รองโฆษก ปชป. ชี้ สังคายนาถือครองอาวุธปืน ป้องกันเหตุกราดยิงซ้ำซาก

ศิริภา อินทวิเชียร สังคายนาปืน กราดยิง
น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์

ศิริภา รองโฆษก ปชป. ถอดบทเรียนเหตุกราดยิงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หนองบัวลำภู ปลดล็อกเข้าถึงสิทธิรักษาโรคจิตประสาท-สังคายนาถือครองอาวุธปืน-ทบทวนกฎหมายยาเสพติด ป้องกันเกิดเหตุซ้ำซาก

วันที่ 7 ตุลาคม 2565 น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงความเสียใจกับทุกครอบครัวกับการสูญเสียจากกรณีกราดยิงที่จังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมกับระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ได้สะท้อนปัญหาอย่างน้อย 3 มิติ มิติที่ 1 คือปัญหาด้านสุขภาพจิตของประชาชนโดยรวม และสุขภาพจิตของกลุ่มอาชีพที่จะต้องเผชิญกับความเครียดอยู่ตลอดเวลา ด้วยจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงมากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สวัสดิการของรัฐที่ไม่ครอบคลุม ด้วยสถิติจากกรมสุขภาพจิตผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษามีเพียงร้อยละ 60

น.ส.ศิริภากล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ไม่ทราบว่าตนเองนั้นคือผู้ป่วย การที่ผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษา นอกจากจะเพิ่มโอกาสในการทำร้ายตนเอง ยังเสี่ยงต่อการทำร้ายผู้อื่น รัฐจึงจำเป็นต้องกำหนดให้การคัดกรองสุขภาพจิตอย่างสม่ำเสมอเป็นภาคบังคับในทุกภาคส่วน และขยายบัญชียาหลักแห่งชาติให้ครอบคลุมยาในการรักษาผู้ป่วยทางจิต เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาได้

น.ส.ศิริภากล่าวว่า มิติที่ 2 การมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง รัฐจำเป็นที่จะต้องทบทวนหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน ให้มีการคัดกรองสุขภาพจิตของผู้ที่มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองทุกปี โดยผู้ที่มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองจะต้องส่งใบรับรองจากแพทย์ให้กับหน่วยงานที่กำกับดูแล เพื่อเป็นการต่ออายุใบอนุญาต และหากไม่ผ่านการคัดกรองสุขภาพจิตให้หน่วยงานทำการยึดอาวุธปืนไว้

น.ส.ศิริภากล่าวว่า มิติที่ 3 ปัญหายาเสพติดที่ประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่มองผู้เสพเป็นผู้ป่วย เน้นแก้ปัญหาด้วยการบำบัด แต่กลับให้ผู้เสพสามารถมียาเสพติดไว้ในครอบครองในจำนวนที่มากยิ่งขึ้น แน่นอนว่ากฎหมายใหม่ที่บังคับใช้มาแล้วเกือบหนึ่งปีเต็ม จำนวนผู้ใช้ยาเสพติด และอาชญากรรมจากยาเสพติดไม่ลดลง และเราอยู่ในยุคที่ยาเสพติดเกลื่อนเมือง ขาดการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง

“ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงจำเป็นจะต้องเร่งถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ดังกล่าว และปรับแก้นโยบายและกฎหมายให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาสังคมในปัจจุบัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุสะเทือนใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าในประเทศไทยอีกต่อไป” น.ส.ศิริภากล่าว