เปิดประวัติ ประสบการณ์ทำธุรกิจ และบริษัทในมือ “ขันเงิน ไทยเทเนียม” ศิลปินผู้รักการทำธุรกิจ ก่อนทุ่มซื้อหุ้น เอ็ม พิคเจอร์ส มูลค่ากว่า 650 ล้านบาท
วันที่ 26 พฤษภาคม 2566 สืบเนื่องจาก บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป หรือ MAJOR รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการเข้าทำบันทึกข้อตกลงการซื้อขายหุ้นในสัญญาซื้อขายหุ้นที่บริษัทถืออยู่ในบริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPIC จำนวน 1,202.13 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 92.46% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดให้กับ นายขันเงิน เนื้อนวล หรือ ขันเงิน ไทยเทเนี่ยม ในราคาหุ้นละ 0.54 บาท รวมมูลค่าการซื้อขาย 650 ล้านบาท
- เปิด 10 อันดับ สายงานราชการที่จะเกษียณอายุมากสุดในระยะสิบปี
- ส่องพอร์ตหุ้นไทย “ดร.นิเวศน์-ครอบครัว” 5.6 พันล้าน ปี’66 ได้ปันผลกี่บาท
- “ไชน่าทาวน์ห้วยขวาง” คลายมนต์ขลัง ร้านอาหารหมาล่าแห่ปิดกิจการ
การทุ่มเงินซื้อหุ้นดังกล่าวจึงทำให้ ขันเงิน ไทยเทเนียม กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ เอ็ม พิคเจอร์ส ทันที โดยเจ้าตัวให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจเดิมที่มีอยู่ในมือ
“ประชาชาติธุรกิจ” พาเปิดประวัติ ขันเงิน ไทยเทเนียม หรือ ขันเงิน เนื้อนวล นอกจากเป็นนักร้องแร็ปชื่อดังแล้วเขาเคยทำอะไรมาบ้างในแวดวงธุรกิจ
ขันเงิน เนื้อนวล หรือ “ขันเงิน ไทยเทเนียม” (ขัน) เกิดเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2519 เป็นแร็ปเปอร์ พิธีกร และนักธุรกิจชาวไทย เติบโตในครอบครัวที่คุณพ่อเปิดธุรกิจ โรงเรียนอนุบาลเสนาร่วม ในซอยพหลโยธิน 11 จากนั้นไปเรียนชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนไฮสคูล ในซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา
ขันเงิน เคยเผยกับ Praew Magazine ว่า เขาเซ็นสัญญากับค่ายโซนี่มิวสิคตั้งแต่ยังเรียนไม่จบไฮสคูล เนื่องจากเจ้าตัวมีความฝันอยากทำเพลงและไม่อยากเรียนต่อมหาวิทยาลัย แต่สุดท้ายเส้นทางก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ต้องกลับมาประเทศไทยและเดินเตะฝุ่นอยู่เป็นปี ๆ
จนประทั่งปี 2538 ได้เข้าไปอยู่กับสังกัดแกรมมี่ ทำงานเพลงออกมาในชื่ออัลบั้ม Hip Hop Story ในนาม ขัน-ที แต่พออยู่ไปสักระยะก็รู้สึกหมดแพสชั่น จึงนำเงินเก็บที่มีไปนิวยอร์กเพื่อหาแรงบันดาลใจ
ที่สหรัฐอเมริกาเขาเช่าห้องพักราคาถูกอยู่ร่วมกับ “เดย์-จำรัส ทัศนละวาด” และ “เวย์-ปริญญา อินทชัย” ที่ต่อมาทั้ง 3 ได้ร่วมกันก่อตั้งวง “ไทยเทเนียม” ขึ้น
ขันเงิน นิยามตัวเอง ว่าจริง ๆ แล้วเขาไม่ใช่นักธุรกิจ แต่เป็นศิลปินที่พอทำธุรกิจได้นิดหน่อย จุดเริ่มต้นคือการได้ไปอยู่อเมริกาตั้งแต่เด็ก ๆ พ่อและแม่ก็เลี้ยงแบบต่างประเทศ คือ อยากได้อะไรต้องหาเองเพื่อเห็นคุณค่าของสิ่งนั้น
จุดพลิกผันของครอบครัวขันเงินเกิดขึ้นเมื่อปี 2553 หลังเขาไปอยู่อเมริกาได้เพียงปีเดียวคุณพ่อก็เสียชีวิตลง ชีวิตหลังจากนั้นก็มีแต่ความยากลำบาก ด้วยคุณพ่อที่เป็นนักธุรกิจจากไปจึงไม่มีใครสานต่อกิจการและทำให้เกิดหนี้มหาศาล แม่ของขันเงินต้องขายบ้านเพื่อจ่ายหนี้ แล้วเริ่มต้นกิจการใหม่ด้วยการเปิดผับเล็ก ๆ
