เศรษฐา สั่งคลังเร่งส่งงบประมาณ 67 ลงพื้นที่ กระตุ้นเศรษฐกิจมหภาค

เศรษฐา ทวีสิน
เศรษฐา ทวีสิน

นายกฯ สั่งสำนักงบฯ-กรมบัญชีกลาง เร่งส่งงบประมาณลงหน่วยรับงบประมาณในพื้นที่ โดยเฉพาะงบฯลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจมหภาค ไฟเขียวคลังเก็บภาพภาษีสินค้านำเข้ามูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท ช่วย SMEs

วันที่ 2 เมษายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง แถลงหลังเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐสภาผ่านร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตนจึงขอให้สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เร่งส่งงบประมาณไปยังหน่วยงานต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว เพราะถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของงบลงทุนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจระดับมหภาคของประเทศ

นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นอกจากนี้ได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งศึกษาและทำแผนในการพัฒนาพื้นที่บริเวณท่าเรือกรุงเทพ หรือท่าเรือคลองเตย ที่เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่รวมไปถึงภาคแรงงาน และนอกจากพัฒนาพื้นที่นี้ให้เป็นพื้นที่สาธารณะของคนกรุงเทพฯได้หรือพื้นที่เชิงพาณิชย์อื่น ๆ จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมในอนาคต

เพราะปัญหาจากที่เรามีท่าเรืออยู่ในเมือง ก็มีเรื่องการขนส่ง รถบรรทุกน้ำมัน รถบรรทุก ที่อาจทำให้เกิด PM 2.5 โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเคยเสนอ และได้พูดคุยกันในเรื่องนี้แล้ว จึงเห็นควรให้ศึกษาพิจารณาเรื่องนี้เป็นการเร่งด่วน

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นอกจากนี้ยังให้กระทรวงการคลังเร่งเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มของสินค้าที่นำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท จากเดิมที่ไม่เคยมีการเรียกเก็บ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs และยังเป็นการทำงานใกล้ชิดกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อดูผลกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่อง SMEs ไทยเดือดร้อนมากก็ต้องดูแล

Advertisment

ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวก ในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ ตามที่ ก.พ.ร.เสนอ เพื่อแก้ไข ในการบังคับใช้กฎหมายที่ขจัดปัญหาไม่พึงประสงค์ ลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะนำไปสู่การลดเรื่องการทุจริตและเพิ่มประสิทธิภาพ การอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการขออนุญาตและรับบริการจากหน่วยงานของรัฐ

เช่น จัดให้มีช่องทางพิเศษเร่งด่วน หรือ fast track โดยหน่วยงานของรัฐบาลอาจเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษ จากการใช้บริการช่องทางดังกล่าวก็ได้ เพื่อเพิ่มการอนุญาตในกรณีที่มีการขออนุญาต ไม่เสร็จภายในระยะเวลา

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าการสั่งการให้เดินหน้ากระจายการจัดสรรงบประมาณ 2567 ซึ่งผ่านการเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนรอลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาและเชื่อว่าอีกไม่กี่วันจะบังคับใช้เป็นกฎหมาย

ทั้งนี้ นายกฯกำชับให้การกำกับเร่งรัดการใช้งบประมาณเป็นไปโดยเร็ว เพราะเป็นกลไกสำคัญที่จะกระตุ้นและเกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจ โดยกระทรวงการคลัง ผ่านทางกรมบัญชีกลาง ได้รับข้อสั่งการจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามที่นายกฯ มอบหมาย

Advertisment

นอกจากนี้ นายกฯยังย้ำว่าการเก็บภาษีสินค้านำเข้าต่ำกว่า 1,500 บาท จะไม่เสียภาษีศุลกากร และภาษีสรรพสามิต ซึ่งกรมสรรพากรได้ดำเนินการมาระดับหนึ่งแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการยกร่างกฎหมายให้เรียบร้อย เชื่อว่าไม่เกินเดือนพฤษภาคมจะมีการบังคับใช้การเก็บภาษีผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศการค้าที่เป็นธรรม ไม่ว่าเป็นผู้ประกอบการในประเทศ หรือต่างประเทศ จะต้องเสียภาษีในอัตราเดียวกัน

“2 เดือนจากนี้จะเกิดบรรยากาศการลงทุนที่เป็นมาตรฐาน เป็นธรรมกับทุก ๆ ฝ่าย ซึ่งการเก็บภาษีดังกล่าวจะมีรายได้เข้ารัฐมากขึ้น และมูลค่าของสินค้าที่ต่ำกว่า 1,500 บาท จะทำให้รายได้เพิ่มมากขึ้นหลักร้อยล้านบาท แต่สิ่งสำคัญคือสร้างความยุติธรรม ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการในประเทศ ซึ่งผู้ประกอบการ SMEs เรียกร้องมา เราก็ตอบสนอง” นายจุลพันธ์กล่าว