
ทักษิณ ประกาศ มั่นใจ แพทองธาร นำทีมเพื่อไทยพลิกเกมประเทศ ด้าน เศรษฐา ลั่น ไม่แพ้ตลอดกาล ทุ่มเทแรงกาย แรงใจอีก 3 ปีจากนี้
วันที่ 5 เมษายน 2567 ที่พรรคเพื่อไทย มีการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค และนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย รัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยและ สส. เข้าร่วมประชุมอย่างคึกคัก
ทั้งนี้ เมื่อถึงการประชุมมีการเปิดวีดีทัศน์การให้สัมภาษณ์ของ น.ส.แพทองธาร นายเศรษฐา รวมถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้แก่สมาชิกพรรคได้รับฟัง
อนุรักษนิยมใหม่ไม่อยู่ใน DNA
โดยนายทักษิณกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยถูกกล่าวหาว่าเป็นพรรคอนุรักษนิยมใหม่ เรื่องนี้ตนบอกได้เลยว่าไม่ได้อยู่ในดีเอ็นเอของพรรคเพื่อไทยหรือไทยรักไทย ว่าจะเป็นพรรคอนุรักษนิยม แต่พรรคเพื่อไทยจริง ๆ สร้างมาจากไทยรักไทย เป็นพรรคที่รีฟอร์มหรือเป็นพรรคผู้นำในการเปลี่ยนแปลง ถ้าจำได้พรรคไทยรักไทยเริ่มเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ระบบประกันสุขภาพ การเอาเงินจากเมืองหลวงกลับไปสู่ชนบท กระจายเงินออกไป และเรื่องการดูแลสินค้าเกษตร ทุกเรื่องเป็นเรื่องใหม่หมดที่ไทยรักไทยทำ และพรรคเพื่อไทยก็ทำมาต่อเนื่อง
ดิจิทัลวอลเลต..โคตรใหม่
นายทักษิณกล่าวว่า “และในวันนี้พรรคเพื่อไทยก็กำลังจะทำดิจิทัลวอลเลต โทษนะ..โคตรใหม่ ไม่ใช่ใหม่ธรรมดา ฉะนั้นวันนี้เราไม่ได้อยู่กับเรื่องโบราณแน่นอนเพราะโลกเปลี่ยนไป เพื่อไทยก็ต้องปรับตัวเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ”
พรรคเพื่อไทยวันนี้ต้องเข้าใจว่าสังคมเปลี่ยนไปแล้ว การเข้าถึงประชาชนเป็นหัวใจสำคัญทั้งทางกายภาพหรือทางสื่อ ดังนั้น อย่าเป็นคนที่ไม่เข้าถึงประชาชน และต้องสะท้อนปัญหาของประชาชนในสภาได้ ถึงแม้จะไม่เป็นผู้บริหาร ฉะนั้นอยากให้ สส.ของพรรคเพื่อไทยเข้าถึงประชาชน การทำงานในสภาให้เข้มแข็ง และหัวใจคือต้องเป็นนักการเมืองที่รักประชาชน
