นักการเมืองรุ่นใหม่ 9 พรรค ชูนโยบายแก้เศรษฐกิจ-ลด เลิกเกณฑ์ทหาร

นักการเมืองรุ่นใหม่ 9 พรรค
นักการเมืองรุ่นใหม่ 9 พรรค

เครือมติชนจัดดีเบตฟังเสียงคนรุ่นใหม่ 9 พรรคการเมือง ต่างชูแคมเปญแก้การเมือง-ปัญหาปากท้อง พุ่งปมลด-เลิกการเกณฑ์ทหาร แม้กระทั่งพรรครวมไทยสร้างชาติ

วันที่ 31 มีนาคม 2566 ที่ลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มติชน : เลือกตั้ง’66 บทใหม่ประเทศไทย” เวที 3 “ฟังเสียง New Gen บทใหม่ประเทศไทย” โดยมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.คนรุ่นใหม่จาก 9 พรรค ประกอบด้วย น.ส.จิราพร สินธุไพร ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 5 พรรคเพื่อไทย, น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 1 พรรคก้าวไกล, นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ ผู้สมัคร กทม. เขตสวนหลวง พรรครวมไทยสร้างชาติ,

ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง ผู้สมัคร ส.ส.คลองเตยและวัฒนา พรรคประชาธิปัตย์, น.ส.อิสราพร บูรณอรรจน์ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย, น.ส.บุณณดา สุปิยพันธุ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตเลือกตั้งที่ 32 พรรคพลังประชารัฐ นายเสมอกัน เที่ยงธรรม ผู้สมัคร ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา, น.ส.ธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย และ น.ส.เยาวภา บุรพลชัย ผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติพัฒนากล้า

โดยรอบแรกให้ผู้สมัครมีเวลาในการพูด 2 นาที เป็นช่วงปล่อยของ ทั้งนี้ น.ส.พนิดา กล่าวว่า พรรคก้าวไกลมี 300 นโยบายที่จะออกแบบมาเพื่อตอบสนองและแก้ไขปัญหาของประชาชน ในคอนเซ็ปต์ของการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต เพราะการเมืองคือพื้นฐานของทุกอย่าง หากการเมืองไม่นิ่งเราจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้าอยู่ได้แน่นอน พรรคก้าวไกล เสนอให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ หากเราได้เป็นรัฐบาล ช่วง 100 วันแรกเราจะจัดทำประชามติเพื่อสอบถามพี่น้องประชาชนทุกคนว่าเราต้องการประชาธิปไตยอันใหม่หรือไม่ หากใช่ เราจะทำให้เสร็จภายใน 4 ปี

“หลายคนในคืนนี้จะนอนไม่หลับ เพราะวันพรุ่งนี้จะเป็นวันที่จับใบดำใบแดง เราไม่รู้เลยว่าหลังจากนี้ไป 2 ปีข้างหน้าจะใช้ชีวิตอย่างไรและจะเป็นอย่างไร พรรคก้าวไกลจึงเสนอให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เพื่อคืนเวลาและเสรีภาพในการประกอบอาชีพให้กับคนรุ่นใหม่ทุกคน มั่นใจเลยว่าหากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล ในปี 2567 จะไม่มีการจับใบดำใบแดงอีกต่อไป จึงอยากขอความเชื่อมั่นในการทำงานของเรา โดยกาพรรคก้าวไกลทั้ง 2 ใบ เพื่อให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” น.ส.พนิดากล่าว

น.ส.เยาวภา เราต้องการให้ประชาชนมีงานที่ดี มีเงินในกระเป๋า ราคาสินค้าในประเทศไม่แพง สร้างรายได้เข้าประเทศ 5 ล้านล้านบาท เศรษฐกิจเฉดสี เรายังมีกองทุนซอฟต์พาวเวอร์ 1 ล้านบาทให้คนรุ่นใหม่ เรื่องนโยบายลดภาษี 4 หมื่นบาทแรกไม่เสียภาษี 4 ล้านคนจะได้ประโยชน์ทันที หั่นค่าไฟจะต้องลดลงแน่นอน รื้อโครงสร้างพลังงาน

