ไพบูลย์ ชงแก้ข้อบังคับ ชู ประวิตร เป็นแคนดิเดตนายกฯ พลังประชารัฐ

ไพบูลย์ นิติตะวัน
ไพบูลย์-นิติตะวัน

ไพบูลย์ ชงแก้ไขข้อบังคับ 8 ประเด็น ยกเลิกตำแหน่งผู้อำนวยการพรรค-เลือกแคนดิเดตนายกฯ พลังประชารัฐล่วงหน้า ก่อนมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ชูประวิตรเป็นนายกฯ คนที่ 30

วันที่ 26 มกราคม 2566 นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2566 ในวันที่ 27 มกราคม 2566 ที่พรรคพลังประชารัฐ ห้องประชุม สำนักงานใหญ่ ถนนรัชดาภิเษก ว่าจะมีวาระที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ 8 ประเด็นดังนี้

ประเด็นที่ 1 แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 9 ให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีจำนวนไม่เกินสามสิบคน และยกเลิกตำแหน่งผู้อำนวยการพรรค

ประเด็นที่ 2 แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 11 ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคการเมืองให้เลือกตั้งในที่ประชุมใหญ่ มติของที่ประชุมที่เห็นชอบให้ผู้เข้ารับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ จะต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม

ประเด็นที่ 3 แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 17 (1) ให้หัวหน้าพรรคมีหน้าที่และอำนาจแต่งตั้งและถอดถอนผู้อำนวยการสำนักงานพรรค รองเลขาธิการพรรค โฆษกพรรค รองโฆษกพรรค และตำแหน่งอื่น ๆ ในการบริหารพรรค

แต่งตั้งและถอดถอนคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงาน เพื่อประโยชน์ของกิจการพรรคการเมือง มีอำนาจหน้าที่ตามที่หัวหน้าพรรคการเมืองมอบหมาย แต่งตั้งและถอดถอนที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค และที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหาร

อนุมัติจัดตั้งและยุบเลิกสาขาพรรค ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด หรือให้กรรมการสาขาพรรค ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดพ้นจากตำแหน่ง ให้หัวหน้าพรรคมอบหมายรองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคคนหนึ่งคนใด หรือหลายคนดำเนินการแทนก็ได้ และรายงานให้คณะกรรมการบริหารพรรคทราบ

นายไพบูลย์กล่าวว่า ประเด็นที่ 4 ยกเลิกความใน (4) ของข้อ 17 ให้ยกเลิกหน้าที่และอำนาจของผู้อำนวยการพรรค ประเด็นที่ 5 แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 30 ให้ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดที่ครบวาระอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดขึ้นใหม่ เว้นแต่หัวหน้าพรรค หรือรองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคที่หัวหน้าพรรคมอบหมาย มีคำสั่งให้ไม่ต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

“ประเด็นที่ 6 เพิ่มความวรรคสามของข้อ 90 เพื่อประโยชน์ในการคัดเลือกบุคคลเสนอให้ได้รับการพิจารณาแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตามวรรคหนึ่ง จะดำเนินการคัดเลือกไว้เป็นการล่วงหน้าก่อนวันประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งทั่วไป โดยการประกาศเชิญชวนและการเสนอชื่อบุคคลที่เห็นสมควรจะเสนอให้ได้รับการพิจารณาแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการบริหารพรรค ให้ดำเนินการในที่ประชุมใหญ่ของพรรคก็ได้” นายไพบูลย์กล่าว

นายไพบูลย์กล่าวว่า ประเด็นที่ 7 เพิ่มบทเฉพาะกาล เพิ่มข้อ 115 รองหัวหน้าพรรคที่ดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนข้อบังคับแก้ไขเพิ่มเติมฉบับนี้บังคับใช้ ให้ยังคงดำรงตำแน่งรองหัวหน้าพรรคต่อไปจนกว่าครบวาระ

ประเด็นที่ 8 เพิ่มข้อ 116 เมื่อมีประกาศใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ให้ข้อบังคับฉบับนี้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองฉบับแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าว

“ที่น่าสนใจที่สุดคือ ประเด็นที่ 6 แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับพรรค ให้การคัดเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะดำเนินการคัดเลือกไว้เป็นการล่วงหน้าก่อนวันประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งทั่วไป โดยการประกาศเชิญชวนและการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ต่อคณะกรรมการบริหารพรรคให้ดำเนินการในที่ประชุมใหญ่ของพรรคก็ได้” นายไพบูลย์กล่าว

นายไพบูลย์กล่าวว่า ทั้งนี้ ในวันประชุมใหญ่สามัญ หลังแก้ไขข้อบังคับแล้ว อาจจะมีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมใหญ่

รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า คาดว่านายไพบูลย์จะเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ และสนับสนุนเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30