รู้จัก “เสี่ยโต้ง-สิริพงษ์” นายทุนใหญ่หนังไทบ้าน และผู้มีตำแหน่งในกระทรวงศึกษาธิการ

ภาพจาก Siripong Angkasakulkiat

ประวัติ “เสี่ยโต้ง-สิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ” นายทุนใหญ่หนังจักรวาลไทบ้าน อดีต ส.ส.ศรีษะเกษ พรรคภูมิใจไทย ผู้งดออกเสียงโหวต “บิ๊กตู่” สวนมติพรรคเมื่อปี 2562 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ และโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ

วันที่ 24 ตุลาคม 2566 ชื่อของนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ หรือ “เสี่ยโต้ง” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ และโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ ซึ่งมีอีกบทบาทหนึ่ง คือ เป็นผู้อำนวยการสร้างหนังในจักรวาลไทบ้าน  ถูกพูดถึงอีกครั้งภายหลังจากที่หนังเรื่องดังกล่าวกำลังเป็นกระแสและมีรายได้ทะยานสู่ 500 บ้านบาท “ประชาชาติธุรกิจ” จะพาไปทำความรู้จักกับเขามากขึ้น

ประวัติ “เสี่ยโต้ง-สิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ”

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ หรือเสี่ยโต้ง เป็นอำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ เกิดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2519 ปัจจุบันอายุ 47 ปี จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี จากสาขาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต, ปริญญาโท สาขาการจัดการระบบสารสนเทศ (Management Informention System หรือ MIS) จากมหาวิทยาลัยโคโลราโด (University of Colorado) ประเทศสหรัฐอเมริกา และปริญญาเอก สาขาเกษตรเขตร้อน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

เสี่ยโต้ง มีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้ชื่อ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สิริมงคลพร้อพเพอร์ตี้ ขายบ้านจัดสรรประเภทบ้านเดี่ยว รวมทั้งหมด 7 โครงการ 1,000 ยูนิต ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ก่อนที่จะเริ่มขยับขยายธุรกิจบ้านจัดสรรไปยังพื้นที่ จ.อุบลราชธานี

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ และโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ

“เสี่ยโต้ง-สิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ” กับเส้นทางการเมือง

นายสิริพงศ์ก้าวสู่การเมือง เป็น ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคชาติไทย เมื่อปี 2550 และเป็นกรรมการบริหารพรรคชาติไทย แต่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี ในคดียุบพรรคการเมือง เมื่อปี 2551 จนกระทั่งพ้นกำหนดเวลาถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง เขาจึงได้เข้าสังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา และเคยถูกวางตัวเป็นเลขาธิการพรรคอีกด้วย

ต่อมาย้ายสังกัดมาอยู่พรรคภูมิใจไทย ก่อนที่จะลงสมัคร ส.ส. ศรีสะเกษ เขต 1 พรรคภูมิใจไทย ชนะนายธเนศ เครือรัตน์ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย กว่า 9.6 พันคะแนน เป็น ส.ส. สมัยที่ 2 ได้เป็นผลสำเร็จ

โดยเขาเคยให้สัมภาษณ์กับมติชน ถึงเหตุผลในการเลือกเข้าพรรคภูมิใจไทย ว่า 1.เป็นพรรคขนาดกลาง 2.เป็นพรรคที่ใกล้เคียงกับภูมิประเทศบ้านเกิดของตน คือภาคอีสานตอนล่าง และ 3.ชอบความแมน ความลุย พูดไม่เก่ง แต่ทำเยอะ ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจ ซึ่งเป็นผู้ทาบทามให้เขาย้ายมาร่วมพรรคผ่านทางคุณพ่อ (ดร.ฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ)

โดยเหตุกาณ์สำคัญเมื่อปี 2562 เขาเป็น สส.พรรคภูมิใจไทย เพียงคนเดียวที่กล้าแหกมติพรรคในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในสมัยพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งขัดกับมติพรรคภูมิใจไทย ที่มติพรรคออกเสียงสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในขณะนั้นเขากลายเป็นบุคคลที่ชาวโซเชียลต่างพูดถึงและชื่นชมในความกล้า และการรักษาสัจจะของตนเองที่ได้ให้ไว้กับพี่น้องประชาชนเมื่อตอนหาเสียง

“เสี่ยโต้ง-สิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ” นายทุนใหญ่หนังไทบ้าน

ในบทความสถานีคิดเลขที่12 : ที่เขียนโดยปราปต์ บุนปาน ระบุว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้  “เสี่ยโต้ง” ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ Feed ในฐานะผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ ว่า “ไทบ้าน เดอะซีรีส์ ภาคแรก” เมื่อปี 2560 มาถึง “สัปเหร่อ” ในปี 2566 หนังในจักรวาลนี้เดินทางมาไกลมาก

