ครม.ประชุม แกนนำพรรคร่วมเข้าทำเนียบ ประยุทธ์ ย้ำยังเป็นนายกฯ

ธนกร วังบุญคงชนะ
ธนกร วังบุญคงชนะ

ประยุทธ์ ตอบประชด “ยังเป็นนายกฯ อยู่” ธนกรย้ำพักบ้างก็ดี ยินดีทำงานให้ตลอดชีวิต เมินหนุน “นายกฯ พิธา” ลั่นพร้อมเป็นฝ่ายค้าน วราวุธ-สาธิต แทงกั๊ก ปิดสวิตซ์ ส.ว. รอพรรคเคาะ

วันที่ 16 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งแรกภายหลังผลการเลือกตั้งออกมา 6 พรรคฝ่ายค้านเดิมรวมเสียงได้ 310 ที่นั่ง ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามว่าสื่อมวลชนที่ถามว่า นายกรัฐมนตรีเป็นอย่างไรบ้างว่า “ก็ยังเป็นนายกฯ อยู่”

ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์สั้น ๆ ก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ยังไม่ได้เจอกับ พล.อ.ประยุทธ์

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีถึงทิศทางทางการเมืองหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวย้ำว่า ยังไม่ได้เจอกับนายกรัฐมนตรี ส่วนจะวางมือหรือไม่นั้น ตนได้บอกไปตั้งแต่ต้นแล้ว

ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไว้เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2565 ว่าจะไม่ไปต่อทางการเมือง เพราะอายุมากและหมดไฟแล้ว

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์บนตึกไทยคู่ฟ้า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ว่า พล.อ.ประยุทธ์อารมณ์ดีสั่งให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ขอปล่อยให้กลไกการเลือกตั้งรัฐบาล เมื่อวานได้พูดไปแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ทำงานให้ประเทศมาอย่างยาวนานตั้งแต่เป็นทหาร ทำคุณความดีให้กับประเทศมามาก เชื่อว่ายังไงท่านก็อยู่ในใจของคนทั้งประเทศ

“ความเห็นส่วนตัว พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้พูด ผมคิดเองว่าท่านพักก็ดี เพราะท่านไม่ได้ไปไหนมาตลอด 7-8 ปี ให้ท่านไปพักผ่อนบ้าง ส่วนตัวก็ยังอยู่ในเส้นทางการเมือง ถ้านายกฯไม่อยู่ก็คงจะไปพักผ่อน แต่ท่านก็ยังอยู่ต่อ เพราะมี ส.ส.ถึง 36 คน หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคก็ยังทำงานร่วมกันได้ เราทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านได้ไม่มีปัญหา” นายธนกรกล่าว

นายธนกรกล่าวว่า อยากจะฝากว่าการจัดตั้งรัฐบาลเพิ่งเริ่มต้น ผมไม่อยากเห็นบรรยากาศคนที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีควรจะมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ ไม่ควรจะไปพูดจาเหน็บแนมหรือกระแนะกระแหนผู้ใหญ่ของบ้านเมือง โดยเฉพาะลูกพรรคที่เป็น ส.ส ไม่ควรจะไปก้าวล่วงหน่วยงานของรัฐ ใช้วาจาที่ไม่เหมาะสม เวลานี้ท่านกำลังเป็นรัฐบาล ควรมีวุฒิภาวะที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ ไม่ควรพูดจาให้ร้ายหน่วยงานของรัฐ

เมื่อถามว่ารัฐบาล 310 เสียงจะไปได้หรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า เชื่อว่าจะไปได้ แต่ยังมีเวลา พรรคเพื่อไทยแพ้แค่ 10 เสียง เพราะถ้าท่านตั้งไม่ได้พรรคที่ 2 ก็จะจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นแบบนั้น ยังมีเวลา 3 เดือนในการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนสมาชิกวุฒิสภาก็มีอิสระของท่าน ขออย่าไปดูแคลน ส.ว.ก็มีหัวจิตหัวใจ

เมื่อถามว่า มีกระแสสังคมให้พรรคการเมืองยกมือสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรีให้ครบ 376 เสียง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องพึงเสียงของ ส.ว. 250 คน มีความเป็นไปได้หรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า “ทำไมผมต้องยกมือให้ ในเมื่อผมไม่ได้เห็นด้วยกับนโยบายของท่าน ผมไม่เห็นด้วยกับท่านมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะยกมือให้ แต่ผมยอมรับเสียงของประชาชน”