ขันเงิน ทำธุรกิจมาหลายอย่าง ธุรกิจแรกที่เริ่มทำ คือ แบรนด์สื้อผ้าชื่อว่า “9 Face” ซึ่งทำไปได้เรื่อย ๆ เป็นเวลากว่า 10 ปี ก่อนที่เจ้าตัวจะโฟกัสหลายอย่างมากเกินไปจนต้องปิดกิจการในที่สุด
นอกจากนี้ขันเงินยังเคยทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นโครงการขนาดเล็ก โดยมีแรงบันดาลใจมาจากการชอบตกแต่งบ้าน ทำให้มีส่วนเข้าไปร่วมการดีไซน์ในธุรกิจ และยังเคยถือหุ้นในสายการบิน “Asian Air” ที่ให้บริการแบบเช่าเหมาลำ บินตรงจากกรุงเทพฯ-กรุงโตเกียว แต่ประกาศล้มละลายไป
ขันเงิน กล่าวใน MiX Magazine ว่า ผมลองทำธุรกิจมาเยอะ เช่น ร้านอาหาร ผับ บาร์ แต่ก็เจ๊งหมด ส่วนเปิดร้านขายเสื้อผ้าก็ ถู ๆ ไถ ๆ ได้เงินเลี้ยงบริษัทแต่ไม่มีกำไร ทำสายการบิน เปิดสตูดิโอ ทำบ้านจัดสรร ทำเกี่ยวกับน้ำมัน ซึ่งทำเยอะเกินไป
ในปี 2551 ขันเงินยังเคยทำทำมหกรรมคอนเสิร์ต “Asian Hip-Hop Festival” เฟสติวัลใหญ่ มีศิลปิน 8 ประเทศมาร่วมงาน แต่ก็ขาดทุน ติดหนี้เป็นสิบล้านบาท
ส่วนเรื่องความรัก ขันเงิน เคยมีแฟนเป็นดาราสาวแสนสวย ศรีริต้า เจนเซ่น สุดท้ายเลิกรากันไปโดย ศรีริต้า เข้าพิธีวิวาห์กับหนุ่มไฮโซ กรณ์ ณรงค์เดช ซึ่งขันเงินก็ไปร่วมแสดงความยินดีในงานแต่งด้วย เพราะแม้จะเลิกรากนในฐานะคนรักกันไปแล้ว แต่ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
บริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ของ ขันเงิน
ข้อมูลจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
ไทยเทเนี่ยม เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด
- ข้อมูลล่าสุดปี 2562 สถานะ ยังดำเนินการอยู่
- เป็นผู้จัดให้มีการแสดงด้านความบันเทิง
- รายได้รวม 52,355,770.87 บาท
- รายจ่ายรวม 52,596,241.03 บาท
- ขาดทุน 240,470.16 บาท
ไทยเทเนี่ยม พับลิชชิ่ง จำกัด
- ข้อมุลล่าสุดปี 2562 สถานะ ยังดำเนินการอยู่
- ประกอบกิจการเป็นผู้จัดการและดูแลผลประโยชน์ เก็บผลประโยชน์และจัดการเผยแพร่เพลงภาพยนตร์
- รายได้รวม 698,475.81 บาท
- รายจ่ายรวม 38,075.03 บาท
- กำไร 586,719.62 บาท
ไทยเทเนี่ยม เบฟเวอเรจ จำกัด
- ข้อมูลล่าสุดปี 2564 สถานะ ยังดำเนินการอยู่
- ผลิตและจำหน่ายน้ำดื่มบริสุทธิ์และน้ำแร่บรรจุขวด
- รายได้รวม 1,227.49 บาท
- รายจ่ายรวม 1,288,698.28 บาท
- ขาดทุน 1,287,470.79 บาท
เอฟ ยู พี เอ็ม จำกัด
- ข้อมูลล่าสุดปี 2565 สถานะ ยังดำเนินการอยู่
- ประกอบธุรกิจจัดให้มีการแสดงคอนเสิร์ต
- รายได้รวม 0 บาท
- รายจ่ายรวม 10,470.22 บาท
- ขาดทุน 10,470.22 บาท
น็อค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
- ข้อมุลล่าสุด ปี 2562 สถานะ เสร็จการชำระบัญชี
- ค้าผ้า ด้าย เครื่องนุ่งห่ม เสื้อผ้าสำเร็จรูป
- รายได้รวม 0 บาท
- รายจ่ายรวม 30,156.65 บาท
- ขาดทุน 30,156.65 บาท
สำหรับ เอ็ม พิคเจอร์ส เป็นธุรกิจลงทุนในกิจการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านภาพยนตร์ โดยผ่านทางบริษัทย่อยต่าง ๆ เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับการจัดซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ และธุรกิจผลิตภาพยนตร์ไทย เพื่อจัดจำหน่ายผ่านโรงภาพยนตร์ พร้อมทั้งการขายลิขสิทธิ์ให้สื่อทางทีวีในรูปแบบของ cable TV, Free TV, Internet, IPTV, VIDEO on demand เป็นต้น โดยไตรมาส 1/2566 มีกำไรสุทธิ 2.87 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 42%