เศรษฐา เผย ดินเนอร์พรรคร่วมชื่นมื่น แถลงแจกเงินดิจิทัล บ่าย 2 พรุ่งนี้

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เผย วงดินเนอร์หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ถอดหัวโขน คุยแบบพี่-น้อง เตรียมแถลงแจกเงินดิจิทัล 10,000 พรุ่งนี้ บ่าย 2

วันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการร่วมรับประทานอาหารค่ำกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ว่า จุดประสงค์ที่นัดทานข้าวกันเนื่องจากได้บริหารงานมา 2 เดือน ถือเป็นรัฐบาลที่มีพรรคร่วมหลายพรรค และเราได้มีการเจอกันประจำอยู่แล้วในเวทีที่เป็นทางการ ที่ต้องประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทุกสัปดาห์ในวันอังคาร นอกจากนั้น ยังมีการประชุมวงเล็กซึ่งได้มีการพบปะเจอกันบ้างในลักษณะที่เป็นทางการมากกว่า

“ผมในฐานะที่เพิ่งเข้าสู่การเมืองและไม่เคยเป็นรัฐมนตรีมาก่อน และวันนี้มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งผมเองไม่มีความชำนาญในการที่จะใช้เวทีที่เป็นเวทีทางการมากนักเท่ากับพี่ ๆ น้อง ๆ หลายท่านที่เข้าไปอยู่ในการทานอาหารค่ำด้วยกัน ผมก็ถอดหมวกความเป็นนายกฯ มาเป็นพี่”

“เช่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย หรือนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นน้องและมีวัยวุฒิน้อยกว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ก็ได้มีการพูดคุยกันว่า ในรัฐบาลก่อน ๆ ที่หลายท่านเคยดำรงตำแหน่งมาหลายรัฐบาลมาก และจากรัฐบาลพรรคไทยรักไทย”

“ที่เวลานานมานี้ได้พัฒนาไปอย่างไร วิธีการดำเนินการประชุม วิธีการพูดคุย วิธีการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ละคนก็มีข้อแนะนำกันมา ซึ่งผมก็น้อมรับไปปฏิบัติ มันเป็นการพูดคุยที่เป็นกันเองและบรรยากาศที่สบาย ๆ จากการที่เราได้มาทานอาหารอร่อย ๆ ซึ่งมีหมูแดงสไตล์ฮ่องกง ซึ่งทุกท่านชอบ และบะหมี่ที่ใช้มือปั้นเองมาโชว์ให้ดู ก็อยู่กันถึง 4 ทุ่มกว่า ถือเป็นระยะเวลาที่ยาวนานที่ได้พูดคุยกันอย่างสบาย ๆ” นายกฯกล่าว

นายเศรษฐากล่าวด้วยว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องที่หนัก ๆ มาก เช่นเศรษฐกิจหรืออะไรไม่มี แต่เป็นเรื่องของวิธีการทำงานและพรรคร่วมรัฐบาลมากกว่า ตรงนี้มีการพูดคุยตักเตือน ตนก็แสดงตัวตนว่าเป็นคนอย่างไร อธิบายให้พี่ ๆ น้อง ๆ ฟัง ว่าสไตล์การบริหารเป็นอย่างไรบ้าง มีหลายคนหลายท่านได้พูดคุยแนะนำว่าควรทำอย่างไรบ้าง

