เตือนภัยคนใช้แอปหาคู่ แนะ 4 แนวทาง ป้องกันถูกหลอกลวง

แนะวิธีป้องกันอันตรายจากแอปหาคู่
ภาพจาก pixabay

เตือนภัยผู้ใช้แอปหาคู่ ระมัดระวังการคบหาบุคคลบนโลกออนไลน์ เสี่ยงตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ อาชญากรรม หลายรูปแบบ

วันที่ 14 ตุลาคม 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันได้ปรากฏกรณีการใช้แอปพลิเคชั่นหาคู่เป็นช่องทางในการก่ออาชญากรรมโดยต่อเนื่อง เช่นล่าสุดได้ปรากฏว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับคดีทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ได้ใช้แอปพลิเคชั่นหาคู่หลอกลวงเหยื่ออีกราย โดยมีการกักขัง ทำร้ายร่างกาย แต่เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือออกมาได้และจับกุมผู้กระทำผิดได้

ดังนี้ จึงขอเตือนให้ประชาชนที่มีการใช้แอปพลิเคชั่น หรือโซเชียลมีเดียทุกช่องทางในการหาคู่ ให้ใช้ความระมัดระวังในการคบหาผู้ที่พบกันในช่องทางดังกล่าวอย่างรอบคอบ เนื่องจากมีมิจฉาชีพและอาชญากรหลากหลายรูปแบบแอบแฝงอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการหลอกลวงไปทำร้ายร่างกาย หลอกลวงเพื่อมีเพศสัมพันธ์แล้วถ่ายคลิปเพื่อนำไปแบล็กเมล์เรียกเงินจากเหยื่อ

อย่างไรก็ตาม กรณีที่พบมากคือกลุ่มโรแมนซ์สแกม ทั้งที่เป็นคนไทยและต่างชาติ ที่จะเข้ามาหาเหยื่อในลักษณะตีสนิท พูดคุยคบหาเป็นคนรัก จากนั้นจะสร้างเรื่องราวต่าง ๆ เพื่อหลอกลวงให้มีการโอนเงินให้กลุ่มคนร้าย หรือบางกรณีหลอกลวงใช้เหยื่อเป็นเครื่องมือในการกระทำผิดที่เกี่ยวกับยาเสพติด หรือสิ่งผิดกฎหมาย

“ปัจจุบันแอปพลิเคชั่นหรือโซเชียลมีเดียเพื่อการหาคู่ได้รับความนิยมมากของคนทุกวัย เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อหาคู่ได้ทั้งคนไทยและต่างชาติ แต่ความนิยมดังกล่าวก็เป็นช่องโหว่ให้มิจฉาชีพ อาชญากรไซเบอร์เข้ามาใช้เป็นช่องทางในการหลอกลวงเหยื่อด้วยรูปแบบต่าง ๆ

จึงขอเตือนให้ผู้ใช้บริการใช้ความระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อผู้ที่พบกันในโซเชียลมีเดียโดยง่าย ขอให้ตรวจสอบประวัติบุคคลที่จะคบหาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะที่เข้ามายืมเงินและให้โอนเงิน ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดอย่าโอนเด็ดขาด ให้สันนิษฐานก่อนว่าเป็นคนร้ายที่เข้ามาหลอกลวง” น.ส.ไตรศุลีกล่าว

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับแจ้งเหตุอาชญากรรมผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย และมีการออกข่าวสารเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับแนะนำแนวทางป้องกันการถูกหลอกลวงจากใช้แอปพลิเคชั่นหาคู่ ดังนี้

  1. ระมัดระวังในการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ไม่บอกข้อมูลทั้งหมดกับคนที่เพิ่งรู้จัก
  2. ไม่หลงเชื่อ หรือไว้ใจบุคคลใดโดยง่าย หากมีความจำเป็นต้องนัดเจอควรมีเพื่อนหรือผู้ปกครองไปด้วย
  3. ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้ใช้สื่อสังคมออนไลน์หรือโทรศัพท์มือถือเพียงลำพัง ควรพูดคุยทำความเข้าใจถึงขอบเขตการใช้งานว่าแอปพลิเคชั่นไหนใช้ได้บ้าง หรือแอปพลิเคชั่นใดควรหลีกเลี่ยง
  4. อะไรที่ดีเกินไป เร็วเกินไปให้ตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนว่าอาจจะไม่ดีเสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นโดยง่ายผ่านสื่อสังคมออนไลน์

ทั้งนี้ หากผู้ใช้แอปพลิเคชั่นหาคู่หรือโซเชียลมีเดียช่องทางต่าง ๆ พบเบาะแสการกระทำผิด ไม่ว่าจะรูปแบบใด ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ความช่วยเหลือ และดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามขั้นตอนกฎหมาย

โดยสามารถแจ้งได้ทั้งสายด่วน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 191 หรือสายด่วน ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง