สแกนขุนพล-สายตรงชินวัตร ลมใต้ปีกเศรษฐา ในตึกไทยคู่ฟ้า

ลมใต้ปีกเศรษฐา
คอลัมน์ : Politics policy people forum

ในบรรดาขุนพล รอบข้าง-รอบกาย “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี

ล้วนไม่ใช่คนแปลกตา-หน้าใหม่ นอกจากรัฐมนตรี 8 รัฐมนตรีในรัฐบาลเศรษฐา บวก 1 เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่เคยร่วมรัฐบาลไทยรักไทย รัฐบาลเพื่อไทย ในยุค ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ยังมีมือไม้ข้างกายที่ทั้งมีตำแหน่ง-ไม่มีตำแหน่ง อยู่เบื้องหน้า และเบื้องหลัง ที่ล้วนเคยมีประสบการณ์ทางการเมือง มาช่วยเป็น “ลมใต้ปีก” ให้ “เศรษฐา” ในทำเนียบ

ทีมงานลมใต้ปีก

นอกจากตำแหน่ง “นายกฯน้อย” นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นทั้งมันสมอง และผู้กลั่นกรองแฟ้มงานก่อนเสิร์ฟถึงมือนายกฯ เศรษฐา โดยเฉพาะแฟ้ม “เศรษฐกิจ”

เศรษฐา-นพ.พรหมินทร์ ยังมีตัวช่วยในตำแหน่งรองเลขาธิการนายกฯ อีก 3 คน ที่มาช่วยกรองงาน-ปฏิบัติภารกิจการเมือง ผ่านตำแหน่งข้าราชการการเมือง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

1.นายสมคิด เชื้อคง ตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ถูกวางไว้เป็นมือ ปะ-ฉะ-ดะ ทางการเมือง ในฐานะที่เป็นหนึ่งในขุนพลอีสานใต้ ในซุ้มการเมืองของบ้านใหญ่ “เกรียง กัลป์ตินันท์” ที่ปัจจุบันเป็น รมช.มหาดไทย

Advertisement

“สมคิด” เป็น สส.อุบลราชธานี เพื่อไทย ครั้งแรกในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ เมื่อปี 2554 คลุกฝุ่นอยู่กับกฎหมายนิรโทษกรรม ช่วยขับเคลื่อนเบื้องหลัง ครั้งยังไม่ได้เป็น “ร่างนิรโทษกรรมสุดซอย”

สมคิดมีบทบาทมากขึ้น ในรัฐสภาที่พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน ปักหลักยืนอยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหนึ่งในวิปฝ่ายค้าน ทำงานเบื้องหลัง และถูกวางไว้เป็นกรรมาธิการพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย

ทว่าในการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 “สมคิด” ดันสอบตก พลาดท่าให้กับ สส.จากพรรคเพื่อไทรวมพลัง ซึ่งเป็นพรรคเครือข่ายของตระกูล “หวังศุภกิจโกศล” แกนนำเพื่อไทย ใน จ.นครราชสีมา อาจเป็นส่วนหนึ่งที่เขาได้รับการปลอบใจให้มีตำแหน่งทางการเมือง

2.นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กลั่นกรองแฟ้มด้านสังคม

Advertisement

เขาเป็นอดีต สส.เชียงใหม่ ที่ต้าน กระแสพลังส้มในเขตเมืองเชียงใหม่ไม่ไหว แม้ว่าช่วงเลือกตั้ง “เศรษฐา” ลงไปช่วยขอคะแนนชาวเชียงใหม่ ถึง 2 รอบ

ในรัฐสภาสมัยที่แล้ว “จักรพล” มีส่วนในการผลักดันร่างกฎหมายอากาศสะอาด แก้ปัญหา PM 2.5 นอกจากนี้ยังเป็นมือไม้ให้พรรคเพื่อไทย ในนโยบายท่องเที่ยว เนื่องจากก่อนลงเล่นการเมือง เขามีธุรกิจทั้งตลาดสดต้นพยอม โรงแรมพิงค์พยอม โรงแรม Stay with Nimman คอนโดมิเนียมใน เชียงใหม่

3.นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ ตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง อดีตผู้สมัคร สส.ฉะเชิงเทรา เขาเป็นลูกไม้หล่นใต้ต้นของ “เฮียเน้า” สมชัย อัศวชัยโสภณ นักการเมืองรุ่นเก๋าแห่งเมืองพนมสารคาม ที่ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี เคยไปร่วมงานวันเกิด เมื่อ 20 มิถุนายน 2556 พร้อมกล่าวว่า “มางานนี้เพราะมีสัญญาใจกับเฮียเน้า และได้มาทำบุญวันเกิดด้วย ขอบคุณเจ้าภาพมาก ๆ ค่ะ”

แต่สำหรับ “พงศ์ศรัณย์” ใช่ว่าได้เข้าทำเนียบรัฐบาล เพราะอยู่ในบ้านใหญ่ หากแต่เขายังเป็นคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย และก่อนหน้านี้ เคยมีตำแหน่งแห่งหนใน “แบงก์ชาติ” ตำแหน่ง ผู้บริหารฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย ดังนั้น เขาจึงมาช่วยกรองแฟ้มกระทรวงเศรษฐกิจ ให้ “หมอมิ้ง-พรหมินทร์” ก่อนถึงมือ “เศรษฐา”

4.นายชัย วัชรงค์ ตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดตัวร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย เมื่อ 7 มิถุนายน 2565 วันนั้น “นพ.พรหมินทร์” เกริ่นนำคุณสมบัติสั้น ๆ แต่ได้ใจความว่า

“เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ คลุกคลีกับเกษตรกรมาเกือบตลอดทั้งชีวิต หากไม่ใช่คลุกคลีธรรมดา แต่ได้สกัดความรู้ ความเข้าใจวิถีชีวิต และยังเปิดหู เปิดตา หาทางแก้ปัญหา เราต้องขอความรู้จากท่านเพื่อประโยชน์ของประชาชน เพื่อสร้างรายได้ เกษตรกรรมใหม่ ๆ วิทยาการใหม่ ๆ เรื่องการจัดการเพื่อให้เกษตรกรพ้นทุกข์”

หลังจากนั้น “ชัย” ก็มีชื่ออยู่ในทีมนโยบาย-ทีมเศรษฐกิจ ในนามคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย

หากย้อนไกลกว่านั้น เมื่อครั้งที่ “ยิ่งลักษณ์” อดีตนายกรัฐมนตรี ตกเป็นจำเลยต้องต่อสู้คดีจำนำข้าว เขาก็เคยขึ้นเบิกความ “พยานจำเลย” ในฐานะนักวิชาการอิสระ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจการเกษตร

ด้วยดีกรี-ความสามารถ และเข้าใจการพัฒนาการเกษตรที่เป็น “ธงหลัก” ของพรรคเพื่อไทย ประกอบกับลีลาการพูดอันฉะฉานจึงเข้าป้ายเป็นโฆษกรัฐบาล

กุนซือ – เพื่อนสนิท – มิตรการเมือง

ขณะเดียวกัน “เศรษฐา” ยังลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 234/2566 เรื่องแต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี จำนวน 9 คน เป็น “กุนซือ” เข้ามาช่วยงาน ประกอบด้วย

1.นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษา ชื่อ – ชั้น ของ “กิตติรัตน์” ไม่มีใครสงสัยในฝีมือ เพราะเคยเป็นถึง “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ” ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  และที่สำคัญยังอยู่ในกลุ่มที่เตะฟุตบอล หลงไหลกีฬาฟุตบอลเหมือนกับ นายกฯ เศรษฐา

แม้ว่าช่วงหลัง “กิตติรัตน์” จะหายหน้า – หายตา ไปจากการเมือง แต่ก็ไม่ได้หายตัวไปจากพรรคเพื่อไทย เพราะคนในพรรคเพื่อไทยต่างรู้ว่า “กิตติรัตน์” หันไปสนใจวิจัยด้านการเกษตร แบบ เอาจริง – เอาจัง ในทีมนโยบายการเกษตรของพรรคเพื่อไทย จึงมี “กิตติรัตน์” ปรากฏตัว ร่วมกับ วิสุทธ์ ไขยณรุน สส.บัญชีรายชื่อ ประธาน สส.เพื่อไทย

เศรษฐา จึงมีคู่คิดด้านเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอีก 1 คน ในตึกไทยคู่ฟ้า

2.นายเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  น้องชาย “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” แม้พรรคชาติพัฒนากล้า ที่เขาสังกัดได้ สส.เพียงแค่ 2 คน ไม่พอต่อการมีตำแหน่งแห่งหนใน ครม. ตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกฯ อาจเรียกได้ว่าเป็นรางวัลปลอบใจทางการเมือง ที่เข้ามาเติมเสียงให้รัฐบาลเพื่อไทย

3.นายพิชัย ชุณหวชิร ปัจจุบันเป็นประธานกรรมการ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน)  เป็น “มือบริหารทางการเงิน” ในบริษัทใหญ่ และรัฐวิสาหกิจนับไม่ถ้วน ทั้งพลังงาน และการบิน รวมไปถึงเคยเป็นบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย

4.นายศุภนิจ จัยวัฒน์ นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ และประธานกรรมการบริษัท อาโนส์ กรุ๊ป 2020 จำกัด หุ้นส่วนร้านสเต็กชื่อดัง Arno’s  ถือเป็นเพื่อนรัก เพื่อนสนิท “เศรษฐา” ตั้งแต่เด็ก ในการประชุมครั้งสำคัญๆ ร่วมกับทีมเศรษฐกิจ ในพรรคเพื่อไทย จึงมีเขาคนนี้ร่วมโต๊ะอยู่ด้วย

เช่นครั้งที่เชิญ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน มาบรีฟงาน – โครงการลงทุน ที่พรรคเพื่อไทย ก็มี “ศุภนิจ” นั่งร่วมวงอยู่กับ “เศรษฐา” รวมถึง ปานปรีย์ พหิทธานุกร ​​รองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศ จักรพงษ์ แสงมณี ​​รมช.ต่างประเทศ พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี สรัสนันท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น

5.ผู้ช่วยศาตราจารย์พิมล ศรีวิกรม์ ชื่อนี้ ในวงการกีฬา เป็นนายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ในอดีตเคยอยู่พรรคไทยรักไทย และเป็นกรรมการบริหารพรรคที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี อย่างไรก็ตาม ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง “พิมล” เปิดตัวกับพรรคเพื่อไทย และเข้ามาเป็น ประธานที่ปรึกษานโยบายด้านกีฬา พรรคเพื่อไทย

6.นายพิชิต ชื่นบาน เกือบจะได้เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อยู่แล้ว แต่กลับเกิดเสียงวิจารณ์เรื่อง “คุณสมบัติ” ที่คาบเกี่ยวเรื่องกับจริยธรรม ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าไม่เคยทำอะไรที่เสื่อมเสียในอดีต ครั้งสู้คดีให้ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างตกเป็นจำเลยจำนำข้าว

ในฐานะที่เคยทำงานร่วมกับนายกฯ 3 คนก่อนหน้า คือ ทักษิณ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และ ยิ่งลักษณ์ ครั้งนี้เขามาช่วยกลั่นกรองงานด้านกฎหมายให้ “เศรษฐา” อีกครั้ง

7.นายชลธิศ สุรัสวดี อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ เป็นหลานชาย ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกฯ โดยหลังเกษียณอายุราชการ ได้ผันตัวมาทำงานกับพรรคเพื่อไทย มีบทบาทในคณะทำงานนโยบายที่ดิน และสิ่งแวดล้อมตามที่ถนัด เป็น 1 ในผู้ผลักดันนโยบายที่ดินต่างๆ ของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา

8.นายชัย วัชรงค์ ตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เก้าอี้เป็นที่ปรึกษาของนายกฯ อีกตำแหน่ง

9.นายสุรยุทธ์ ทวีกุลวัฒน์ มีโปรไฟล์เป็นถึงผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน (CFO) บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ BTS ผู้ได้รับสัมปทานรถไฟฟ้ากลางกรุง ก่อนทิ้งตำแหน่งดังกล่าว มามีชื่อเป็นผู้สมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 78 ของพรรคเพื่อไทย เมื่อการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา

ไทยรักษาชาติ-ชินวัตร

นอกจากบุคคลที่ถูกตั้งเป็น “ข้าราชการการเมือง” เป็นลมใต้ปีก ให้กับ “เศรษฐา” ในตึกไทยคู่ฟ้าแล้ว ยังมีกลุ่มคนสายตรง “ชินวัตร” ที่มีฝีไม้ลายมือ ได้เข้ามาร่วมงาน-ช่วยงานเศรษฐาหลายคน ซึ่งส่วนใหญ่เคยปฏิบัติหน้าที่ในพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.)

พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพียง 1 เดียว แต่มีภารกิจล้นมือ-ครอบจักรวาล อาทิ กำกับงานกรมประชาสัมพันธ์, สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค, สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และยังช่วยกลั่นกรองงานในสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ที่มอบหมายให้ช่วยดูโดย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์

“คณาพจน์ โจมฤทธิ์” ผอ.โครงการ Change Maker เพื่อนซี้มาก ของ “แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่เปลี่ยนหน้าที่จากคอยติดตาม “แพทองธาร” ปัจจุบันมาช่วยดูตารางงาน-ภารกิจให้ “เศรษฐา”

เช่นเดียวกับ “ณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช” อดีตผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย บุตรชายของ “สาโรจน์ หงษ์ชูเวช” อดีตผู้อำนวยการพรรค มือจัดการภายในพรรค สายตรงชินวัตร ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก ถูกส่งมาในภารกิจเดียวกับ “คณาพจน์” แทน “จักรพงษ์ แสงมณี” ที่ได้ตำแหน่ง รมช.ต่างประเทศ

“พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย” หรือ “ผกก.หนุ่ย” เป็นบุคคลที่ “ขาดไม่ได้” เพราะเป็นทีมอารักขา ดูแลความปลอดภัยนายกฯ ตระกูลชินวัตร ตั้งแต่ “ทักษิณ ชินวัตร” จนถึง “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”

“ชยิกา วงศ์นภาจันทร์” อดีตนายทะเบียนพรรคไทยรักษาชาติ ลูกสาวของ “เยาวเรศ ชินวัตร” หลานแท้ ๆ ของ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” แม้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองจากเหตุยุบพรรค แต่ในฐานะที่คลุกคลีนโยบายต่างประเทศพรรคเพื่อไทย เธอจึงมาช่วยงานด้านต่างประเทศ ให้กับ “เศรษฐา”

นี่คือคนรอบกาย-ลมใต้ปีกนายกฯ เศรษฐา ในตึกไทยคู่ฟ้า