ครม.ไฟเขียวใช้พื้นที่ป่าสร้างอุโมงค์รถไฟเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ

รถไฟทางคู่
แฟ้มภาพ

ครม.อนุมัติผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ 52 ไร่ 2 งาน 57 ตารางวา ก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ คาดเปิดให้บริการปี 2571

วันที่ 15 สิงหาคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ซึ่งเป็นหนึ่งในทางรถไฟสายใหม่ระยะเร่งด่วน ภายใต้โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558-2565 ซึ่งโครงการได้รับอนุมัติจาก ครม. เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2561

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า การขอ ครม. เพื่อผ่อนผันครั้งนี้ เนื่องด้วยโครงการมีงานก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งรถไฟที่มีส่วนพาดผ่านลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ ในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงเหนือ บริเวณตำบลโชคชัย อำเภอดอยหลวง และตำบลห้วยซ้อ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย รวมระยะทาง 2,376 เมตร หรือคิดเป็นพื้นที่รวม 52 ไร่ 2 งาน 57 ตารางวา

ซึ่งรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (รายงาน EIA) ของโครงการ ได้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) แล้วเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2560 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ (สศช.) ได้ให้การเห็นชอบด้วยแล้ว

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า โครงการรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เป็นการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ในพื้นที่จังหวัดแพร่ จังหวัดลำปาง จังหวัดพะเยา และจังหวัดเชียงราย ระยะทางประมาณ 323.10 กิโลเมตร มีจุดเริ่มต้นของการก่อสร้างที่สถานีรถไฟเด่นชัย จังหวัดแพร่ และมีจุดสิ้นสุดที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย กรอบวงเงินลงทุน 85,345 ล้านบาท มีระยะเวลาการก่อสร้างตั้งแต่ 15 ก.พ. 2565 ถึง 14 ม.ค. 2571 และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2571

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า งานก่อสร้างประกอบด้วย 1.ทางรถไฟคู่ใหม่ 2 เส้นทาง (รางกว้าง 1 เมตร) 2.สถานีรถไฟ 26 สถานี (สถานีขนาดใหญ่ 4 สถานี ขนาดเล็ก 9 สถานี และป้ายหยุดรถไฟ 13 สถานี) 3.อุโมงค์ทางวิ่งรถไฟและงานระบบภายในอุโมงค์ จำนวน 4 แห่ง 4.ลานขนถ่ายสินค้าและบรรทุกตู้สินค้า (container yard) จำนวน 5 แห่ง 5.สะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ (overpass) จำนวน 40 แห่ง และถนนลอดใต้ทางรถไฟ (underpass) จำนวน 102 แห่ง 6.งานโยธาอื่น ๆ เช่น ระบบระบายน้ำ สะพานลอยคนข้าม

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า โครงการนี้เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่จะสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายของแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทย พ.ศ. 2566-2570 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก : การสร้างโครงข่ายการเชื่อมโยงการขนส่งและระบบโลจิสติกส์ ระหว่างท่าเรือ รถไฟ ถนน และท่าอากาศยาน อย่างครอบคลุม เชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจ พื้นที่อุตสาหกรรม และด่านชายแดนสำคัญ มีเป้าหมายหลักในการลดต้นทุนการขนส่งสินค้าทั้งหมดจากเฉลี่ยร้อยละ 0.10 ในปี 2565 เป็นร้อยละ 7 ในปี 2570

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า โดย ครม.ได้มอบหมายให้หน่วยงานเจ้าของโครงการ ดำเนินตามมติ ครม. วันที่ 9 ส.ค. 2565 กรณีการดำเนินโครงการใด ๆ ของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่า ต้องมีการปลูกป่าทดแทนเพื่อการอนุรักษ์ หรือรักษาสภาพแวดล้อมของพื้นที่ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณตามโครงการ แต่หากการดำเนินการดังกล่าวมีผลทำให้กรอบวงเงินของโครงการเปลี่ยนแปลงไปจากวงเงินที่ได้รับอนุมัติจาก ครม. ให้กระทรวงคมนาคมเสนอ ครม. เพื่อพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า พร้อมกำชับให้ ร.ฟ.ท. เร่งดำเนินโครงการดังกล่าวให้เป็นไปตามแผนดำเนินงานที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงการพัฒนาศูนย์บริการโลจิสติกส์และการปรับปรุงด่านชายแดนที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่ง (Modal Shift) และการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multimodal Transport) ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าให้สามารถแข่งขันได้ทั้งภายในและระหว่างประเทศและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการระบบโลจิสติกส์