บ้านใหญ่คุณปลื้ม ยกครอบครัว สนธยา นำทัพลงสมัคร ส.ส.เพื่อไทย

สนธยา คุณปลื้ม
สนธยา คุณปลื้ม

เพื่อไทย เปิดตัวบ้านใหญ่คุณปลื้ม “สนธยา” ลั่น ขอแลนด์สไลด์ทั้ง 10 เขต การันตี อิทธิพล รมว.วัฒนธรรม แบ่งร่างช่วยเพื่อไทย แต่ไม่เป็นหนอนบ่อนไส้

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรค และผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรค ร่วมกันเปิดตัวินายสนธยา คุณปลื้ม อดีตนายกเมืองพัทยา พร้อมทีมงาน หลังจากตัดสินใจทางการเมืองมาทำงานกับพรรคเพื่อไทย

นพ.ชลน่านกล่าวว่า เมื่อครั้งที่นายสนธยา และคณะ ร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย ร่วมกันสร้างปรากฎการณ์ชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายได้ ส.ส. 377 ที่นั่ง ขณะที่ภาคตะวันออกชนะเลือกตั้งทุกจังหวัด ปรากฏการณ์ดังกล่าวจึงมีความเชื่อมั่นว่าพี่น้องชาวชลบุรีที่เรียกร้องให้นายสนธยาและผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ชลบุรี มาร่วมงานกันกับพรรคเพื่อไทย จะไปสู่เป้าหมายนำพาพี่น้องชาวชลบุรีและประเทศไทยก้าวไปสู่อนาคตที่ดี ที่จะเกิดขึ้นในเลือกตั้งปี 2566

ทั้งนี้ ในการเปิดตัวผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ชลบุรี พรรคเพื่อไทย วันนี้ รวม 12 คน มีทั้งระบบบัญชีรายชื่อ และระบบเขต ซึ่งภายใต้การนำของนายสนธยา ที่มีความเข้มแข็ง ติดแน่นกับพื้นที่ และเข้าใจประชาชน ประกอบกับนโยบาย และว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยที่พี่น้องประชาชนเรียกร้อง จะช่วยสร้างโอกาส สร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง ให้ประชาชนหลุดพ้นออกจากวิกฤตและสร้างโอกาส เพื่อเข้าสู่เป้าหมายชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย

นอกจากนี้ ส่วนกรณีที่มีรัฐมนตรีของบ้านใหญ่ ยังทำงานกับรัฐบาลปัจจุบันนั้น ขณะนี้บ้านใหญ่ชลบุรีเป็นบ้านใหญ่ยุคใหม่ ที่ยึดโยงกับพี่น้องประชาชน ทำงานเพื่อประชาชน จะทำให้ชลบุรีชนะเลือกตั้งทั้ง 10 เขต บ้านใหญ่แบบเดิมจางหายไปแล้ว มีแต่บ้านใหญ่ที่ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน

“รัฐมนตรีติ๊ก อิทธิพล คุณปลื้ม คำนึงถึงมารยาททางการเมืองและวัฒนธรรมทางการเมืองที่ดี เมื่อทำหน้าที่นี้ต้องดำรงสถานะทั้งพรรคการเมืองและตำแหน่ง เป็นความเด็ดเดี่ยวที่น่ายกย่อง ไม่เหมือนใครบางคน จากอีกพรรคหนึ่งไปอยู่อีกพรรคหนึ่ง ไม่น่าเป็นวัฒนธรรมการเมืองที่ดีในประเทศไทย ถ้ารัฐมนตรีอิทธิพล จะเป็นหนอนบ่อนไส้ มีหนอนใหญ่กว่านั้น ยิ่งกว่าแม่หนอนอีก ตำแหน่งนายกฯเป็นของอีกพรรคหนึ่ง แล้วมาอยู่พรรคหนึ่งประกาศชัดเจน ไม่ใหญ่กว่าหนอนหรือครับ” นายแพทย์ชลน่านกล่าว

นายประเสริฐกล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ดีของพรรคเพื่อไทยอีกวันหนึ่ง ที่ได้ต้อนรับนายสนธยา คุณปลื้ม และทีมชลบุรีกลับเข้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งชลบุรีเป็นจังหวัดหลักในภาคตะวันออก มีความสำคัญ มี ส.ส.แบบแบ่งเขต 10 คน พรรคให้ความสำคัญกับพื้นที่ชลบุรี จึงเปิดตัวผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ชลบุรี พรรคเพื่อไทย จำนวน 12 คน ได้แก่