“ท่านก็ตั้งให้ได้แล้วกัน ผมคิดว่าท่านตั้งได้ แต่สุดท้ายได้ ไม่ได้ 2-3 เดือนก็รู้ แต่พรรคฝ่ายค้านที่ผ่านมาก็มีโอกาสตั้งได้ พรรคอันดับ 1 ตั้งไม่ได้ พรรคอันดับ 2 ก็ตั้ง ใครรวมเสียงข้างมากได้ก็เป็นรัฐบาลไป” นายธนกรกล่าว

เมื่อถามว่า หากพรรคอันดับ 2 ตั้ง พรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมที่จะไปอยู่ในสมการนี้หรือไม่ นายธนกรกล่าวว่าตนตอบแทนพรรคไม่ได้ แต่ผมคิดว่าพรรคที่ 2 ก็มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล เพราะดูจากแถลงการณ์ต่าง ๆ ก็ยังไม่เห็นชัดว่ามันจะไปด้วยกัน ต้องดูเอ็มโอยูก่อน ถ้าเอ็มโอยูไปไม่ได้แล้วจะไปกันได้อย่างไร ไม่ก้าวล่วงพรรคเสียงข้างมาก เราได้เสียงน้อยก็ต้องยอมรับ

“การหาเสียงที่ผ่านมาบางเรื่องมันต้องใช้เวลา อะไรที่มันสุดขั้วมากเกินไปมันต้องเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ ความจริงผมอยากให้ตั้งรัฐบาลเร็ว ๆ ด้วยซ้ำไป จะได้รู้ว่าท่านทำได้หรือเปล่า ในสิ่งที่ท่านพูดเรื่องนโยบาย 300 ข้อ” นายธนกรกล่าว

ส่วนนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า วันนี้ยังเป็น รมว.ทรัพย์ฯ อยู่ ยังรับเงินภาษีของประชาชนอยู่ พวกเราจะทำงานกันจนถึงวินาทีสุดท้าย จนกระทั่งมีการแต่งตั้งรัฐบาลชุดใหม่และมี ครม.

เมื่อถามว่าจะยกมือสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายวราวุธในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนากล่าวว่า เป็นประเด็นที่มีความละเอียดอ่อน และอ่อนไหวพอสมควร ดังนั้น ตนคิดว่ายังไม่สามารถตอบได้ในขณะนี้ หากยังไม่มีการพูดคุยกันในพรรคก่อน ต้องรอหารือภายในพรรคให้ตกผลึกเสียก่อน ให้เป็นแนวทางขึ้นมา

“เรายังมีเวลา เพราะขั้นตอนในการยกมือเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น ต้องผ่านกระบวนการการเปิดสภาและเลือกประธานสภาเสียก่อน ถึงจะวันเลือกนายกรัฐมนตรี ยังมีเวลาให้คิด คิดคนเดียวไม่ได้ คำตอบผมเองคงจะไม่สามารถเป็นตัวแทนของชาติไทยพัฒนาได้” นายวราวุธกล่าว

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลยังไม่ได้ยกหูติดต่อเพื่อเข้าร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า ชาติไทยพัฒนาพร้อมทำหน้าที่พรรคฝ่ายค้าน

เมื่อถามว่าจุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนายังเหมือนเดิมใช่หรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า ยังเหมือนเดิม คือเรื่องสถาบัน “เราไม่ได้เดือดร้อนในการต้องเป็นรัฐบาล เราพร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ถ้าเป็นอะไรที่ขัดหลักการกับการทำงานของชาติไทยพัฒนาเราก็ไม่เห็นด้วย แต่การจะยกมือให้หรือไม่นั้น ต้องมีการหารือกันภายในพรรคก่อน เพราะเป็นประเด็นละเอียดอ่อน” นายวราวุธกล่าว

นายสาธิต ปิตุเตชะ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า การให้พรรคการเมืองยกมือสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อปิดสวิตช์ ส.ว.เป็นแนวทางเชิงอุดมการณ์อันหนึ่ง เป็นแนวทางที่ประชาธิปัตย์พูดถึงแนวทางนี้มานานแล้ว แต่ส่วนตัวพอเป็น ส.ส.สอบตก น้ำหนักในการเข้าไปคุยที่พรรคน้อยลงหรือไม่ ไม่แน่ใจ

“แต่อุดมการณ์ของพรรคในความคิดส่วนตัวยังคงยืนยันว่า เราน่าจะเดินไปสู่ทิศทางที่ทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในเสียงประชาชนมากขึ้น ก็ต้องมีการพูดคุยในพรรค” นายสาธิตกล่าว