ก้าวไกลย้ำ คุมกลาโหมในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ลุยปฏิรูปกองทัพ

ก้าวไกล

ก้าวไกล ย้ำ คุมเก้าอี้กลาโหม ในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงหารือถึงนโยบายปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร

วันที่ 17 พฤษภาคม 2566 มติชนรายงานระบุว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 15 พฤษภาคม แกนนำพรรคก้าวไกล มีการประชุมผ่านระบบออนไลน์ หารือถึงการจับขั้วรัฐบาลในฐานะพรรคอันดับหนึ่ง เป็นการหารือกันก่อนที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นำคณะขึ้นรถแห่เดินสายขอบคุณประชาชนทั่ว กทม. ในช่วงเย็น (วันที่ 15 พฤษภาคม) กรอบการหารือเบื้องต้นมีหลายประเด็น เช่น ก่อนเลือกตั้งพรรคก้าวไกลเคยตกผลึกจนวางโรดแมปนโยบายหาเสียงเอาไว้

รายงานข่าวระบุว่า เมื่อก้าวไกลได้คะแนนเป็นพรรคอันดับหนึ่ง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แกนนำก็ต้องมาคุยเรื่องนโยบายต่าง ๆ กันอีกรอบ โดยแกนนำพรรคยังพูดคุยและประเมินเรื่องนโยบาย ระหว่างของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล อย่างเช่นเรื่องที่แกนนำพรรคก้าวไกลเห็นว่าแตกต่างกันชัดเจน คือ เรื่องสวัสดิการ เพราะนโยบายไม่คล้ายคลึงกับของพรรคเพื่อไทย ที่เสนอดิจิทัลวอลเลต

ส่วนพรรคก้าวไกลคือสวัสดิการถ้วนหน้า พรรคเพื่อไทยใช้งบฯเกือบ 5 แสนล้านบาท ส่วนพรรคก้าวไกลในปีแรก ใช้กว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งปัญหาคือปีแรกจะเป็นปีงบประมาณที่จัดมาโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แกนนำพรรคก้าวไกลกำลังประเมินกันว่าจะเอาอย่างไร

ขณะเดียวกันยังมีการหารือถึงนโยบายปฏิรูปกองทัพ แกนนำพรรคก้าวไกลคุยกันว่า ไม่น่ามีปัญหา พรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย มีประเด็นที่เห็นตรงกันคือ ต้องยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ซึ่งแกนนำพรรคก้าวไกลมองว่า การยกเลิกเกณฑ์ทหารไม่ใช่เพียงแต่การยื่นกฎหมายเข้าสภา แต่ต้องปรับโครงสร้างภายในกระทรวงกลาโหมด้วย ในฐานะพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

รายงานข่าวระบุด้วยว่า แกนนำพรรคได้พูดถึงจำเป็นจะต้องดูแลรับผิดชอบกระทรวงกลาโหม แกนนำพรรคก้าวไกลพูดคุยกันทำนองว่า ไม่ใช่ประเด็นที่จะต้องถกกันเท่าไหร่ เนื่องจากมองว่าอยู่ในฐานะที่จะมาบริหารหน่วยงานตรงนี้อยู่แล้วในการร่วมรัฐบาล ส่วนเรื่องนโยบายเรื่องมาตรา 112 มีการหารือพร้อมกับการเสนอกันว่า การแก้ไขมาตรา 112 เป็นการแก้กฎหมาย และต้องเสนอในกลไกของสภา เพราะฉะนั้นแน่นอนว่าพรรคก้าวไกลจะเสนอเข้าสภาแน่นอน เพื่อให้ไปคุยกันในสภา