1.นายสนธยา คุณปลื้ม อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี หลายสมัย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

2.นางสุกุมล คุณปลื้ม อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

3.นางสาวสุภีพันธุ์ หอมหวน สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี

4.นายฉัตรชัย อั้งลิ้ม อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบ้านสวน

5.นายอนันต์ ปรีดาสุทธิจิตต์ อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี

6.นายแมน อินทร์พิทักษ์ อดีตสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองปรือ อดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองหนองปรือ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี

7.นายเชาวลิตร แสงอุทัย อดีตนายอำเภอบางละมุง อดีตปลัดจังหวัดชลบุรี อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร

8.นายพนธกร ใคร่ครวญ รองนายกเทศบาลเมืองสัตหีบ

9.นายสัมฤทธิ์ พงษ์วิรัตน์ อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี อดีตผู้ช่วยดำเนินงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี หลายสมัย อดีตผู้เชี่ยวชาญประจำตัวสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

10.นายเดชา จันทร์เล็ก อดีตกำนันตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี

11.นายสงกรานต์ ภาชนะ อดีตสมาชิกสภาเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี

12.นายชาญยุทธ เฮงตระกูล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี ปาร์ตี้ลิสต์

บ้านใหญ่ ปะทะ บ้านใหม่

นายสนธยากล่าวว่า พื้นที่บ้านใหญ่ตามที่สื่อมวลชนได้ให้คำนิยาม เป็นพื้นที่ของเราอยู่แล้วและเรารับผิดชอบมาแต่เดิม การไปทำงานหรือทวงคืน พื้นที่ตรงนี้ชัดเจนว่าเป็นพื้นที่ของเรา เราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ด้วยทีมงานที่มีความจริงจัง จริงใจ มาโดยตลอด จึงมีความเชื่อมั่นว่าประชาชนจะให้ความไว้วางใจ ครั้งนี้เราทุ่มเทเต็มที่ เราเชื่อมั่นว่าทั้ง 10 เขต เราจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน

ส่วนนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม น้องชาย จะมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยด้วยหรือไม่นั้น นายสนธยากล่าวว่า ในบ้านตนได้คุยกันตลอด ความเห็นของพี่น้องทุกคนมีมติร่วมกันว่าเรามาพรรคเพื่อไทย ขณะนี้นายอิทธิพล จะยังคงทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นงานตามที่ได้รับมอบหมายในความรับผิดชอบไปจนกว่าจะครบวาระ ทำหน้าที่ในคณะรัฐมนตรีอย่างเต็มที่

เราแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบ ตนจะทำหน้าที่ในสนามเลือกตั้ง นายอิทธิพลก็ปฏิบัติหน้าที่ในเวลางาน ในเรื่องงานการเมืองในครอบครัวเราแบ่งกันทำงาน และเราถือมติในครอบครัวร่วมกัน ส่วนจะตามมาหรือไม่ เรายืนยันว่า ไปด้วยกัน มาด้วยกัน ณ วันนี้ ในบ้านเราคือมาเพื่อไทย ส่วนหน้าที่ใครทำกันอยู่ ก็ปฏิบัติหน้าที่กันไป

“เขารู้ถูก รู้ควรในการทำงาน เราไม่แตกกันไปไหน ผมขอยืนยันอีกครั้ง ไม่แยกกันแน่นอนครับ” นายสนธยา กล่าว

นายสนธยากล่าวอีกว่า ชลบุรี เป็นจังหวัดที่มีจีดีพีสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศ ขณะที่ภาคตะวันออกสร้างจีดีพีสูงสุดของประเทศ จึงมีความสำคัญในการร่วมกันขับเคลื่อนให้ภาคตะวันออกและชลบุรี เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนแก้ปัญหาของประเทศต่อไป

“ในวันนี้ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ และประสบการณ์ ทั้งทีมงานและผู้สมัคร ร่วมกับนโยบายที่เข้มข้นตรงจุดของพรรคเพื่อไทย เรามีความเชื่อมั่นว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนชนะแบบแลนด์สไลด์ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ให้ประเทศไทยก้าวไปสู่ประเทศที่สามารถแข่งขันได้เหมือนในอดีตที่ผ่านมา และจะร่วมกันทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป จึงทำให้ทีมชลบุรีตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง” นายสนธยากล่าว