ประชาชนเดี๋ยวนี้มองตาเราก็รู้ว่ามีเมตรตาธรรม หรือเราเป็นคนถือตัวไม่สนใจเขามองออก ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้จะอยู่กับความรู้สึกของชาวบ้าน จะมาเสแสร้งไม่กี่วัน หนึ่งเดือนตอนเลือกตั้งเขาก็รู้หมดแล้ว ฉะนั้นเราต้องอยู่กับชาวบ้านให้ได้
มั่นใจฝีมือนายกฯ “นิด”
นายทักษิณกล่าวอีกว่า ตนมั่นใจว่านายเศรษฐาสามารถนำพาประเทศได้ เพราะท่านเป็นนักบริหาร มีประสบการณ์มาก การมีเครือข่ายที่ส่งเสริมช่วยเหลือ สนับสนุนกันเป็นสิ่งที่จำเป็น สำหรับตนเป็นคนบ้านนอก ตอนเป็นนายกฯ ก็ไม่มีเครือข่ายในกรุงเทพฯ มีทั้งจุดอ่อนจุดแข็ง เป็นการวางตัวที่เหมาะสมของพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐาเหมาะที่จะลงไปในช่วงที่เปลี่ยนผ่านระหว่างการเมืองที่มีหลายพรรค นายกฯ เศรษฐาน่าจะทำได้ดีเพราะมีประสบการณ์
อุ๊งอิ๊งพลิกเกม
สำหรับ น.ส.แพทองธาร ตนมั่นใจว่าจะสามารนำทีมพลิกเกมได้ไม่ยาก เป็นดีเอ็นเอระหว่างคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ กับตน ผสมกันเป็น น.ส.แพทองธาร คือเอาส่วนเข้มแข็ง อดทนเด็ดขาดมาจากคุณหญิงพจมาน และเขาเอาส่วนที่พบปะผู้คน เข้าใจการเมืองมาจากตน เชื่อว่าเขาเป็นผู้นำที่ดีได้ ไม่ใช่มาเชียร์ลูก แต่ในเมื่อตนทำได้ ดีเอ็นเอตนก็ต้องทำได้และทำได้ดีกว่าด้วย
อิ๊ง ลั่น นโยบายที่สำเร็จมาแน่
ขณะที่ น.ส.แพทองธาร พูดในคลิปว่า ตอนหนึ่งว่า การแพ้เลือกตั้งที่ผ่านมา ทำให้รู้ถึงเงื่อนไขและการเปลี่ยนแปลง การแพ้เลือกตั้งที่ผ่านมา เมื่อผ่านการการดูแลตัวเองและจิตใจคนในพรรคแล้ว ต้องไปต่อ พร้อมยืนยันเดินหน้าสร้างรายได้ประชาชนผ่านนโยบาย ซอฟต์พาวเวอร์ ที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนและมีโอกาสที่ดีขึ้นพ้นขีดความยากจน
บางอย่างอาจยังไม่สำเร็จทันทีแต่เราไม่ทิ้งหัวข้อนั้นไป เราพยายามสื่อสารกับทุกฝ่ายมีส่วนคอมเมนต์ในส่วนที่เราจะทำให้ มีเห็นชอบร่วมกันแล้วจะสำเร็จ เมื่อถึงเวลาเราจะผลักดันนโยบายให้สำเร็จ และเรามีนายกฯ เศรษฐา ซึ่งเดินทางต่างเดินทางต่างประเทศ เดินทางต่างเพื่อเข้าใจภาพรวม เพื่อหาโอกาสให้กับประชาชน ดังนั้น นโยบายที่สำเร็จมาแน่
ประสานฝ่ายค้าน ปวดหัว!
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังคลิปดังกล่าวจบลง นายวิสุทธ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวปาถกฐาพิเศษว่า สภาที่เข้มแข็งคือรัฐบาลที่เข้มแข็ง โดยมีผลประโยชน์สูงสุดคือประชาชน ย้อนไปในรัฐบาลไทยรักไทย ในการขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและอีกมากมาย ทำให้พรรคไทยรักไทยไปนั่งในหัวใจประชาชน เพราะเรามีฝ่ายนิติบัญญัติที่เข้มแข็ง มี สส.เกินครึ่ง ทำให้ไปกู้ระบบราชการได้หลายกระทรวง แก้กฎหมายที่เป็นปัญหา
ทำให้การเลือกตั้งครั้งต่อมาสร้างประวัติศาสต์ได้ สส.370 เสียง ตอนนี้แม้มีเสียงเกินกึ่งแต่ไม่ได้มี สส.พรรคเดียว การทำงานกับหลายพรรคการเมืองลำบากมากขึ้น พรรคร่วมต้องสร้างเอกภาพร่วมกัน และประสานงานกับพรรคร่วมฝ่ายค้านที่หลายครั้งรับปากแต่ไม่ทำตาม อันนี้เราปวดหัวมาก
หัวหน้าพรรคเพื่อไทยมีนโยบายจัดตั้งส่วนประสานทางการเมืองกับสภาขึ้นมา เพื่อสร้างความเข้าใจให้ประชาชนในสังคมสื่อออนไลน์ ป้องกันการให้ข้อมูลที่ผิดพลาด และหน้าที่สำคัญอีกอย่างของ สส.คือการลงพื้นที่รับฟังปัญหากับประชาชน
สั่งสื่อสารทุกแพลตฟอร์ม
วันนี้คนรอนโยบายสำคัญของเพื่อไทย การสื่อสารออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มเป็นเรื่องจำเป็น เมื่อผลงานของรัฐบาลออกมาความชัดเจนจะอยู่ในหัวใจประชาชน และเชื่อว่าวันนั้นพรรคเพื่อไทยจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง รัฐบาลจะแข็งแค่ไหนต้องร่วมมือกับสภาเพื่อออกกฎหมายให้รัฐบาลผลักดันนโยบายต่อไป
อิ๊ง ลั่น เพื่อไทย เปลี่ยนประเทศไทย
จากนั้น น.ส.แพทองธารกล่าวปาฐกฐาพิเศษว่า ต้องขอขอบคุณทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้นำพรรคในอดีต ผู้บริหารพรรคชุดปัจจุบัน พี่น้อง สส.และผู้ยังเชื่อมั่นในพรรคทุกกำลังใจ ทุกการทำงาน ทุกความทุ่มเทของทุกคน ทำให้พรรคยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้ เรากำลังเปลี่ยนแปลงจากข้างในด้วยการเติมคนใหม่เข้ามาทำงานกับเรา เติมองค์ความรู้ใหม่ให้เราพร้อมทำงานมากขึ้น
คิดว่าอีกไม่นานประชาชนจะได้เห็นว่าเพื่อไทยกำลังทำอะไร และกำลังจะเปลี่ยนไปทิศทางไหน เราตั้งใจเปลี่ยนแปลงพรรคครั้งใหญ่ตั้งแต่รากฐาน เพื่อให้พรรคเพื่อไทยอยู่คู่กับประเทศไทยไปตลอด ไม่ว่าหัวหน้าพรรคจะเปลี่ยนไปอีกกี่คน บริบทในอนาคตจะเป็นอย่างไร พรรคเพื่อไทยจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้กับประเทศไทยได้เสมอ เหมือนจุดเริ่มต้นตั้งแต่พรรคไทยรักไทย บางคนบอกว่าพรรคเราจะเป็นพรรคอนุรักษนิยมใหม่ที่เน้นคงสิ่งเดิมไว้ไม่เปลี่ยนแปลง
ขอยืนยันว่า ไม่มีวันเป็นแบบนั้น เพราะ DNA ของเราคือการเปลี่ยนแปลง ทุกครั้งที่เราเป็นรัฐบาล เราจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ประเทศไทย