เช่นนายภูมิธรรม เป็นคนที่มีพรรษาทางการเมืองเยอะ มีวัยวุฒิสูง และเป็นคนที่ตนให้ความเคารพในพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ท่านก็ได้อธิบายให้ฟังถึงวิธีการทำงานของตนอย่างไรให้กับรัฐมนตรีท่านอื่น และหยอดมาเรื่องการสอนให้ปรับปรุงตัวเองด้วย เพราะท่านนายกฯเป็นคนพูดตรง ตรงนี้ก็อาจจะต้องนำไปปรับปรุงบ้าง เพื่อให้ไปถึงจุดมุ่งหมายที่มันดีเหมือน ๆ กัน แต่อาจจะมีหลายวิธีก็น้อมรับไปปฏิบัติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลได้มีคำแนะนำอะไรบ้าง นายกฯกล่าวว่า ไม่มีอะไร ก็พูดคุยกันธรรมดา ซึ่งเราต้องอยู่ด้วยกัน มีอะไรก็พูดคุยกันได้ ก็แนะนำว่าอยากให้มีการเจอกันบ่อยขึ้น โดยการสลับกันเป็นเจ้าภาพ ซึ่งคราวหน้าจะเป็นนายอนุทิน ขณะที่นายวราวุธ บอกว่าอย่าไปจัดไกลถึงเขาใหญ่ เอาแถว ๆ นี้ก็พอ ก็บรรยากาศดีไม่มีอะไรเลยจริง ๆ ไม่ได้มีการพูดคุย หรือต่อรอง หรือขอนโยบายอะไรมา ไม่มี

เมื่อถามว่าจะมีการนัดพบพูดคุยระดับย่อย ๆ ลงมาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า แล้วแต่เห็นสมควร ก็ไม่ได้จำกัดว่าจะเป็นหัวหน้าพรรคหรือเลขาฯ เมื่อวันที่ 8 พ.ย. นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย ซึ่งท่านเองก็มีความสนิทสนมกับหลาย ๆ ท่านตรงนั้น ในฐานะที่เป็นนายกฯน้อยก็น่าจะเข้ามามีส่วนช่วยเหลือประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาลและรองนายกรัฐมนตรีท่านอื่นได้ดีขึ้น

เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นหัวหน้ารัฐนาวาได้ขอความร่วมมืออะไรจากพรรคร่วมรัฐบาลเป็นพิเศษหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่ได้มีเลย เพราะตนเชื่อว่าทุกท่านรู้หน้าที่ดีอยู่แล้วว่าเรามาร่วมเรือลำเดียวกัน เรามาช่วยกัน เรามาที่นี่ เรามาเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ตนคิดว่าทุกท่านรู้หน้าที่กันเองอยู่ ส่วนท่านอื่นอาจจะมีการคุยกันเรื่องเฉพาะเจาะจง ก็คงมีการไปคุยกันวงอื่นเวทีอื่น แต่เวทีนี้เป็นการไปพบปะสังสรรค์กันมากกว่า

เมื่อถามว่า การที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไปร่วมด้วยเหมือนเป็นการสอนงานทางการเมืองไปในตัวหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่าไม่มี เพราะ น.ส.แพทองธารเองมีความคุ้นเคยกับหลาย ๆ ท่านอยู่แล้ว และบางครั้งก็จะเห็นคุณอุ๊งอิ๊งเดินตามอดีตนายกฯมานานแล้ว ไม่ได้มีนัยอะไร

เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลได้มีการสอบถาม หรือมีข้อห่วงใยเกี่ยวกับนโยบายเงินดิจิทัลวอลเลตบ้างหรือไม่ว่า ไม่มี เพราะทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่า ในวันพรุ่งนี้ (10 พ.ย.) จะมีการแถลงข่าวในเวลา 14.00 น. ก็จะมีความชัดเจนตอนนั้น แล้วเจอกันนะ

เมื่อถามย้ำว่าเป็นข่าวดีใช่หรือไม่ เศรษฐาได้แต่ยิ้มโดยไม่ได้ตอบอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีความชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ นายเศรษฐาหันหน้าหนีไม่ตอบคำถามดังกล่าว กล่าวเพียงว่า “ขอคำถามต่อไป”

อย่างไรก็ตาม ระหว่างเดินกลับไปยังตึกไทยคู่ฟ้า นายกรัฐมนตรีกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า ‘ก็บอกแล้วว่าอย่าพูดเล็กพูดน้อย ผมพูดเอง พูดคนเดียวจบเลย’