ย้อนประวัติศาสตร์บ้านใหญ่ “คุณปลื้ม”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบ้านใหญ่ “คุณปลื้ม” เริ่มการเมืองท้องถิ่นเมืองชล โดยมี “กำนันเป๊าะ” สมชาย คุณปลื้ม อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข

“บ้านใหญ่คุณปลื้ม” แตะการเมืองสนามใหญ่ ตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2535/1 ในนามพรรคสามัคคีธรรม มี “สนธยา คุณปลื้ม” บุตรชายคนโต ประเดิม ส.ส.ครั้งแรก ถัดมาย้ายสังกัดไปอยู่พรรคชาติพัฒนา กระทั่งไปอยู่พรรคชาติไทย สามารถคว้า ส.ส.ชลบุรีได้ยกจังหวัด

มาถึงปี 2548 ในยุคที่พรรคไทยรักไทยรุ่งเรืองสุดขีด “บ้านใหญ่คุณปลื้ม” เข้าร่วมพรรคไทยรักไทย อย่างไรก็ตาม หลังจากสิ้นสุดยุคพรรคไทยรักไทย มาถึงการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 อันเป็นการเลือกตั้งในยุคคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กลุ่มคุณปลื้ม สิ้นชื่อในเมืองชล ไม่ได้ ส.ส.แม้แต่คนเดียว เสียท่าให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ที่ขี่กระแสกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

“50 ผมไม่เหลือสักคนแพ้ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ตอนนั้นผมอยู่พรรคชาติไทย ตอนนั้นมีกระแสเหลือง แดง เราไม่ได้สักคน แต่ตอนนั้นรัฐมนตรีอิทธิพล (คุณปลื้ม) กับ วิทยา (คุณปลื้ม) เตรียมลงท้องถิ่น ลงนายก อบจ. กับนายกเมืองพัทยา ตอนนั้นเราแพ้กระแส ไม่เหลือสักคน แต่ไม่เป็นไรก็เดินหาเสียงกันต่อ พยายามทำในนาม อบจ.กับเมืองพัทยา เพราะชนะยกทีม” สนธยาเล่า

แต่แล้วหลังการเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม 2554 บ้านใหญ่คุณปลื้มแยกออกมาตั้ง “พรรคพลังชล” และถือเป็นการกำเนิดอย่างยิ่งใหญ่ สถานปนาเป็น “พรรคจังหวัด”

ได้ ส.ส.ถึง 7 คน เป็น ส.ส.แบ่งเขต 6 คน ประกอบด้วย สุชาติ ชมกลิ่น ชลบุรี เขต 1 อุกฤษณ์ ตั๊นสวัสดิ์ ชลบุรี เขต 2 รณเทพ อนุวัฒน์ ชลบุรี เขต 3 พันธุ์ศักดิ์ เกตุวัตถา ชลบุรี เขต 5 สุกุมล คุณปลื้ม ชลบุรี เขต 6 ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ชลบุรี เขต 7 และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน ได้แก่ สันต์ศักย์ จรูญ งามพิเชษฐ์ แบบบัญชีรายชื่อ เป็นพรรคร่วมรัฐบาลในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

แต่เมื่อถึงการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 นักการเมืองถูก “แช่แข็ง” แต่ไม่ใช่กับบ้านใหญ่คุณปลื้ม

เพราะหลังจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ คิกออฟโปรเจ็กต์เศรษฐกิจสำคัญคือ โครงการอีอีซี บ้านใหญ่คุณปลื้มก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในวงอำนาจ

17 เมษายน 2561 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติแต่งตั้งนายสนธยา ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังชล เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านการเมือง และนายอิทธิพล คุณปลื้ม เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

