มีปัญหา

ทุกคนพร้อมควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อความบันเทิงในระดับราคาหลายพันหรือหมื่นบาทได้

ไม่แปลกที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะบุกตลาดระดับกลางสูงถึงบนเป็นหลัก

เพราะรู้ว่ายังจ่ายได้

แต่กำลังซื้อของระดับล่างมีปัญหามาก เหมือนที่ผู้บริหารค่ายพฤกษาบอก

คำว่า “ความเหลื่อมล้ำ” จึงไม่ใช่ “วาทกรรม”

แต่เป็นเรื่องจริง

เรื่องแบบนี้ยิ่งปล่อยนาน ยิ่งไม่ดี

เพราะจากปัญหาเศรษฐกิจมีโอกาสจะลุกลามกลายเป็นปัญหาสังคมได้

ถ้าถึงวันนั้นมันจะวนเข้ามาสู่เรื่องเศรษฐกิจอีกครั้ง

และครั้งนี้จะแรงขึ้นกว่าเดิม