รถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี คืบเกือบ 100% เตรียมเปิดใช้ในปี 2566

รถไฟฟ้าสายสีชมพู
ภาพจาก Facebook โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี

รองโฆษกรัฐบาลเผย โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี คืบหน้าเกือบ 100% แล้ว เตรียมใช้งานปีนี้ สถานีส่วนต่อขยาย ศรีรัช-เมืองทองธานี คืบหน้ารวมกว่า 10% คาดเปิดใช้งานปี 2568

วันที่ 23 มกราคม 2566 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงของการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานสร้างเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนและพัฒนาเศรษฐกิจ

โดยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2559 เห็นชอบให้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินงานรถไฟฟ้าสายสีชมพูในรูปแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐจะเป็นผู้ลงทุนค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและภาคเอกชนลงทุนค่างานโยธา ค่างานระบบรถไฟฟ้า ขบวนรถไฟฟ้า และค่าจ้างที่ปรึกษาโครงการ รวมทั้งบริหารเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการ วงเงินลงทุน 53,490.00 ล้านบาท

น.ส.ทิพานันกล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ถือเป็นรถไฟฟ้าสายสำคัญ โดยเป็นโครงการหนึ่งในแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (Mass Rapid Transit Master Plan in Bangkok Metropolitan Region : M-MAP)

เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในพื้นที่ด้านเหนือของกรุงเทพมหานคร ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร เป็นระบบขนส่งมวลชนสายรองประเภทรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Straddle Monorail) มีลักษณะเป็นโครงสร้างยกระดับตลอดแนวเส้นทาง มีจุดประสงค์เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างเขตมีนบุรีและจังหวัดนนทบุรี มีทั้งหมด 30 สถานี ประกอบด้วย

    1. สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี
    2. สถานีแคราย
    3. สถานีสนามบินน้ำ
    4. สถานีสามัคคี
    5. สถานีกรมชลประทาน
    6. สถานีแยกปากเกร็ด
    7. สถานีเลี่ยงเมืองปากเกร็ด
    8. สถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28
    9. สถานีเมืองทองธานี
    10. สถานีศรีรัช
    11. สถานีแจ้งวัฒนะ 14
    12. สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ
    13. สถานีทีโอที
    14. สถานีหลักสี่
    15. สถานีราชภัฏพระนคร
    16. สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ
    17. สถานีรามอินทรา 3
    18. สถานีลาดปลาเค้า
    19. สถานีรามอินทรา กม.4
    20. สถานีมัยลาภ
    21. สถานีวัชรพล
    22. สถานีรามอินทรา กม.6
    23. สถานีคู้บอน
    24. สถานีรามอินทรา 83
    25. สถานีปัญญาอินทรา
    26. สถานีนพรัตน์
    27. สถานีบางชัน
    28. สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ
    29. สถานีตลาดมีนบุรี
    30. สถานีมีนบุรี

ทั้งนี้ รถไฟฟ้าสายสีชมพูยังมีจุดเชื่อมต่อกับโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีอื่น ๆ ถึง 6 สาย ไม่ว่าจะเป็น

  1. รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม หรือรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี
  2. รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี
  3. รถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต ที่สถานีหลักสี่
  4. รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่สถานวัดพระศรีมหาธาตุ
  5. รถไฟฟ้าสายสีเทา ที่สถานีวัชรพล
  6. รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่สถานีปลายทาง (สถานีมีนบุรี)

นอกจากนี้ มีการเชื่อมต่อเส้นทางสายแยก (อิมแพ็คลิงก์) ที่มีจุดบริการอีก 3 สถานี ดังนี้

    1. สถานีศรีรัช
    2. สถานีอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์
    3. สถานีทะเลสาบ เมืองทองธานี

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการหลักคือ รถไฟฟ้า สายสีชมพู มีนบุรี – แคราย ในเดือนธันวาคม 2565 งานโยธา อยู่ที่ 94.43% งานระบบรถไฟฟ้า อยู่ที่ 94.49% ความก้าวหน้ารวมอยู่ที่ 94.48% โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566

สำหรับส่วนต่อขยายช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี ปัจจุบันความคืบหน้าของงานโยธา อยู่ที่ 13.45% งานระบบรถไฟฟ้า อยู่ที่ 4.59% ความก้าวหน้ารวม อยู่ที่ 10.48% โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2568

“การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานนับเป็นผลงานที่โดดเด่นของ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งนี้ต้องใช้ระยะเวลาจึงจะเห็นผล ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้เร่งรัดและติดตามความก้าวหน้าของโครงการอย่างต่อเนื่อง และต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันผลักดันและที่สำคัญคือความร่วมมือและเข้าใจของพี่น้องประชาชน

เมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จ จะเป็นทางเลือกให้กับประชาชน แบ่งเบาภาระในการเดินทาง ประหยัดเวลา แก้ไขปัญหาการจราจรหนาแน่น และกระจายความเจริญไปในพื้นที่ตลอดแนวเส้นทางของรถไฟฟ้า ลดมลพิษเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

และนอกจากจะเร่งโครงการรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯและปริมณฑลแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ยังเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พัฒนาประเทศให้เติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างยั่งยืน” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว