ประวิตร ปฐมนิเทศ 40 ส.ส.ใหม่ ลั่นอยู่กับพรรคพลังประชารัฐไปจนวันตาย

ประวิตร ปฐมนิเทศ 40 ส.ส.ใหม่
ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ประวิตรปฐมนิเทศ 40 ส.ส.ใหม่ ยินดีผ่านด่านการเลือกตั้งครั้งรุนแรงที่สุด-งัดกลยุทธ์มาใช้ทุกรูปแบบ ลั่น ไม่ลาออก-ไม่ไปไหน อยู่กับพรรคพลังประชารัฐไปตลอดที่มีชีวิตอยู่

วันที่ 2 กรกฎาคม 2566 ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวเปิดงานปฐมนิเทศสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของพรรคพลังประชารัฐ 40 คน ว่า ขอแสดงความยินดี ส.ส.ทุกคนอีกครั้งด้วยความปีติยินดียิ่งที่ทุกท่านได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนจนเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งที่ผ่านมา ซึ่งการเลือกตั้งในรอบนี้เป็นการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นมากว่าทุกครั้งที่ผ่านมา แม้ว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนในการเลือกตั้งในครั้งนี้มาเป็นอันดับ 4 ก็ตาม แต่เป็น ส.ส.ที่ได้มาจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ยกเว้นกรุงเทพมหานคร 

“ท่าน ส.ส.ที่นั่งอยู่ในที่นี้ได้ผ่านการแข่งขันที่รุนแรงมากกว่าทุกครั้งกว่าจะชนะมาเป็น ส.ส.ในครั้งนี้ได้ เพราะทุกพรรคการเมืองต่างทุ่มเทใช้กลยุทธ์ทุกรูปแบบเพื่อให้ได้รับชัยชนะ โดยผลออกมาจะเห็นได้ว่า แต่ละพรรคสำเร็จเป็นไปตามเป้าหมายบ้าง ไม่เป็นไปตามเป้าหมายบ้างต่างกัน เชื่อว่าทุกพรรคคงนำผลการเลือกตั้งไปพิจารณาเพื่อปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงในการกำหนดแนวทางในการทำงานในการเลือกตั้งครั้งต่อไป” พล.อ.ประวิตรกล่าว 

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า วันนี้ตนขอขอบคุณบุคลากรของพรรคทุกฝ่าย ตั้งแต่คณะกรรมการรบริหารพรรค (กก.บห.) คณะกรรมการยุทธศาสตร์ คณะกรรมการนโยบาย และคณะกรรมการทุกชุดที่ทำงานให้กับพรรคพลังประชารัฐ ผู้สมัครของพรรคในทุกเขตเลือกตั้ง ผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อ และเจ้าหน้าที่ของพรรคทุกคนที่ได้ทุ่มเทร่วมกันทำงาน และมีส่วนร่วมในการระดมหาเสียงการเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นอย่างดี

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ถึงวันนี้พรรคพลังประชารัฐของเรายังต้องเดินไปข้างหน้าตามอุดมการณ์ ตามเจตจำนงของพรรคที่ต้องการอาสาเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนเพื่อเป็นพรรคของพี่น้อง เพื่อเป็นพรรคการเมืองที่มั่นคงและยั่งยืนในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 

“ผมขอยืนยันว่า ผมจะดูแลพรรคพลังประชารัฐไปตลอดชีวิตที่ผมมีชีวิตอยู่ ไม่ต้องไปฟังว่า ผมจะลาออกหรือไปที่ไหน ยังไงผมก็อยู่กับพรรคพลังประชารัฐตลอดไป” พล.อ.ประวิตรกล่าว