ณัฐวุฒิ เปิดคิวเพื่อไทย ปูพรมปราศรัยใหญ่ 3 เดือนเต็ม

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย

ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ประกาศคิวเวทีปราศรัยใหญ่เพื่อไทย ตั้งแต่ มกราคม-มีนาคม ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ยุบสภาในกุมภาพันธ์ จะเปิดเวทีหาเสียง กทม.ทันที

วันที่ 24 มกราคม 2566 ที่พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย แถลงว่า ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2566 ครอบครัวเพื่อไทยเตรียมเปิดเวทีปราศรัยใหญ่หลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง นำโดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายอดิศร เพียงเกษ ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นางสาวจิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง สมาชิกพรรคเพื่อไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย โดยแต่ละเวทีจะมีการสับเปลี่ยนผู้ปราศรัยตามความเหมาะสมแต่ละพื้นที่

เริ่มเวทีแรกในวันที่ 27 มกราคม 2566 ลงพื้นที่และเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่สนามกีฬากลาง จ.เลย ในเวลา 13.30-15.00 น. ตามด้วยเวทีที่ 2 เวลา 16.30 น. ที่ลานตลาดนัดเก้าค่ำ ต.กุดดินจี่ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู

วันที่ 28 มกราคม 2566 เปิดเวทีปราศรัยที่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ในเวลา 09.00 น. จากนั้นจะไปเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ 2 เริ่มเวลา 14.30 น. ที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย

วันที่ 29 มกราคม 2566 เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่ลานองค์การบริหารส่วนจังหวัด อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เริ่มเวลา 17.30 น. โดยก่อนหน้านั้นจะลงพื้นที่พบปะผู้ประกอบการท่องเที่ยวของจ.กาญจนบุรี ด้วย

โดยทั้ง 3 วันนี้จะเป็นการคิกออฟเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคเพื่อไทย พร้อมรณรงค์เป้าหมายแลนด์สไลด์เพื่อไทยเท่านั้น เราจะเดินหน้าในพื้นที่จังหวัดที่อยู่ห่างไกลกรุงเทพฯ ที่สามารถเดินทางด้วยเครื่องบิน เดินทางถี่ได้ และเพื่อให้เหมาะสมกับนางสาวแพทองธารที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าไม่เป็นอุปสรรค และแสดงความพร้อมตลอดเวลาในการลงพื้นที่ การเสวนาหารือ รวมทั้งการขึ้นเวทีปราศรัย

นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า ขณะนี้บุคลากรของพรรคเพื่อไทยทุกองคาพยพกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อเตรียมการลงพื้นที่พบปะประชาชน และเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งขึ้นอยู่กับการประกาศยุบสภา หากประกาศยุบสภาภายในเดือนกุมภาพันธ์ จะมีการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งพรรคเพื่อไทยอาจจะมีการประกาศนโยบายในโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง

แต่หากไม่มีการยุบสภา โปรแกรมการลงพื้นที่และเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ทุกอย่างจะเดินหน้าตามแนวทางที่กำหนดไว้ และในเดือนมีนาคมจะเดินหน้าต่อไป  เพื่อนำเสนอนโยบายและแนวทางของพรรคต่อพี่น้องประชาชน มุ่งหวังให้พี่น้องประชาชนไม่ต้องประสบกับวิกฤตปัญหาปากท้อง

ซึ่งเป็นวิกฤตอันดับหนึ่งของพี่น้องประชาชน พรรคเพื่อไทยซึ่งมีจุดแข็งด้านนโยบายที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงกับสถานการณ์และความต้องการของพี่น้องประชาชน สามารถปฏิบัติได้จริง และเป็นสิ่งที่ทำมาตลอดระยะเวลา 20 ปี

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีความต้องการรักษาอำนาจไว้ให้นานที่สุด คาดว่าจะลากไปถึงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม แต่หากดูบรรยากาศที่เกิดขึ้นหลายวันที่ผ่านมา สภาล่มไม่เป็นท่า จนสิ้นสภาพองค์กรนิติบัญญัติในสายตาประชาชน

ในขณะที่ฝ่ายบริหารมีการชิงไหว ชิงพริบ ในพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ได้สร้างความหวังให้พี่น้องประชาชน ว่าในช่วงที่ยังอยู่ในอำนาจ นอกจากแก้เกมปัญหารายวัน จากการที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะลงพื้นที่ปาดหน้า พล.อ.ประยุทธ

ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ต้องแก้เกมพลเอกประวิตรปาดหน้า คงหงุดหงิดหัวใจเต็มที ไม่มีสัญญาณบวกใด ๆ เลยว่าภายในอีกสองเดือนกว่า ๆ รัฐบาลจะมีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน

ยังไม่รวมถึงการลาออกของ ส.ส. รวมถึงรัฐมนตรี บรรยากาศทั้งหมดจึงมีความเป็นไปได้ที่ พล.อ.ประยุทธ์อาจจะประกาศยุบสภาเร็วขึ้น โดยมีเงื่อนไขสำคัญนอกจากความไม่มีเสถียรภาพ คือการอภิปรายแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 แม้จะไม่สามารถล้ม พล.อ.ประยุทธ์ได้ แต่คงเป็นครั้งแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์จะขึ้นเวทีสภาเผชิญหน้ากับพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยไม่มี ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐคอยทำงานให้ในสภา

“ความสัมพันธ์ของ 3 ป. หรือพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่เป็นเอกภาพเหมือนในช่วงที่ผ่านมา และมีอยู่อย่างเดียวที่ พล.อ.ประวิตรจะไม่ปาดหน้าพลเอกประยุทธ์ คือ การตอบกระทู้ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลอาจจะได้เห็นทุกพรรคอยู่ในสภาพตัวใครตัวมัน รักษาหน้าตักของตัวเอง พล.อ.ประยุทธ์คงกำลังชั่งใจว่าจะเดินหน้าเข้าสภาในสภาพแบบนี้จริงหรือ”

“หากอภิปรายแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 จบ แล้วยุบสภาทันที หรืออยู่ในอำนาจต่อ ก็ไม่มีผลต่อการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราทำงานหนักทุกวัน มุ่งไปสู่เป้าหมายชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์ ตั้งรัฐบาลของประชาชน” นายณัฐวุฒิกล่าว