ประธาน กกต. เผยสั่งนายทะเบียนพรรคการเมือง ศึกษาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ว่าการกระทำของพรรคก้าวไกลเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ยุบพรรคหรือไม่
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีข้อวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานของ กกต. อาจจะเป็นเครื่องมือทางการเมือง จากกรณียุบพรรคการเมือง ว่า กกต.ไม่ได้คิดอย่างนั้น แต่ตนก็ไม่สามารถห้ามใครคิดแบบนั้นได้ กฎหมายพูดเสมอว่าให้ กกต. มีหน้าที่อะไรบ้าง ถ้าบทบาทเป็นอย่างไร กกต. ก็ต้องทำ คงไม่ได้เป็นเครื่องมืออะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า สังคมมองว่าที่ผ่านมา กกต. จะมักจะยื่นยุบพรรคที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาล โดยครั้งนี้ก็คือพรรคก้าวไกล ซึ่งเพิ่งจะมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเรื่องใช้การแก้ไขมาตรา 112 ในการหาเสียงของพรรค นายอิทธิพรกล่าวว่า การยุบพรรคหรือไม่ ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงปรากฏ เราไม่ได้ดูชื่อพรรค ถ้าข้อเท็จจริงปรากฏว่า พรรคการเมืองใดทำอะไรอย่างไร แล้วเรื่องมาถึงอำนาจหน้าที่ของ กกต. เราก็ทำตามนั้น ที่ผ่านมาเราพยายามทำตามกฎหมาย ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการทำงานโดยแท้
เมื่อถามว่าตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาแล้ว กกต. จะดำเนินการอย่างไรต่อไป นายอิทธิพรกล่าวว่า นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ที่ทราบกันทั่วไป แต่เนื่องจากศาลวินิจฉัยวันที่ 31 มกราคม ต่อมาวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ มีคนมายื่นร้องต่อ กกต. เพื่อขอให้ส่งเรื่องยุบพรรคก้าวไกล
และวันที่ 6 กุมภาพันธ์ สำนักงาน กกต. เสนอเรื่องตามกระบวนการการทำงานปกติให้ กกต.ทราบว่า มีเรื่องนี้ กกต.ก็ขอให้สำนักงานและนายทะเบียนพรรคการเมือง ไปศึกษาคำวินิจศาลเท่าที่มีอยู่ในวันอ่าน และศึกษาว่าตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง
ตามอำนาจหน้าที่ที่มี และวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ก็มีการเสนอเรื่องมาว่า อยู่ระหว่างการศึกษา อย่างไรก็ตามเพื่อความรอบคอบ เพื่อความเป็นธรรม และชัดเจน อาจจะให้ศึกษาคำวินิจฉัยกลาง ซึ่งตามแนวทางการทำงานทราบว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาภายใน 2 สัปดาห์ คาดว่าจะเป็นภายในวันนี้ หรือสัปดาห์นี้ แต่ไม่ช้าไปกว่านี้แน่ เมื่อ กกต. มีข้อมูล เอกสารครบถ้วน ก็จะวินิจฉัยตามนั้น
ส่วนจะได้ข้อสรุปเมื่อไหร่นั้นก็ขึ้นอยู่กับการศึกษาคำวินิจฉัยของศาล หลักฐานและดูว่ามีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องข้อกฎหมายที่เขียนชัดในตามมาตรา 92 และ 93 ของ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
เมื่อถามว่าหากยื่นยุบพรรคตามกฎหมาย ต้องอิงตั้งแต่กรรมการบริหารพรรคชุดเก่าที่เคยเสนอร่างแก้ไขมาตรา 112 หรือไม่ นายอิทธิพรกล่าวว่า ไม่ได้ลงรายละเอียดขนาดนั้น เพราะยังมีกระบวนการทำงาน 1.ศึกษาคำวินิจฉัยให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อน 2.สำนักงาน กกต. มีความเห็นเป็นอย่างไร จะเสนอ กกต. ใช้อำนาจหน้าที่อย่างไร ทั้งนี้ไม่มีกรอบเวลาชัดเจน แต่เรื่องนี้ต้องทำโดยไม่ชักช้า เพราะมีคำวินิจฉัยออกมาชัดเจนแล้ว แต่กระบวนการทำงานหากทำละเอียด ครบถ้วนได้ก็จะเป็นประโยชน์
เมื่อถามว่า มีคำวินิจฉัยของศาลแล้ว ยังต้องเรียกผู้ถูกกล่าวหามาให้ข้อมูล ชี้แจงเพิ่มเติมหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า อาจจะมีกระบวนการภายใต้กรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่นายทะเบียนพรรคการเมืองตั้ง ขณะนี้เราทำคู่ขนานกันไประหว่างสำนักงานเสนอความเห็นว่า เรื่องนี้มีหลักฐานอันควรเชื่อแล้วหรือยัง ซึ่งก็ต้องไปดูว่าเรื่องนี้จะตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างไร ก็ทำพร้อม ๆ กัน เพราะฉะนั้น ถ้าจะเรียกก็อาจเรียกในกรอบของคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง
- ธีรยุทธ ยื่น กกต. ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ยุบก้าวไกล ข้อหาล้มล้างการปกครอง
- ก้าวไกล แถลงยัน ไม่มีเจตนา เซาะกร่อนบ่อนทำลาย แยกสถาบันออกจากชาติ
- ก้าวไกลไม่รอด ศาลสั่งยุติหาเสียงแก้ ม.112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง
- เปิดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญสั่งก้าวไกลเลิกพูด-เขียน-พิมพ์ ห้ามแก้ ม.112
- ชี้ชะตา แก้ 112 ก้าวไกลและพิธา หยุดการกระทำล้มล้างการปกครอง