เศรษฐาให้สัมภาษณ์ “บลูมเบิร์ก” ไทยต้องตามเวียดนามให้ทัน ขอ 6 เดือนดึงนักลงทุนกลับ

เศรษฐา นิวยอร์ก สหรัฐ
ภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำ (Gala Dinner) เพื่อเป็นเกียรติแก่ นายกรัฐมนตรี ซึ่งสภาธุรกิจสหรัฐฯ และอาเซียน (US-ASEAN Business Council : USABC) และหอการค้าสหรัฐ และภาคเอกชนสหรัฐ เป็นเจ้าภาพ 20 กันยายน 2566

เศรษฐาให้สัมภาษณ์ “บลูมเบิร์ก” ที่สหรัฐ มองตอนนี้ไทยตามหลังเวียดนามในแง่ข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ช่วยดึงการลงทุนเข้าประเทศ จะต้องนำไทยไล่ตามเวียดนามให้ทัน ขอเวลา 6 เดือนเปลี่ยนใจนักลงทุนให้อยากมาลงทุนในไทย 

วันที่ 21 กันยายน 2023 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) เผยแพร่บทสัมภาษณ์นายเศรษฐ ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของประเทศไทย ซึ่งสัมภาษณ์ในวันที่ 20 กันยายน ขณะที่นายเศรษฐาเดินทางไปร่วมสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) สมัยที่ 78 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา 

บลูมเบิร์กเขียนในบทสัมภาษณ์ว่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทยประเมินอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความจำเป็นของประเทศของตนเองในการไล่ตามประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค ภายหลังจากที่ประเทศนี้อยู่ภายใต้การปกครองโดยทหาร และมีความไม่แน่นอนทางการเมืองมาเป็นเวลาหลายปี 

               

นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน กล่าวว่า ประเทศไทย “กำลังตามหลังเวียดนาม” ในแง่ “ข้อตกลงการค้าเสรี” (FTA) ซึ่งเป็นปัจจัยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และเขามองว่า รัฐบาลชุดก่อน (ซึ่งสมาชิกหลายคนก็เป็นแนวร่วมในรัฐบาลปัจจุบัน) ควรจะออกไปพูดคุยกับผู้ที่มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นหุ้นส่วนในข้อตกลงการค้าเสรีกัน เพื่อดึงการลงทุนเข้าประเทศมากขึ้น

เศรษฐา นิวยอร์ก สหรัฐ
ภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำ (Gala Dinner) เพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรี ซึ่งสภาธุรกิจสหรัฐ และอาเซียน (US-ASEAN Business Council : USABC) และหอการค้าสหรัฐ และภาคเอกชนสหรัฐ เป็นเจ้าภาพ 20 กันยายน 2566


เศรษฐาบอกว่า เป้าหมายของเขาคือการเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจรายปีให้เติบโตเฉลี่ย 5% ตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของเขา ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ด้วยแรงหนุนส่วนหนึ่งจากการผลิตและการลงทุนของบริษัทต่าง ๆ จากสหรัฐ รวมถึงเทสลา (Tesla Inc.) ที่เขาหวังจะดึงมาลงทุนในประเทศไทย

เป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจดังกล่าวนี้เป็นเป้าที่สูงขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมาที่โตเพียง 1.8%

“ประเทศของเราถูกปิดมาระยะหนึ่งแล้ว” เศรษฐาบอกกับผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ของบลูมเบิร์ก 

“ผมต้องทำให้โลกรู้ว่าประเทศไทยเปิดกว้างสำหรับธุรกิจ” นายกฯเศรษฐาซึ่งมีวิสัยทัศน์ว่านายกฯต้องทำหน้าที่เป็นเซลส์แมนกล่าว และบอกต่อว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยไม่ได้มีโอกาสออกไปบอกเล่าเรื่องราวดี ๆ ของเศรษฐกิจไทยให้ต่างชาติรู้

“ขอเวลาให้ผมหกเดือน และผมหวังว่าฉันจะเปลี่ยนใจพวกเขา (นักลงทุน) ได้” 

นอกจากนั้น เศรษฐากล่าวถึงการที่กระแสเงินทุนไหลออกจากตลาดเงินตลาดทุนไทยในปีนี้ว่า การไหลออกของเงินทุนมีสาเหตุมาจากส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของไทยกับสหรัฐ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐใช้นโยบายการเงินเข้มงวดขึ้น 

เศรษฐา สหรัฐ
ภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำ (Gala Dinner) เพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรี ซึ่งสภาธุรกิจสหรัฐ และอาเซียน (US-ASEAN Business Council : USABC) และหอการค้าสหรัฐ และภาคเอกชนสหรัฐ เป็นเจ้าภาพ 20 กันยายน 2566

กรณีค่าเงินบาทของไทยอ่อนค่าหนัก เศรษฐามองว่า “ถ้าเงินบาทอ่อนก็เป็นผลดีต่อการส่งออก… และเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยว ซึ่งเราได้ส่งเสริมอย่างหนัก” พร้อมกล่าวเสริมว่า จะไม่เข้าไปแทรกแซงหรือยุ่งเกี่ยวกับตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

เศรษฐากล่าวว่า เขามองเห็น “เครื่องมือสำคัญ” อีกสองอย่างในการบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ ได้แก่ การลงทุนจากต่างประเทศและการใช้จ่ายภาครัฐ

“ผมจำเป็นต้องทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ให้ (เศรษฐกิจ) เติบโตต่อไปอย่างเป็นปกติ เพื่อให้แน่ใจว่าประชาชนมีเงินในกระเป๋า” เศรษฐากล่าวพร้อมกับให้มุมมองว่า การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจเป็นหนทางหนึ่งในการแก้ปัญหาความแตกแยกทางสังคมและการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทย