ประวิตร ในเกมรักษาการนายกฯ ใช้อำนาจเต็ม 5 วาระ เสริมบารมี

ประวิตร เดินหมาก ตาเดียว กินรวบ 5 ต่อ
แฟ้มภาพ

การแบกสรีระของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กลางคันระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2565 เพื่อไปบัญชาการด้วยตัวเองการลงมติรับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 วงเงินกว่า 3.185 ล้านล้านบาท

ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “หยุดปฏิบัติหน้าที่” ปม สถานะนายกรัฐมนตรี 8 ปี ไม่ถึง 24 ชั่วโมง

เป็นการเดินหมาก พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ตาเดียวของ พล.อ.ประวิตร กินได้ถึง 5 ต่อ

ต่อแรก พ.ร.บ.งบฯปี’66 ซึ่งเป็น “กฎหมายการเงิน” ผ่านฉลุย “ปิดทาง” พล.อ.ประยุทธ์ “ยุบสภา”

ต่อที่สอง ขึ้นแท่น “รักษาการนายกรัฐมนตรี” แม้จะมีความเห็นต่างในแง่ของข้อกฎหมาย แต่ “วิษณุ เครืองาม” เนติบริกร กันรันตีมี “อำนาจเต็ม”

ต่อที่สาม-ต่อยอดจากอำนาจเต็ม พล.อ.ประวิตรสามารถ “ปรับ ครม.” โดยเฉพาะเก้าอี้ ครม.โควตาพรรคพลังประชารัฐ ที่ยังว่างอยู่ 2 เก้าอี้

ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลจะไม่แตะ เพื่อป้องกันแรงกระเพื่อม-พรรคร่วม (ขู่) ถอนตัว

ยกเว้นเกิด “อภิมหาดีล” พลังประชารัฐ “จับมือ” เพื่อไทย ก่อนกำหนด

ต่อที่สี่ พล.อ.ประวิตร ล้วง-รื้อ-ล้างโผทหาร-ตำรวจ-ข้าราชการระดับสูง ตั้งแต่ระนาบปลัดกระทรวง-อธิบดี ในช่วงสุญญากาศ

ประเดิมด้วย โผบิ๊กสีกากี ที่ พล.อ.ประวิตร จะเป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2565 ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 29 สิงหาคม 2565

โดยมีไฮไลต์-วาระที่ 4 เรื่องเพื่อเสนอพิจารณา เรื่องที่สอง การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตรจะถือเป็นฤกษ์งามยามดี ใช้ “พระคุณ” จดปากกา เลื่อนเงินเดือนประจำปี 2565 ครั้งที่ 1 ครึ่งปีแรก แก่ข้าราชการตำรวจ ผู้รับเงินเดือนในระดับ ส.6

ต่อที่ห้า พล.อ.ประวิตร ถือ “ดาบอาญาสิทธิ์” สามารถ “ยุบสภา” ชี้เป็น-ชี้ตายทุกพรรคการเมือง

พล.อ.ประวิตร เดินหมากตาเดียว กิน 5 ต่อ สะเทือนทั้งกระดานอำนาจ