แผนลับ ประยุทธ์ ไข่ในหิน ใครเป็นใครในวอร์รูมศึกซักฟอก

ศึกอภิปราย

กลางเดือนกุมภาพันธ์ 2566 พรรคฝ่ายค้านล็อกเวลาอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี-ผู้พ้นจากสถานะความเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคแกนนำรัฐบาล-พลังประชารัฐ

ทว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในสถานภาพสมาชิกพรรค-แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีรวมไทยสร้างชาติ ยังคงมี “องครักษ์พิทักษ์นายกฯ” ที่เป็น ส.ส.ในสภา-อดีต ส.ส.นอกสภา

5 ประเด็น ที่พรรคฝ่ายค้านจะนำมาซักฟอกพล.อ.ประยุทธ์คนเดียวทิ้งทวน ได้แก่ 1.ไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา 2.ความล้มเหลวเศรษฐกิจ 3.ปัญหาทุจริตและการใช้เงินเพื่อการเมือง 4.ปัญหายาเสพติด และ 5.สินค้าเกษตรตกต่ำ-ความเดือดร้อนเกษตรกร

เป็นศึกซักฟอกครั้งสุดท้ายของรัฐบาลที่มีพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำ แต่เป็นครั้งแรกของการซักฟอกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ

องครักษ์ พล.อ.ประยุทธ์ในสภาที่สวมเสื้อพลังประชารัฐ แต่ใจรวมไทยสร้างชาติ นำทีมโดย “สายัณห์ ยุติธรรม” ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ผนึกกำลังกับเพื่อนร่วมพรรค 3 ส.ส.สงขลา นายศาสตรา ศรีปาน นายพนม พรหมเพชร และ ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี และนายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา

น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.กทม. นายสุรชาติ ศรีบุศกร ส.ส.พิจิตร นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ นายมานัส อ่อนอ้าย ส.ส.พิษณุโลก

เสี่ยเฮ้ง สุชาติ ชมกลิ่น แม้จะลาออกจาก ส.ส.ชลบุรีแล้ว แต่ยังมีกลุ่มก๊วนที่คอยกดปุ่มคอนโทรลตอบโต้ในสภา ทั้ง น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ นายรณเทพ อนุวัฒน์ ส.ส.ชลบุรี นายสมพงษ์ โสภณ ส.ส.ระยอง

พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา “กำนันบัติ” นายสมบัติ อำนาคะ ส.ส.สระบุรี นายสาธิต อุ๋ยตระกูล ส.ส.เพชรบุรี นายประสิทธิ์ มะหะหมัด ส.ส.กทม.

ส่วน ส.ส.พรรครัฐบาลอื่นที่ไปปรากฏตัวในงานบิ๊กอีเวนต์เปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ สมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ยังไม่ลาออกจาก ส.ส.จะเป็นกองหนุน

จากพรรคประชาธิปัตย์ นายเจือ ราชสีห์ และนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พ.ท.สินธพ แก้ววิจิตร ส.ส.นครปฐม พรรครวมพลัง ลูกช้าง สุพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรคประชาชาติ นายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี-เสี่ยเฮ้งส่งเข้าประกวด

มีที่ลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่ได้อยู่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับ พล.อ.ประยุทธ์ในสภา ทั้ง ดร.แด็ก นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่จะเป็นแบ็กอัพ

โดยมี แรมโบ้อีสาน เสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โฆษกเจมส์ อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกรัฐบาล และอ้น น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกรัฐบาล ไว้ส่งข่าวตอบโต้ทางเครือข่ายสื่อโซเชียลมีเดียทั้งไลน์-เพจส่วนตัวและสาธารณะ

“สายัณห์” ผู้ปวารณาตัวอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นคนแรก ๆ และพร้อมยืนซดกับพรรคฝ่ายค้านกลางสภา เพื่อปกป้อง พล.อ.ประยุทธ์ ในศึกอภิปรายครั้งสุดท้าย

“อย่างน้อยต้องมีผมคนหนึ่งอยู่แล้ว ไม่หนักใจ สบาย ถ้าพรรคพลังประชารัฐเฉย ๆ ผมก็ต้องหาทีมมาปกป้อง พล.อ.ประยุทธ์อยู่แล้ว และจะไปหารือกับ ส.ส.พรรคอื่นที่กำลังตัดสินใจจะย้ายไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ 4-5 คน มาร่วมทีม การอภิปรายครั้งนี้เป็นการอภิปรายเหมือนกับหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา อภิปรายตามประเพณี และรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้”

“ตนว่าเป็นการหาเสียง ดิสเครดิต และหลอกด่า พล.อ.ประยุทธ์มากกว่า ซึ่งทำไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 152 อภิปรายทั่วโดยไม่ลงมติเพื่อแนะนำนายกฯในการบริหารประเทศ แล้วจะมาแนะนำได้อย่างไร เพราะเหลือเวลาอีกไม่ถึง 3 เดือน รัฐบาลก็จะครบวาระ นอกจากจะมาหลอกด่าอย่างเดียว และใช้ช่องว่างของกฎหมายหาเสียง หาคะแนน ด่านายกฯ เผด็จการ สืบทอดอำนาจ เรื่องทุจริตหาหลักฐานไม่ได้ ผักบุ้ง
โหรงเหรงเหมือนเดิม”

“นิโรธ สุนทรเลขา” ส.ส.นครสวรรค์ พลังประชารัฐ ที่มีกระแสข่าวว่าจะย้ายไปอยู่พรรค พล.อ.ประยุทธ์ ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ และในฐานะประธานวิปรัฐบาล ในวันที่ 25 มกราคม 2566 จะเรียกประชุมวิป 3 ฝ่าย ประกอบด้วย วิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน และตัวแทนจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อกำหนดวัน ว. เวลา น. จำนวนวันอภิปราย

“ผู้แทนทั้งสองฟากมีสิทธิอภิปราย ซักถาม และให้คำแนะนำรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลอาจจะถือจังหวะและโอกาสนี้ตอบ ขยาย ทำความเข้าใจ และให้ประชาชนได้ทราบผลงานของรัฐบาล แต่ละกระทรวงก็จะต้องนำผลงานมาตอบ การจะให้พรรคร่วมฝ่ายค้านประท้วงจะทำให้เสียเวลาที่มีน้อยอยู่แล้ว”

“ไม่จำเป็นต้องตั้งองครักษ์พิทักษ์นายกฯ เพราะฝ่ายค้านไม่มีอะไรจะอภิปราย ยกเว้นถ้าเล่นกันนอกบท พรรคร่วมรัฐบาลก็จัดตัวไว้อยู่แล้ว ปราบหมดแล้ว ปราบไปตั้งแต่รอบที่แล้ว มารนอกรีตไม่มีแล้ว จะไม่มีออมมือ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ยังเป็นนายกฯของพรรคร่วมรัฐบาล เป็นนายกฯบริหารประเทศอยู่ เป็นโควตาของพรรครัฐบาลอยู่ จึงต้องดูแลให้พรรคฝ่ายค้านอภิปรายอยู่ในกรอบและข้อบังคับ”

ส่วนการซักฟอกรัฐบาลครั้งสุดท้ายจะทำให้ “มลทินติดตัว” ไปถึงวันเลือกตั้งหรือไม่ “ผู้คุมเสียงรัฐบาล” ที่อยู่ระหว่างครุ่นคิดว่าจะย้ายไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ประเมินว่าขึ้นอยู่กับเนื้อหาสาระของฝ่ายค้าน แต่คิดว่าไม่มีผลกระทบ เพราะฝ่ายค้านจะฉายหนังม้วนเดิม-เชือดเฉือนด้วยคำแสลงหู “ท่านผู้นำ” และอ่านไพ่เด็ดของพรรคฝ่ายค้าน จะนำเรื่องเรือหลวงสุโขทัยอับปางมาอภิปราย

นักการเมืองรุ่นใหญ่เมืองปากน้ำโพมองข้ามชอตการอยู่ครบวาระ แต่ พล.อ.ประยุทธ์จะยุบสภาเมื่อ ส.ส.ทุกพรรคการเมืองมีความพร้อม-ส.ส.ย้ายพรรค “ก๊อกสอง”

เป็น ส.ส.ก๊อกสอง ที่ปันใจไปอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ยังไม่ได้ย้ายออกจากพรรค และยังอยู่เป็นองครักษ์ให้กับพล.อ.ประยุทธ์ แลกหมัดกับพรรคฝ่ายค้านในศึกอภิปรายครั้งสุดท้าย

หลังพ้นเดดไลน์ย้ายพรรค 7 กุมภาพันธ์ 2566 ใครอยากย้ายไม่ได้ย้าย-ใครยังไม่ได้ย้ายใคร่ย้าย เพราะไพ่ยุบสภาอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์