“อาจารย์สมคิด (จาตุศรีพิทักษ์ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาลประยุทธ์ สมัย คสช.) ต้องการคนมาประสานภาคพื้นที่อีอีซี สนิทกันอยู่แล้ว เพราะอีอีซีบ้านเรา เราอยากมาช่วยดูในมิติด้านพื้นที่ ทั้งเรื่องคน ภูมิศาสตร์เศรษฐกิจ ภาคประชาชน อปท. นักธุรกิจ นักลงทุนในพื้นที่ คือส่วนสำคัญที่ทำให้อีอีซีขับเคลื่อนไปได้ และจะได้คุยกับท่านอุตตม (สาวนายน) คุยกันในเบื้องต้นอยู่ในพื้นที่ถ้าได้เข้ามาทำงานด้วย ตาม พ.ร.บ.อีอีซี หรือ นโยบาย จะทำให้ช่องโหว่น้อยลง“

“งานที่เป็นที่ปรึกษานายกฯ ก็มีโอกาสได้ทำงาน เรื่องการเมือง เน้นทาง อีอีซี จะทำอย่างไรให้ขับเคลื่อนไปได้ เข้าช้าหรือเข้าเร็วก็ต้องมาทำงานเรื่องนี้อยู่ดี ในเมื่อมีโอกาสเข้ามาได้เลยไม่ต้องรอให้ถึงเลือกตั้ง ถ้าเข้ามาทำงานตั้งแต่ต้นก็สามารถขับเคลื่อนไปในทิศทางร่วมกับ ประธาน เลขา คณะกรรมการได้ ในภาพที่เป็นคณะกรรมการใหญ่ เราในภาคพื้นที่ เมื่อนำข้อมูลทั้งหลายเข้ามาก็จะได้เข้ามาขับเคลื่อนได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น”

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในเวลานั้นว่า “เพราะผมก็ไม่รู้ว่าการเมืองมันทำกันมาอย่างไร ดังนั้น จึงต้องรู้บ้าง”

“ผมจำเป็นต้องมีคนเหล่านี้เข้ามาบ้าง เพื่อมาทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน แต่ไม่ได้หมายความว่า เอาคนนี้มาเพื่อประโยชน์อะไรของผม มันไม่ใช่ วันนี้ กำลังจะเดินหน้าไปสู่ตรงนั้น ผมก็ต้องมีคนที่รู้เรื่องเหล่านี้มาให้คำปรึกษาว่าเป็นอย่างไร”

หลังจากนั้น “บ้านใหญ่คุณปลื้ม” ก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการก่อร่างสร้างพรรคพลังประชารัฐ รวมกับทีม 4 กุมาร กลุ่ม 3 มิตร ฯลฯ ทำให้พรรคพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ได้กลับมาเป็นนายกฯ สมัยที่ 2

บ้านใหญ่คุณปลื้มส่ง “อิทธิพล คุณปลื้ม” มานั่งเก้าอี้ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม”

ส่วน “สนธยา” กลับไปเป็นนายกเมืองพัทยา โดยคำสั่ง ม.44 โดยมีคำสั่งเมื่อ 25 กันยายน 2561

หลังเลือกตั้งยังไม่ทันสะเด็ดน้ำ ความเคลื่อนไหวในพรรคพลังประชารัฐ ก็สะเทือนมาถึงการเมืองในชลบุรี เมื่อ “บ้านใหม่” เมืองชล อยากแยกตัวออกจาก “บ้านใหญ่”

บ้านใหม่คือ “สุชาติ ชมกลิ่น” ปัจจุบันเป็น รมว.แรงงาน ที่พยายามรวบรวมนักการเมืองเข้าสังกัด ต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี กระทั่งได้เป็น ประธาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ

บทบาท – รัศมีการเมืองของ “สุชาติ” เริ่มเบ่งบานขึ้นเรื่อย ๆ จนขยับเข้าสู่วงอำนาจ หลังเป็นส่วนหนึ่งในเกมเขี่ย กลุ่ม 4 กุมารพ้นพรรค สุชาติ ในฐานะ บ้านหลังใหม่เมืองชล ได้นั่งเก้าอี้ รมว.แรงงาน

ความขัดแย้ง บ้านใหม่-บ้านใหญ่ ไม่มีทางอยู่ร่วมชายคาเดียวกันได้อีกต่อไป

ด้วยกระแสแลนด์สไลด์เพื่อไทย สวนทางกระแสลุงตู่ที่ลดลง บวกกับกติกาเลือกตั้งใหม่ที่เข้าทางพรรคเพื่อไทย

วันนี้ “บ้านใหญ่” คุณปลื้ม จึงกลับมาสวมเสื้อคลุมเพื่อไทย ขอทวงสนามเมืองชล 10 เขต