นัด 3 พ.ค.สรุปผลงานรัฐบาลเพื่อไทย
น.ส.แพทองธารกล่าวต่อว่า ในสมัยไทยรักไทย เราสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือ 30 บาทรักษาทุกโรค ทำให้คนไทยทุกคนเข้าถึงการรักษาพยาบาลฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงมาจนถึงทุกวันนี้ และเรากระจายอำนาจทุน อำนาจการตัดสินใจสู่ 70,000 หมู่บ้าน ผ่านกองทุนหมู่บ้าน สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเลตคือ การกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ทุกอำเภอของประเทศไทย จะมีการอัดฉีดเงินลงไป เมื่อมีเงินมากกว่าห้าแสนล้านบาทเข้าสู่ระบบ เศรษฐกิจทั้งประเทศจะถูกกระตุ้น
อย่างไรก็ตาม พรรคไทยรักไทยได้ส่งต่อการเปลี่ยนแปลงจนมาถึงพรรคเพื่อไทย เราคือพรรคปฏิรูปที่ทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้าด้วยนโยบาย โดยมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ หลังจากวันนี้วันที่งบประมาณผ่านแล้ว ตนเชื่อมั่นว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา จากที่วิ่งเร็วอยู่แล้ว จะเร็วขึ้นอีก หลายนโยบายที่เคยติดขัดเพราะงบประมาณ จากนี้จะผ่านฉลุย หลายนโยบายจะสำเร็จได้เห็นผลเร็ว ๆ นี้แน่นอน และพบกับการสรุปผลงานของรัฐบาลเพื่อไทยที่ไม่ต้องรอ 10 เดือนในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้
ย้ำ 2 ปี เกิดสึนามิเศรษฐกิจ
จากนั้นนายเศรษฐากล่าวปาถกฐาพิเศษว่า วันนี้ตนขอพูดในฐานะนายกฯ มาให้ความกระจ่างเรื่องนโยบาย และพูดจากใจในฐานะสมาชิกพรรค เรื่องแรกที่ผ่านมาเราทำการต่างประเทศเชิงรุก และการส่งเสริมการลงทุน ก็ต้องบินไปต่างประเทศบ้าง แต่ตนไม่ได้ชอบบินไป จะเป็นแมลงวันหรืออะไรก็ตามที่ฟังแล้วตลก ถือเป็นสีสันในชีวิต สอบถามคนที่ไปกับตนได้เพราะไม่ได้สบายเลย
และการจะลงทุนเป็นแสนล้านเขาจะตัดสินใจใน 7 เดือนหรือ ขอให้อดทน อีก 2 ปีข้างหน้าจะเป็นสึนามิแห่งการลงทุนในทุกภาคส่วน อย่างเรื่องแลนด์บริดจ์หลายคนอาจมองว่าเราเป็นคู่แข่งสิงคโปร์ แต่เมื่อโครงการนี้เสร็จไม่ว่าจะ 10 หรือ 15 ปี ข้างหน้า ช่องแคบมะละกาอาจไม่เพียงพอ และไม่ใช่แค่ด้านการลงทุน ซึ่งจุดยืนของไทยเป็นกลางในเวทีโลกไม่ฝักไฝ่ฝ่ายใด
เมื่อโครงการแลนด์บริดจ์แล้วเสร็จ จะไม่มีใครมาคอนโทรลการขนถ่ายสินค้าจากอันดามันไปอ่าวไทยได้นอกจากประทเศไทย ทุกประเทศจะต้องการการขนถ่านสินค้าจากแลนด์บริดจ์ ทำให้เราเป็นมหาอำนาจเล็ก ๆ ทางเศรษฐกิจที่ทุกคนต้องพึ่งพา
ลั่น ไม่แพ้ตลอดกาล
นายเศรษฐากล่าวว่า ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย และในฐานะน้องใหม่ที่เข้ามาที่นี่ 13 เดือน เป็นเวลาอันสั้นที่ต้องเรียนรู้เรื่องใหม่ ๆ ตอนอายุ 60 ปีไม่ใช่เรื่องง่าย และ 2 วันที่ผ่านมาเป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยคิดว่าจะไปยืนบนเวทีถูกต่อว่าซึ่งหลายเรื่องไม่จริง แต่ต้องกัดฟันและรับรู้ ไม่คิดว่าจะมาตรงนี้ แต่เมื่อมาแล้วก็ต้องทำต่อไป ตนได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น