นายเสมอกันกล่าวว่า เราใช้รัฐธรรมนูญ 20 ฉบับ ชาติไทยพัฒนามองว่ารัฐธรรมนูญเป็นปัญหาหลัก ไม่ว่าเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ยังยืนยันแก้ไขรัฐธรรมนูญ นำรัฐธรรมนูญ 2540 มาเป็นแบบอย่างในการแก้กฎหมาย จากนั้นอยากให้ประเทศยั่งยืนสำหรับคนทุกรุ่นทุกวัย คนต้องมีความมั่นคงในชีวิต มั่งคั่งทรัพย์สิน ไม่เชื่อว่าระบบประชานิยมจะแก้ไขในระยะยาวได้ ประเทศจะยั่งยืนได้ถ้ามีสวัสดิการที่ดี

น.ส.ธิดารัตน์กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยมาสู้เพื่อคนตัวเล็ก ดูแลประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ และคนตัวเล็ก เป็นนโยบายให้เรียนฟรีจนจบปริญญาตรี พรรคไทยสร้างไทยเราจะทำให้ได้ในการยกเลิกหนี้ กยศ. และให้เรียนฟรีถึงระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า จะลดเวลาเรียนไม่ให้เรียนหนักเกินไป ให้จบมหาวิทยาลัย

นายพงศ์พลกล่าวว่า เรามีนโยบายสำหรับคนรุ่นใหม่ เรียกว่าอัพเวลคนรุ่นใหม่ เช่น ที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าราคาถูก เราจะทำให้ที่อยู่อาศัยสำหรับนิวเจน ยกเลิกกฎหมายที่เป็นแหล่งรีดไถ เช่น บุหรี่ไฟฟ้า การขายสุราห้ามขายสุราบางเวลาไม่จำเป็นใน พ.ศ.นี้ เด็กต้องเรียนรู้ภาษา โค้ดดิ้ง ที่สำคัญในยุคนี้ ประกันสังคมสำหรับฟรีแลนซ์ เรียนฟรีมีจริง ส่งเสริมทีป็อปคัลเจอร์ 200 คนต่อปี ทหารอาสาสมัคร ลดการเกณฑ์ 70%

ร.ต.อ.พงศกรกล่าวว่า นโยบายให้ต้นทุนลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ พรรคประชาธิปัตย์ขยายการเรียนฟรี 15 ปี จนถึงเรียนฟรีจนจบปริญญาตรี เราต้องขยายวงเงินการกู้ กยศ.จาก 3 พันบาทเป็น 6 พันบาท เพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุนหารายได้ระหว่างเรียนจับคู่กับเอกชน

สร้างงาน 1 ล้านงานให้นักศึกษาทำงานได้ หลังจากนั้นมาพูดคุยเรื่องภาษีกับเอกชน นอกจากนี้ เรื่องราคารถไฟฟ้า เราต้องการทำกฎหมายตั๋วร่วม รถเมล์ รถไฟฟ้า รถไฟฟ้าใต้ดินมารวมกัน เพื่อให้เกิดขึ้นจริง ขยายอินเทอร์เน็ต 1 ล้านจุดทั่วประเทศไทยไม่อั้น และเราต้องการกองทุน SMEs 3 แสนล้าน ทุกนโยบายพรรคพร้อมที่จะทำให้เกิดขึ้นจริง

น.ส.บุณณดา ตอนนี้พรรคของเราเปิดเวทีให้คนรุ่นใหม่ สิ่งสำคัญของพลังประชารัฐอยากก้าวข้ามความขัดแย้ง อยากฟังเสียงของคนรุ่นใหม่ บิ๊กป้อม (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ) ผู้ใหญ่ใจดีเปิดกว้าง มีอะไรก็มาพูดคุยกัน ก้าวข้ามความขัดแย้งเป็นสิ่งที่ต้องการมากที่สุด อยากให้เปิดใจรับฟังมากยิ่งขึ้น

น.ส.จิราพรกล่าวว่า ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ประเทศไทยจะต้องเป็นประเทศแห่งโอกาสของคนทุกเพศทุกวัย ความหลากหลายจะยังคงอยู่ แต่ความเหลื่อมล้ำต้องหมดไป คนรุ่นใหม่ไม่ต้องย้ายประเทศแล้ว เพราะสามารถถือพาสปอร์ตไทยแค่เล่มเดียว เดินทางไปนานาอารยประเทศ สามารถเข้าออกได้อย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี คนไทยต้องมีที่ยืนในเวทีโลก ภายในปี 2570 พรรคเพื่อไทยจะปฏิรูปโครงสร้างประเทศด้วยการแก้รัฐธรรมนูญ

โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากประชาชน เราจะเห็นประชาธิปไตยที่กินได้ เราจะเป็นประเทศทุนนิยมที่มีหัวใจ คนรุ่นใหม่จะเรียนรู้ได้ฟรีตลอดชีวิตผ่านโครงการเลิร์นทูเอิร์น และระหว่างเรียนจะมีรายได้ด้วยค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน นิสิตนักศึกษาเรียนจบมาต้องมีงานทำ เงินเดือนขั้นต่ำ 2.5 หมื่นบาท

น.ส.จิราพรกล่าวต่อว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ใช้ระบบสมัครใจ และสนับสนุนสิทธิความหลากหลายทางเพศ ทุกความฝันของคนไทยจะถูกสานต่อด้วยโครงการ หนึ่งครอบครัวหนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง การันตีรายได้ขั้นต่ำต่อปี 2 แสนบาท วัฒนธรรมจะไม่ถูกตีกรอบอีกต่อไป

แต่จะเป็นวัฒนธรรมที่กินได้ สร้างงานสร้างรายได้ให้ทุกครอบครัว พรรคเพื่อไทยจะพาประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล เราจะไม่ทำเพียงแค่ฟรีไวไฟทุกหมู่บ้านหรือโครงการฟรีแท็บเลตเท่านั้น แต่เราจะมีโครงการดิจิทัลวอลเลตให้คนอายุ 16 ปีขึ้นไปสามารถใช้เงินสกุลเหรียญดิจิทัลใช้จ่ายในชุมชน เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ และเตรียมประเทศไทยเข้าสู่สังคมเศรษฐกิจดิจิทัล

น.ส.อิสราพรกล่าวว่า คนรุ่นใหม่เป็นเดอะแบก แบกค่าใช้จ่าย ค่ารถค่ารา จะดีกว่าไหมขึ้นรถไฟฟ้าตลอดสายไม่เกิน 40 บาท ขึ้นเรือตลอดเที่ยวทั้งวันไม่เกิน 50 บาท จะดีกว่าไหมที่รัฐนำโซลาร์รูฟไปติดให้ 22 ล้านหลังคาเรือน ลดค่าไฟ 450 บาทต่อเดือน คนรุ่นใหม่ยังสุขภาพดี แต่ผู้หลักผู้ใหญ่เสี่ยงเป็นโรคร้าย ดังนั้น ภูมิใจไทยจะมีเครื่องฉายรังสีทุกจังหวัด เรื่องการฟอกไตฟรี ทุกอำเภอ


แบกฝุ่นพิษควันพิษ รถเมล์ 1.2 พันคัน เป็นรถอีวี เฟสที่สองรวมกันจะมี 3 พันกว่าคัน สำหรับในต่างจังหวัดเราพูดเรื่องดับไฟป่า อปท.ที่มีอำนาจแต่ไม่มีเงินเพียงพอ เราจะจัดภาษีไปยังบ้านเกิดเมืองนอน 30% ไปที่ อปท. และคนรุ่นใหม่แบกความเบื่อหน่าย ลองชวนให้ทุกคนกลับไปดูว่านโยบายชุดที่แล้วพรรคภูมิใจไทย อาจมีไม่เยอะ แต่ศึกษาแล้วทำได้จริง และพูดแล้วทำ