จุรินทร์ ชี้ แก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื้อหาสำคัญไม่แพ้ที่มา ทำใหม่ทั้งฉบับ-ตั้ง ส.ส.ร. รัฐบาลเตรียมเงินไว้ไม่ต่ำกว่าหมื่นล้าน เผย เลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ยังจูนกันไม่ติด เชื่อ ไม่กระทบการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน
วันที่ 27 กันยายน 2566 ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ตนเคยเรียนไปแล้วว่าประเด็นนี้พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุน ถ้าเป็นการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น และต้องไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 ซึ่งเป็นหลักที่มีความชัดเจน
นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมถึงหลักคิดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า การที่จะนำรัฐธรรมนูญฉบับใดฉบับหนึ่งมาเป็นต้นร่าง หรือต้นแบบนั้นต้องดูให้รอบคอบ อย่าไปดูจากที่มาอย่างเดียว แม้ที่มาจะมีความสำคัญ แต่เนื้อหาก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน เพราะสุดท้ายแล้วเมื่อรัฐธรรมนูญบังคับใช้แล้ว จะถูกบังคับใช้ตามเนื้อหา ไม่ได้บังคับใช้ตามที่มา
และต้องไปดูว่ารัฐธรรมนูญฉบับไหนที่เคยบังคับใช้มาแล้วมีช่องโหว่น้อยที่สุด ถ้าสามารถนำมาปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันได้ก็ควรจะนำฉบับนั้นมาเป็นต้นร่าง หรืออาจใช้หลาย ๆ ฉบับ มาพิจารณาข้อดี-ข้อเสีย โดยเลือกเฉพาะข้อดีมารวมกัน ให้สอดคล้องกัน ก็สามารถทำได้
ผู้สื่อข่าวถามความเห็นต่อข้อเสนอแนะของ นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรีที่เสนอให้แก้มาตรา 256 เพื่อลดงบประมาณในการทำประชามตินั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า เรื่องนี้ก็อยู่ที่รัฐบาล แต่ที่กำลังพูดถึงนี้หมายถึงนโยบายรัฐบาล ที่รัฐบาลไปหาเสียงไว้และประกาศว่าเป็นนโยบายเร่งด่วนในการแถลงต่อสภาว่าจะเร่งแก้รัฐธรรมนูญ ส่วนจะแก้อย่างไรนั้น
ดูเหมือนประธานคณะกรรมการศึกษาฯ จะตั้ง ส.ส.ร. หากตั้ง ส.ส.ร. ก็แปลว่าจะต้องมีขั้นตอนกระบวนการที่ยาวพอสมควร แล้วก็ตั้งธงว่าภายใน 4 ปี ซึ่งอันนี้ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่ารัฐบาลตั้งธงจะทำถึง 4 ปี เพราะเห็นแถลงเป็นนโยบายเร่งด่วน
“หากจะตั้ง ส.ส.ร. ก็ทำได้ อยู่ที่นโยบายของรัฐบาล เพราะจะต้องมีการเสนอทำประชามติ และเสนอต้นร่างเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาตามขั้นตอนกระบวนการ แต่ถ้าสมมติว่ามีการทำใหม่ทั้งฉบับ ตั้ง ส.ส.ร. รัฐบาลก็ต้องเตรียมเงินไว้ไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านไว้ด้วย ไม่ใช่ว่าตนจะค้านหรือไม่เห็นด้วย แต่รัฐบาลก็ต้องรู้ถึงภาระที่จะตามมา ซึ่งเป็นหน้าที่รัฐบาลที่ต้องเตรียมไว้ด้วย เพราะการทำประชามติครั้งนึงเท่าที่ กกต.ประเมิน ก็ประมาณ 3,000 กว่าล้าน”นายจุรินทร์
นายจุรินทร์ยังได้กล่าวถึงการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนด รอจูนกันอีกนิด จูนเสร็จเมื่อไหร่ก็จะเลือก ตนขอเรียนว่า จะไม่ให้เรื่องของการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องภายในพรรค กระทบต่อการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน หรือกระทบต่อการทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชน
“ผมยืนยัน อย่างน้อยที่สุดในขณะที่รักษาการหัวหน้าพรรค ผมจะไม่ให้เกิดสิ่งนี้ เพราะฉะนั้น ผมยืนยันว่าจะไม่ให้กระทบ อันนั้นก็ขอให้เป็นเรื่องภายในไป แต่การทำหน้าที่แทนประชาชนในฐานะพรรคการเมืองที่ประชาชนเลือกเข้ามา ผมยืนยันว่าจะไม่ให้กระทบ” นายจุรินทร์กล่าว