ภูมิธรรม-ชลน่าน ออกมาปฏิเสธกระแสข่าว บินฮ่องกงให้ “ทักษิณ” เคาะบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ปฏิเสธกระแสข่าวกรณีนำรายชื่อว่าที่ผู้สมัคร บัญชีรายชื่อ ของพรรคเพื่อไทย เดินทางไปฮ่องกงเพื่อรอหารือกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า มีความคลาดเคลื่อนและไม่ตรงกับความเป็นจริงอย่างมาก ขอชี้แจงดังนี้
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
1. ผมยังไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศ หรือ ต่างจังหวัดได้ เนื่องจากเมื่อช่วงปลายปี 65 ผมเข้ารับการเปลี่ยนถ่ายไต หลังผ่าตัดต้องพักฟื้นในห้องปลอดเชื้อคนเดียวเป็นเวลา 45 วัน แม้ว่าขณะนี้ร่างกายจะฟื้นฟูดีขึ้นตามลำดับ แต่ก็ยังมีข้อแนะนำจากแพทย์ให้งดการเดินทาง และงดอยู่ในที่ชุมชนคนเยอะๆ จนถึงปลายเดือนมีนาคม ดังนั้นข่าวที่ว่าผมเดินทางไปฮ่องกง จึงไม่เป็นความจริง
2.การจัดทำรายชื่อผู้สมัคร สส บัญชีรายชื่อ เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของ คณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และ กรรมการบริหารพรรค ถึงแม้ว่าผมเป็นรองหัวหน้าพรรค แต่ก็ทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าพรรค/เลขาธิการพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรค
ทั้งนี้ การจัดทำบัญชีรายชื่อผู้สมัคร สส บัญชีรายชื่อ จะเริ่มขั้นตอนจากกรรมการสรรหาผู้สมัคร ที่ต้องแจ้งให้สาขาตัวแทนพรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรค และสมาชิกเป็นผู้เสนอรายชื่อบุคคลที่สมควร เป็นไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
“การพิจารณาขั้นสุดท้ายเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรคเท่านั้นที่จะอนุมัติรายชื่อและจัดลำดับผู้สมัคร” นายภูมิธรรม ระบุ
ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวในเรื่องดังกล่าวว่า นายภูมิธรรมได้ชี้แจงไปแล้วว่าไม่เป็นความจริง อีกทั้งตนได้คุยกับนายภูมิธรรมตตลอดเวลา และนายภูมิธรรมยังต้องใช้เวลาฟื้นตัวจากการเปลี่ยนไต ดังนั้น การไปต่างประเทศเป็นข่าวที่ไม่ใช่ความจริง
นายภูมิธรรม ยังอยู่เมืองไทย อีกทั้งกระบวนการของการเตรียมผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เริ่มต้นจากการแสดงเจตจำนงในการเป็นผู้สมัครบัญชีรายชื่อ กรรมการสรรหารับแล้วต้องส่งไปยังเขตเลือกตั้งให้ความเห็นว่าในบัญชีรายชื่อจะเห็นชอบกับชื่อใด หลังจากนั้นจึงมาจัดลำดับ
ดังนั้นการส่งรายชื่อให้คนใดคนหนึ่งไปเคาะนั้นมันเป็นไม่ได้ เพราะบัญชีนั้นจะต้องส่งไปยังเขตเลือกตังให้ความเห็นทั้ง 400เขต ดังนั้นกระบวนการให้ข่าวไม่ใช่กระบวนการที่แท้จริง