อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงกรณีการพักโทษของ นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ต้องติดกำไล EM ตามหลักเกณฑ์นักโทษสูงวัย เกิน 70 ปี ปล่อยตัววันเสาร์-อาทิตย์ได้ หากประสานกรมคุมประพฤติแล้ว
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 มติชน รายงานว่า นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ยอมรับว่ามีรายชื่อของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ในรายชื่อของผู้ที่จะได้รับการพักโทษในรอบถัดไป ว่า การที่จะปล่อยตัวพักโทษในวันใดนั้น ตามหลักการคำว่าครึ่งปี หรือ 6 เดือน ให้เอา 30 วันไปคูณ ก็ให้นับได้ว่าครบวันไหน และวันถัดไปของวันครบการรับโทษ ก็คือวันปล่อยสำหรับพักโทษ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
นายสหการณ์กล่าวอีกว่า แนวทางปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์นั้นจะต้องประสานกับหลายหน่วยงาน หากเรือนจำแห่งใดได้ประสานกับกรมคุมประพฤติไว้เรียบร้อยแล้ว ก็สามารถปล่อยตัวในวันเสาร์-อาทิตย์ได้ แต่หากบางแห่งกรมคุมประพฤติยังไม่พร้อม ก็อาจต้องเลื่อนไปปล่อยตัวในวันปกติแทน
นายสหการณ์กล่าวว่า ส่วนขั้นตอนการรายงานตัวของผู้ได้รับการพักโทษนั้น กรมคุมประพฤติจะเป็นผู้กำหนดแนวทางการปฏิบัติและเงื่อนไข รวมถึงข้อห้ามเพื่อแจ้งแก่ผู้ที่ได้รับการพักโทษให้ปฏิบัติตาม
สำหรับผู้ได้รับการพักโทษที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป ตนยืนยันว่าไม่ต้องใส่กำไล EM ซึ่งเรื่องนี้เป็นมติของคณะกรรมการที่มีมานานแล้วว่า ผู้ต้องขังสูงอายุ 70 ปีขึ้นไป เจ็บป่วย หรือพิการ จะไม่ต้องใส่กำไล EM เพราะถือว่าอยู่ในเงื่อนไข และต้องมีการเก็บข้อมูลมาประเมินร่วมด้วยว่าคนกลุ่มนี้ไม่เคยกระทำผิดซ้ำ ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบขั้นตอนตามกฎหมาย
นายสหการณ์เผยต่อว่า การพักโทษนั้น ไม่ต้องแจ้งการปล่อยตัวต่อศาล เนื่องจากเป็นการพักโทษ ไม่ใช่หมายปล่อยตัว และนักโทษยังอยู่ระหว่างคำพิพากษาของศาล และกรมราชทัณฑ์ก็ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลอยู่ แต่การพักโทษนั้น ก็คือการที่ผู้ต้องขังซึ่งเคยอยู่ในเรือนจำ ก็สามารถออกไปอยู่ที่บ้านหรือในสังคมได้
ส่วนเรื่องการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหรืออัยการจะพิจารณาอายัดตัวนายทักษิณ ในความผิดตามมาตรา 112 หลังได้รับการพักโทษนั้น เป็นอำนาจของอัยการ