ประยุทธ์-ภริยา เข้าเฝ้า สมเด็จพระสังฆราช เนื่องในวันขึ้นปีใหม่

ประยุทธ์ ภริยา เข้าเฝ้า สมเด็จพระสังฆราช

พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมภริยา เดินทางเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะ สมเด็จพระสังฆราช อวยพรคนไทยทุกคนสุขภาพดี แข็งแรง

วันที่ 1 มกราคม 2566 มติชนรายงานว่า เมื่อเวลา 09.45 น. ที่พระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ถนนเฟื่องนคร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566

โดยทันทีที่มาถึง นายกรัฐมนตรี พร้อมภริยาถวายพวงมาลัยหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมทักทายประชาชนที่เดินทางมาทำบุญตักบาตรที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร

ก่อนที่จะทักทายสื่อมวลชนว่า “สวัสดีปีใหม่ มีความสุขมากๆนะ ขอให้สุขภาพแข็งแรง สุขภาพดีกันทุกๆคนนะจ้ะ” จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เดินทักทายประชาชนที่เดินทางมาทำบุญ พร้อมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอย่างอารมณ์ดี พร้อมอวยพรเนื่องในเทศกาลปีใหม่ ตลอดเส้นทาง

มติชนรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้สัมภาษณ์ว่า

สมเด็จพระสังฆราชฯทรงประทานพรและได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของพระพุทธศาสนา พร้อมขอให้ใจเย็นมีสมาธิและสติ ซึ่งถือเป็นพระเมตตาของพระองค์ท่านที่มอบให้ ขณะเดียวกันทรงตรัสถึงเรื่องความสงบเรียบร้อย และความรักความสามัคคีอย่างที่ได้ประทานในคำขวัญไปแล้ว

และสิ่งสำคัญที่สุดคือความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง เพราะประเทศเราไม่เหมือนคนอื่น เรามีการทำบุญกับพระสงฆ์ ทำบุญให้วัดควบคู่กันไป และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้กับประชาชน ซึ่งประเทศอื่นไม่เหมือนกับประเทศไทย ซึ่งตนก็ได้กราบทูลฯ ไปว่า ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งความสมานฉันท์เป็นกลางไม่มากหรือน้อยเกินไป ขณะเดียวกันต่างประเทศก็ให้ความสำคัญกับศาสนาพุทธ

“ก็ขอให้ช่วยกันให้ชาติบ้านเมืองผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ก่อน”

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ไม่ตอบว่าการเมืองจะมีความเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่ แต่หันไปโบกมือทักทายประชาชนแทน

ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงประทานพรส่วนตัวอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ทรงประทานกำลังใจให้” ส่วนได้ฝากถึงบ้านเมืองอย่างไรนั้นนายกฯ กล่าวว่า “ท่านให้รักและสามัคคี”

เมื่อถามว่า เป้าหมายทางการเมืองในปี 66 นี้ตั้งเป้าไว้อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ทำมาอยู่แล้ว ไม่ต้องตั้งเป้าอะไร เพราะเป้าหมายคือประชาชน เป้าหมายที่ทำก็เพื่อประชาชนทั้งหมด

เมื่อถามย้ำว่า เป้าหมายในปีนี้สูงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว แต่แสดงอารมณ์หงุดหงิดทางสีหน้าเล็กน้อย ก่อนหันโบกมือทักทายประชาชนแทน

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ที่สมเด็จสังฆราชฯ ทรงตรัสให้ใจเย็นลงหมายความว่าอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ หันมากล่าวว่า “ท่านไม่ได้ว่าฉันใจร้อน ไม่ใช่แบบนั้น แต่เพราะเรื่องมันเยอะ ท่านทรงตรัสต่อว่าขอให้ตั้งสติให้ดี อย่าหงุดหงิด ซึ่งก็กราบบังคมทูลฯไปว่า “ได้พยายามอยู่แล้ว เราไม่ใช่คนที่อยู่ดีดีจะโมโหเมื่อไหร่”

เมื่อถามว่า ของขวัญในปี 2566 นี้อยากได้อะไร พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า อยากให้บ้านเมืองสงบ บ้านเมืองเจริญก้าวหน้าพัฒนา ไปสู่ความมั่นคงมั่งคั่งยังยืน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ปีนี้เป็นห่วงอะไรเป็นพิเศษบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอบด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์หงุดหงิดทันทีว่า “แล้วเธอเป็นห่วงอะไรไหมล่ะ เป็นห่วงไหมที่ถามฉันแบบนี้ ถ้าเธอห่วงก็จะได้ช่วยแก้ ถ้าเธอไม่ห่วงก็ไม่ต้องช่วยฉัน”

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศก่อนเดินทางกลับ และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ ได้ตะโกนให้กำลังใจ นายกรัฐมนตรี พร้อมขอจับมือ โดยระบุว่า นายกฯสู้ๆ ลุงตู่ขออย่าถอดใจนะ ก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์ ตอบเสียงดังว่า “ผมไม่เคยถอดใจอยู่แล้ว” ก่อนจะเอามือทุบที่หน้าอกตัวเองเพื่อแสดงความมั่นใจ