“ฟูอาดี้ พิศสุวรรณ” โพสต์ถาม ทำไม “ทักษิณ ชินวัตร” ยอมเอาชื่อเสียงมาเสี่ยง แลกกับการกลับไทย แล้วก็ยกเลิกหรือเลื่อนมาตลอด จนเสียความน่าเชื่อถือ ทั้ง ๆ ที่มีอีกหลายวิธี แต่ไม่เลือก
วันที่ 21 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า นายทักษิณ ชินวัตร บิดาของตนเอง จะเดินทางกลับมาประเทศไทยในวันที่ 22 สิงหาคมนี้แน่นอนนั้น
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ไทย และหลายชาติ ออกแถลงการณ์ร่วม เรียกร้องปล่อยตัวประกันในกาซา
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
ล่าสุด “ฟูอาดี้ พิศสุวรรณ” หรือชื่อจริง ฟูอาดี้ บิน อับดุล ฮาลีม พิศสุวรรณ ทีมประสานงานฝ่ายต่างประเทศ พรรคก้าวไกล บุตรชายนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตเลขาธิการอาเซียน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Fuadi Pitsuwan” ถึงประเด็นที่ทักษิณจะกลับไทยไว้น่าสนใจว่า
สิ่งที่ไม่เคยเข้าใจอย่างหนึ่งคือ ทำไมคุณทักษิณต้องประกาศวันกลับก่อนทุกครั้ง แล้วก็ยกเลิกหรือเลื่อนมาตลอด ซึ่งในมุมมองนักรัฐศาสตร์ที่เชื่อใน rational choice (ทฤษฎีการเลือกอย่างเป็นเหตุเป็นผล) ทางเลือกที่กระทำแบบนี้อยู่เรื่อย ๆ มีต้นทุนด้านชื่อเสียง และความน่าเชื่อถือที่สูงมาก
“และทุกครั้งที่ยกเลิกหรือเลื่อนความน่าเชื่อถือตรงนี้ก็บั่นทอนลงเรื่อย ๆ จนแทบไม่เหลืออะไร”
หากมองในมุมมองคนที่ไม่มีข้อมูลเชิงลึกอะไร…คิดว่าผลประโยชน์ที่ได้รับจากการประกาศแล้วเลื่อน มันไม่คุ้มค่ากับต้นทุนที่เสียไปเลย คุณทักษิณมีทางเลือกอีกหลายทาง เช่น…เตรียมการแบบเงียบ ๆ บอกให้คนที่ต้องรู้ได้ทราบ แล้วก็กลับมาเลยโดยไม่ต้องป่าวประกาศ จะมีข่าวลือหรือข้อมูลรั่วไหลก็ปล่อยไป
หรือว่าจะไม่ต้องเตรียม ไม่บอกใคร แล้วโผล่มาเลยก็ได้ (มีต้นทุนอื่น ๆ) แต่ก็ไม่เลือกทางนั้น หรือว่าการประกาศสาธารณะแบบดัง ๆ เป็นการโยนหินถามทาง ส่ง signal ไปให้คน หรือกลุ่มที่มี veto power มีโอกาสได้ veto โดยไม่ต้องสื่อสารโดยตรง หรือเป็นเหตุผลด้านการดึงความสนใจ ส่องสปอตไลต์มาที่ตัวเอง เพื่อความปลอดภัย หรือเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองระยะสั้น ?
คิดว่ามันต้องมีแนวคิด หรือข้อมูลอะไรมากกว่าที่เห็นได้ในที่สาธารณะที่ทำให้คุณทักษิณ ยอมเอาต้นทุนด้านชื่อเสืยง และความน่าเชื่อถือ (reputation & credibility costs) มาเสี่ยง และแลกทุกครั้งไป…จนตอนนี้เหลือต้นทุนให้ใช้น้อยเต็มที ฉะนั้นมันมีผลประโยชน์ (gain) อะไรแน่ ๆ ถึงใช้วิธีนี้อยู่เรื่อย ๆ
คำถามคือสิ่งนั้นคืออะไร คิดว่าหลายคนก็มีคำถามนี้ในใจอยู่เหมือนกัน