อิทธิเดช ภูมิใจไทย การันตี อนุทิน ครบเครื่องนั่งนายกฯ

อิทธิเดช สุพงษ์

อิทธิเดช ภูมิใจไทย ยก “อนุทิน” ครบเครื่อง นายกฯ คนที่ 30 ชูนโยบายพักหนี้-ภาษีบ้านเกิด

วันที่ 2 พฤษภาคม 2566 ที่ห้องพารากอนฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เครือมติชน ร่วมกับเครือเดลินิวส์ จัดงานดีเบตการเมือง ในธีม มติชน เลือกตั้ง 66 บทใหม่ประเทศไทย เวที “สงคราม 9 พรรค The Last War” โดยเวทีแบ่งออกเป็น 3 รอบ

ทั้งนี้ รอบแรก เป็นรอบเวที “Young blood วัดอนาคต” ประกอบด้วย โดยมี พรรคก้าวไกล ส่ง น.ส.สิริลภัส กองตระการ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 14 บางกะปิ วังทองหลาง (เฉพาะแขวงคลองเจ้าคุณสิงห์), พรรครวมไทยสร้างชาติ นางรัดเกล้า สุวรรณคีรี ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตเลือกตั้งที่ 33 เขตบางพลัด เขตบางกอกน้อย (ยกเว้นแขวงศิริราช)

พรรคประชาธิปัตย์ นายเมธี อรุณ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 นราธิวาส, พรรคเพื่อไทย น.ส.สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตลาดพร้าว (ยกเว้นแขวงจระเข้บัว) เขตบึงกุ่ม (ยกเว้นแขวงคลองกุ่ม), พรรคภูมิใจไทย นายอิทธิเดช สุพงษ์ ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต 15 คันนายาว-บึงกุ่ม (เฉพาะแขวงคลองกุ่ม)

พรรคไทยสร้างไทย นายปณิธาน ประจวบเหมาะ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 23 บางนา-พระโขนง, พรรคชาติไทยพัฒนา ดร.อาชวิทธิ์ เจิงกลิ่นจันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 20, พรรคชาติพัฒนากล้า น.ส.วิเวียน จุลมนต์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 8 จตุจักร (แขวงจตุจักร จอมพล ลาดยาว) เขตหลักสี่ (แขวงทุ่งสองห้อง), พรรคพลังประชารัฐ นายระพีพัฒน์ สุเมธโชติเมธา ผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 25 เขตทุ่งครุ เขตราษฎร์บูรณะ (ยกเว้นแขวงบางปะกอก)

ทั้งนี้ นายอิทธิเดช สุพงษ์ ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต 15 คันนายาว-บึงกุ่ม (เฉพาะแขวงคลองกุ่ม) นโยบายเราเน้นสร้างความเข็มแข็งอย่างยั่งยืน ไม่ใช่ชั่วคราว แบ่งเป็นระยะสั้น และยาว ในระยะสั้น นโยบายที่เป็นเรือธงคือพักหนี้ 3 ปี 1 ล้าน และเงินกู้ฉุกเฉิน 50,000 บาท

เพราะเราเข้าใจดีว่าพี่น้องส่วนใหญ่ไม่มีอำนาจต่อรองกับสถาบันการเงิน ขอ “ปรับโครงสร้างหนี้” หรือขอวงเงินกู้ได้ แต่ว่ารัฐบาลภูมิใจไทยจะทำหน้าที่นั้น นายอิทธิเดชกล่าวและว่า เรามีนโยบายลดภาระพลังงาน จะติดตั้ง “โซลาร์รูฟ” ให้ทุกครัวเรือน โดยใช้พลังงานแสดงอาทิตย์ ซึ่งจะลดค่าไฟได้อย่างน้อย 450 บาท พ่วงกับการรับ “สิทธิซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า” ในราคา 6,000 บาท 60 งวด หรือ 100 บาท/งวด จะช่วยประหยัดค่าน้ำมันรถ เป็นสังคมพลังงานทางเลือก

เรามีนโยบายสร้างความเข้มแข็งให้ท้องถิ่นด้วยการกระจายอำนาจสู่ความเจริญ กับนโยบายที่เรียกว่า “ภาษีบ้านเกิดเมืองนอน” ประชาชนสามารถจ่ายภาษีให้กับจังหวัดที่ต้องการพัฒนาได้ นโยบาย “เกษตรกรร่ำรวย” เกษตรกรสามารถรู้ราคาก่อนปลูก รับเงินก่อนขาย และเมื่อเสียหายก็มีประกัน “โครงการแลนด์บริดจ์” เชื่อมทะเลฝั่งอันดามัน กับอ่าวไทย สร้างพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ให้กับประเทศ

นายอิทธิเดชกล่าวด้วยว่า ส่วนด้านสุขภาพเราจะจัดตั้ง “ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอ” จัดตั้ง “เครื่องฉายสีมะเร็งทุกจังหวัด” ติดตั้งเครื่องกรองน้ำทุกหมู่บ้าน ลดภาระค่าใช้จ่ายทุกครัวเรือน และมอบกรมธรรม์ ประกันชีวิตให้กับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป สามารถกู้ได้ 20,000 และเมื่อเสียชีวิตได้ 100,000 ส่วนที่เหลือ คือมรดกของลูกหลานได้รับต่อไป

“ส่งที่ผมจะผลักดันถ้าได้เป็น ส.ส.คือการส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิต่าง ๆ โดยเฉพาะสมบัติและภูมิปัญญาไทย โดยเฉพาะสมุนไพร เราต้องยกระดับไปสู่สินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ ทางด้านการแพทย์และสุขภาพ เราจะใช้ไบโอเทคโนยีเข้ามาส่งเสริมเรื่องนี้ สร้างเถ้าแก่น้อยและผู้ประกอบการใหม่ ชูศักยภาพของไทย ให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพที่โดดเด่นในระดับโลก ซึ่งไม่สามารถเกิดขึ้นเฉพาะแค่ในสภา แต่จะเกิดขึ้นทั้งในชุมชน สถานศึกษา สถานประกอบการ และตลาดการค้า” นายอิทธิเดชกล่าว

นายอิทธิเดชกล่าวต่อว่า นโยบายทั้งหมดนี้นำเสอนผ่านแคนดิเดตนายกฯที่ชื่อว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นี่คือแคนดิเดตที่มีความพร้อมที่สุดที่จะเป็นนายกฯ

“ข้อที่ 1 ท่านมีความครบเครื่อง ทั้งเรื่องวัยวุฒิ ประสบการณ์ คุณวุฒิ เคยผ่านทั้งงานภาครัฐ เอกชน เป็นผู้ประกอบการที่สามารถนำพาองค์กรฝ่าวิกฤต นำพาประเทศฝ่าวิกฤตจนได้รับการยอมรับจากนานาชาติ 2.ท่านเป็นผู้รับรู้และเข้าใจปัญหาของประชาชน

3.ท่านมีความเป็นผู้นำ สามารถเชื่อมโยงคนทุกระดับได้ สามารถยืนอยู่ในเวทีสากล ท่านเป็นคนที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย และเคารพกติกาเสมอ เป็นผู้ฟังที่ดี เป็นคนที่ทำให้คนทุกรุ่นเชื่อมโยงกันได้ ไม่สร้างความขัดแย้ง ทำให้ทุกคนสามารถเดินหน้ารับฟังความเห็นต่างไปด้วยกัน” นายอิทธิเดชกล่าว