การเลือกตั้งที่ผ่านมาเราแพ้เลือกตั้งฟังแล้วบีบหัวใจ แต่มันคือความจริง 141 เสียง จาก 500 เสียง ตนในฐานะสมาชิกพรรค เป็นแคนดิเดตนายกฯ ก็มีความเจ็บปวด ต้องยอมรับ ไม่ว่าความอ่อนหัดด้านการเมือง เข้าถึงประชาชนไม่เต็มที่ ไม่ได้ไปดีเบต ไม่เถียงอะไรทั้งสิ้น พร้อมน้อมรับทุกข้อกล่าวหา
นายเศรษฐากล่าวต่อว่า ขอเรียนว่าตนเป็นคนไม่แพ้ตลอดกาล นายทักษิณบอกว่าตนเป็นนายกฯช่วงการเปลี่ยนผ่าน ตนไม่ใช่คนอายุน้อย ถ้าได้เห็นประวัติ ทุกท่านทราบชีวิตตนครบทุกอย่าง แต่ที่ก้าวเข้ามาตรงนี้ เรื่องเดียวที่ตนปรารถนาในชีวิตต้องนำการเปลี่ยนผ่านที่เป็นบวก และนำชัยชนะกลับมาให้พรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ตนบอกเพื่อน ครอบครัว อย่างเดียวในชีวิตที่ตนต้องการคือชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่มีอะไรจะทำให้ตนทำไม่ได้
ทุ่มเทกายใจ 3 ปีครึ่งข้างหน้า
จะทุ่มเทกายและใจใน 3 ปีครึ่งข้างหน้า เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของพวกเรา อดีตที่ผ่านมามีทั้งความขมขื่น ไม่ว่าจะถูกยุบพรรค 2 หน วาทกรรมที่ถูกต่อว่า แม้เป็นคนหน้าใหม่แต่จิตวิณญาณของตนก็เหมือนพวกท่าน อยากบอกว่าเรามองอนาคตที่สดใสดีกว่าที่เรามาร่วมในวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ เรามี 141 เสียงจาก 500 เสียง วันนี้เรามีรองประธานสภา มีนายกฯ มีรองนายกฯ 3 คน ดูแลความมั่นคง มีกระทรวงคมนาคม เราควรโฟกัสเรื่องเหล่านี้หรือไม่ แทนที่จะไปโฟกัสว่าพรรคเพื่อเขาได้อะไร
นายเศรษฐากล่าวอีกว่า ฝรั่งมีสำนวนว่าสนามหญ้าอีกข้างของรั้วจะเขียวกว่าสนามหญ้าตัวเอง แต่เราจะเห็นสนามหญ้าบ้านเราตรงไหนมีหลุม มีมูลสุนัขจะได้ไม่เหยียบ วันนี้สนามหญ้าบ้านเราอาจไม่เขียว แต่เรามีมีปุ๋ย มีน้ำ มีรถตัดหญ้าที่ดีกว่า มาช่วยกันทุกคนเพื่อให้สนามหญ้าบ้านเราเขียวขจีได้หรือไม่ นี่คือบ้านเรา เราต่อสู้กับอดีตที่ขมขึ่น แต่มีอนาคตที่มีแสงสว่าง มี 141 เสียงในวันนี้แต่เราจะมีเยอะขึ้นอีก
เราทุกคนอยากให้พรรคเจริญก้าวหน้า มีหัวหน้าพรรคมุ่งมั่น มีคนรุ่นใหม่ มีผู้อาวุโสที่คอยประคอง มีอดีตนายกฯ ที่พ็อปพูลาร์มากสุดในวงการการเมืองไทยกลับมาแล้ว และท่านมีนายกฯ ที่มีจุดประสงค์เดียวในชีวิตคือชนะเลือกตั้งครั้งต่อไป องค์ประกอบต่าง ๆ เหล่านี้ เพียงพอหรือไม่ให้พรรคเราเดินไปข้างหน้าได้ ขอให้มั่นใจนายกฯ คนนี้ ตลอดเวลา 3 ปีครึ่งไม่ว่าต่างจังหวัดหรือที่ไหน เราจะทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อประชาชนคนไทยทุกคน