ป.ป.ช.แจง เปิดผลสอบคดียืมนาฬิกาเพื่อนไม่หมด กระทบเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติ-บุคคลภายนอก อ้าง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร-พ.ร.ป. ป.ป.ช.-คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดคุ้มครอง
วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ขอชี้แจง กรณีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวเกี่ยวกับมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการเปิดเผยข้อมูล กรณีศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
- ด่วน! โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.เศรษฐา 1/1 รัฐมนตรีใหม่ 13 ตำแหน่ง
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
- เงื่อนไข ธอส. จัดเงินฝากออมทรัพย์ “เก็บออม” ดอกเบี้ยสูง 1.95%
กรณีจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ให้แก่นายวีระ สมความคิด ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ดังนี้
ในเรื่องนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้รับทราบคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2566 และมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการ โดยไม่ได้มีมติแต่อย่างใด และได้มอบหมายให้สำนักคดี สำนักกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำคำพิพากษาไปศึกษา วิเคราะห์ และนำเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาอีกครั้ง
ต่อมาในวันนี้ (3 พฤษภาคม 2566) คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีการประชุมพิจารณาเกี่ยวกับการเปิดเผยเอกสารตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด และมีมติเป็นเอกฉันท์ (6 เสียง) ว่าให้เปิดเผยเอกสารรายการที่ 1 รายงานและสำนวนการตรวจสอบ การไต่สวน และการไต่สวนเบื้องต้น รวมทั้งบรรดาเอกสารที่เกี่ยวข้อง รายการการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารทั้งหมด และเอกสารรายการที่ 3 รายงานการประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้
นายนิวัติไชยกล่าวว่า สำหรับเอกสารรายการที่ 2 ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ทุกคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ มีมติเป็นเอกฉันท์ (6 เสียง) ว่าการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. พนักงานไต่สวน พนักงานเจ้าหน้าที่
รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ปรึกษา ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการมาช่วยปฏิบัติงานภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. อันเป็นการคุ้มครองข้อมูลข่าวสารที่พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 15 ให้ความคุ้มครอง สอดคล้องกับมาตรา 36 วรรคท้ายของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ประกอบกับศาลปกครองสูงสุดเคยมีคำพิพากษาให้การรับรองคุ้มครองการเปิดเผยข้อมูลในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว
ดังนั้น จึงมีมติมอบหมายให้สำนักคดี นำคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่เคยมีคำพิพากษาคุ้มครองการเปิดเผยข้อมูล พร้อมประเด็นปัญหาไปหารือเกี่ยวกับการปฏิบัติตามคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดดังกล่าว รวมถึงปัญหาข้อขัดข้องกับตุลาการศาลปกครองสูงสุดต่อไป
ทั้งนี้ นายวีระ สมความคิด สามารถยื่นขอรับเอกสารที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้เปิดเผยทั้ง 2 รายการ ตามเอกสารรายการที่ 1 และเอกสารรายการที่ 3 ได้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป