ออร์แกไนซ์ 2 ป. ชิงเก้าอี้นายกฯ คนที่ 30

ชิงเก้าอี้นายก ตู่-ป้อม

เข้าโค้งสุดท้ายก่อนยุบสภา-เข้าสู่โหมดเลือกตั้ง ป.ประยุทธ์-ป.ประวิตร ปาดกันไป-ปาดกันมา โกยเรตติ้ง-ชิงตัว ส.ส.ร่วมพรรค-เข้าพวก มีลูกน้อง-บริวารใกล้ชิดเป็นแรงขับเคลื่อน 2 ป.

“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เจ้าของฉายา “จอมปาด” ปาดหน้า ลงพื้นที่จังหวัดราชบุรี-นครสวรรค์ ดักทางบ้านใหญ่นิติกาญจนา-นพอมรบดี และตระกูลสุนทรเลขา แห่งเมืองปากน้ำโพ

ไม่เว้นแม้กระทั่งเทศกาลตรุษจีน บิ๊กป้อมยังแทรกคิวเรียกเรตติ้งย่านเยาวราชก่อน พล.อ.ประยุทธ์จะไปไม่กี่ชั่วโมง และก่อนหน้าทีมงานปล่อยภาพ “ผู้ใหญ่ใจดี” ถ่ายรูป-เซลฟี่ ในวันเด็กแห่งชาติ

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีรวมไทยสร้างชาติ ตามหลังพี่ใหญ่ 1 ก้าวเสมอ

“นายประยุทธ์” ชื่อคำสรรพนามตามแบบฟอร์มกรอกสมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ “นับหนึ่ง” การเป็น “นักการเมืองเต็มตัว” โชว์ตัว-เช็กกระแสลุงตู่ย่านคนไทยเชื้อสายจีน-เยาวราช

หมุดหมายต่อไปคือ วันที่ 28 มกราคม 2566 ลงพื้นที่จังหวัดชุมพร ของลูกหมี-จุมพล และลูกช้าง-สุพล บ้านใหญ่จุลใส และวันที่ 30 มกราคม 2566 ลงพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ไปปิดดีล “นิโรธ สุนทรเลขา” ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ก่อนมุ่งหน้าไปจังหวัดพิจิตร

พล.อ.ประยุทธ์ เจียนอยู่-เจียนไป ตัดสินใจ “ไปต่อ” กับพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะวาทศิลป์ของ “พลพรรค” รวมไทยสร้างชาติที่ห้อมล้อม-รายล้อม

“พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ คือผู้ทรงอิทธิพลของ พล.อ.ประยุทธ์ต่อการตัดใจ “อยู่ต่อ” เพราะเขาได้พิสูจน์ตัวเองจากการรับภารกิจสำคัญที่ได้รับมอบหมาย อาทิ การฟื้นคดีค่าโง่โฮปเวลล์ 3 หมื่นล้านบาท และการกู้วิกฤตสายการบินแห่งชาติ “การบินไทย”

ข้อเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อจึงสมน้ำสมเนื้อกับราคาที่นายพีระพันธุ์ต้องจ่ายตลอดระยะเวลาที่นั่งอยู่ในตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ก่อนจะได้เลื่อนชั้นความไว้วางใจเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

อีกคนคือ “ไตรรงค์ สุวรรณคีรี” หลังจากลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ มารับตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับ พล.อ.ประยุทธ์จนคุยกันได้ทุกเรื่อง ชนิด “มองตาก็รู้ใจ”

อีก 1 คนที่มีส่วนในการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ให้ไปต่อกับพรรครวมไทยสร้างชาติในทางอ้อมคือ “สุชาติ ชมกลิ่น” เพราะชีวิตทางการเมืองฝากไว้กับ “ลุงตู่” และกลับไปพรรคพลังประชารัฐไม่ได้อีกแล้ว

รวมถึง เสี่ยแด๊ก ธนกร วังบุญคงชนะ ได้เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จึงต้องเป็นองครักษ์พิทักษ์ พล.อ.ประยุทธ์จนวินาทีสุดท้าย

ฟาก พล.อ.ประวิตรเชิดขึ้นนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 นำทีมโดย “เสี่ยยักษ์” วิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ปัจจุบันโดนศาลสั่ง “หยุดปฏิบัติหน้าที่” คดีแปรญัตติงบประมาณรายจ่ายก่อสร้างสนามฟุตซอลจังหวัดนครราชสีมา

“ไพบูลย์ นิติตะวัน” รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โต้โผจัดพิมพ์หนังสือ “พี่ป้อม พี่ใหญ่ พี่ชายที่แสนดี” อวดสรรพคุณ พล.อ.ประวิตร ถึงคุณสมบัติเหมาะสมรักษาการนายกรัฐมนตรี-นายกรัฐมนตรีคนที่ 30

นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ “ผู้จัดตารางงาน” บ้านป่ารอยต่อ หลังถูก พล.อ.ประยุทธ์ “ปลดฟ้าผ่า” จากเก้าอี้รัฐมนตรี ต้องยืนหนึ่งเป็นแม่ทัพกวาดต้อน ส.ส.กทม.ต่อขาเก้าอี้นายกฯให้ พล.อ.ประวิตร

รวมถึงคนวงใน-วงล้อม อย่าง “สันติ พร้อมพัฒน์” เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ-เสี่ยโอ๋-ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค และเสี่ยโต-อภิชัย เตชะอุบล ต้อง “ทุ่มหมดหน้าตัก” ให้ พล.อ.ประวิตร นั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30