“ไทบ้านแรกๆ มันก็เป็นหนังตลกธรรมดา สะท้อนแค่วิถีชีวิต แต่ข้อคิดอะไรมันอาจจะไม่ได้เยอะ มันอาจจะไม่ได้คมคายมากมายนัก และมันก็ค่อยๆ คมขึ้นทีละภาค ทีละภาค เริ่มมีบทเรียนเพิ่มขึ้นทีละภาค ทีละภาค จนมาเป็นสัปเหร่อในภาคนี้

และการที่หนังสัปเหร่อเข้าถึงคนดูในวงกว้างกว่า 1 ล้านคน ได้ก็เป็นเพราะกระแสปากต่อปาก จากแฟนกลุ่มเดิมที่ตามดูหนังมาตั้งแต่ภาคแรก ๆ ไปสู่ผู้ชมกลุ่มใหม่ ๆ และสังคมไทยเปิดกว้างมากสำหรับการดูหนัง โดยเฉพาะเป็นหนังภาษาถิ่น ซึ่งตนคิดว่าตัวนี้มันช่วยได้เยอะ

จุดเริ่มต้น “จักรวาลไทบ้าน” เริ่มจากค่ายดูดาวที่ศรีสะเกษ

หลายคนอาจไม่เชื่อว่า จุดเริ่มต้นของ “จักรวาลไทบ้าน” เกิดขึ้นในค่ายดูดาวสำหรับเยาวชนที่จังหวัดศรีสะเกษ

“ตอนนั้น เด็กกลุ่มนี้ (ทีมทำหนังจักรวาลไทบ้าน) เขามาเข้าค่ายดูดาว มันมีฝนดาวตก แล้วผมก็จัดค่ายดูดาว เด็กกลุ่มนี้เขาก็มากัน 3-4 คน ก็ถามผม ตอนนั้น ผมเล่นกล้อง (แคนนอน) 5D Mark II เขาก็คงอยากดูกล้องผม แล้วก็บอกว่าเนี่ยจะถ่ายดาวตกถ่ายยังไง (ผม) ก็สอนเขา”

หลายปีผ่านไป คนรุ่นใหม่ในค่ายดูดาวเริ่มได้รางวัลจากการแข่งขันทำมิวสิกวิดีโอ และได้เข้าศึกษาต่อทางด้านภาพยนตร์ในระดับมหาวิทยาลัย แล้วในที่สุด พวกเขาก็มาหา “เสี่ยโต้ง” เพื่อขอเงินไปทำ “โปรเจ็กต์จบการศึกษา”

เริ่มแรก อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ พยายามเป็นคนกลางที่แนะนำคนรุ่นใหม่เหล่านี้ให้ได้รู้จักกับนายทุนตัวจริงในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ทว่า กลับไม่มีนายทุนคนไหนเชื่อว่า “หนังไทบ้าน เดอะซีรีส์” จะประสบความสำเร็จ

“ปรากฏว่าก็มีเอ็มแอลเอ็ม (ธุรกิจขายตรง) เจ้าหนึ่ง มาบอกให้เขาทำ เขาก็บอกว่าไม่เอาไม่อยากทำ เพราะเขาไม่อยากให้ใครมาครอบความคิดเขา เขาบอกเอ็มแอลเอ็มเสนอเงินให้เขาห้าล้าน แต่เขาบอกสี่ล้านเขาทำได้

“เขาก็เลยบอกว่าผมจะเป็นนายทุนให้เขาได้ไหม? ผมก็บอกว่าผมไม่ได้มีธุรกิจนี้ แล้วผมก็ไม่อยากทำธุรกิจที่ผมไม่ชำนาญ…

“เราก็ต่อแบบเหมือนต่อรอง เขาบอกอยากได้ 4 บาท ผมก็ต่อไปว่า 2 บาท ได้ไหม? เขาบอกได้ครับ เฮีย เอาเลย”

ในที่สุด “หนังอีสาน” ที่เริ่มต้นด้วยเงินทุน 2 ล้านบาท ก็เติบโตแผ่ขยายกลายเป็นภาพยนตร์ที่สร้างรายได้หลายร้อยล้านบาท ณ ปัจจุบัน

“ถ้าพูดถึง ณ วันนี้ คนก็อาจจะบอกว่าเงินน้อย นิดเดียว ลงทุนดูซิ หนังมันดีขนาดนี้วันนั้น ที่ผมลงไป ไม่มีใครพูดแบบนี้เลย ทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่า เอาเงินไปเผาไฟทิ้งเหรอ? ทุกคนพูดว่าเจ๊งแน่นอน”

สิริพงศ์เล่าถึงการตัดสินใจแหวกแนวคราวนั้น ที่นำมาสู่ปรากฏการณ์ “สัปเหร่อ” ตอนนี้

เสี่ยโต้งเล่นเป็นตัวประกอบในหนังจักรวาลไทบ้าน : ภาพจาก Siripong Angkasakulkiat