เศรษฐา สั่งปราบมิจฉาชีพออนไลน์ ปิด 7 แสนบัญชีม้า อายัด 900 ล้าน

เศรษฐา สั่งปราบมิจฉาชีพออนไลน์ ปิด 7 แสนบัญชีม้า อายัด 900 ล้าน

นายกรัฐมนตรี สั่งปราบปรามมิจฉาชีพออนไลน์ 7 เดือน ปิด 7 แสนบัญชีม้า อายัดเงิน 900 ล้าน

วันที่ 4 พฤษภาคม 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มุ่งมั่นใส่ใจส่งผลให้รัฐบาลปิดบัญชีม้าแล้วกว่า 7 แสนบัญชี อายัดเงินเกือบ 1 พันล้าน อยู่ระหว่างตรวจสอบเพื่อคืนเงินผู้เสียหาย โดยข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่าธนาคารพบเองและใช้ข้อมูลจากตำรวจปิดได้ประมาณ 3 แสนบัญชี, ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (ศูนย์ AOC 1441) ปิดบัญชีม้า 112,699 บัญชี

สำนักงาน ปปง.ปิดบัญชีม้า 318,298 บัญชี รวม 730,997 บัญชี เมื่อหน่วยงานปิดบัญชีม้าแล้วนำส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวบรวมข้อมูลและนำข้อมูลส่งให้ ป.ป.ง.ประกาศรายชื่อดังกล่าวเข้าในระบบ HR-03 หรือระบบรายชื่อบุคคลพฤติกรรมเสี่ยงสูงหรือต้องเฝ้าระวังกรณีบัญชีม้า และหากบุคคลปรากฏชื่อตามประกาศจะเปิดบัญชีใหม่ต้องถูกตรวจสอบเข้มงวดขึ้น ตามมาตรการควบคุมการเปิดบัญชีใหม่ เพื่อป้องกันการใช้เป็นช่องทางในการกระทำผิดกฎหมาย

นายชัยกล่าวว่า ส่วนเงินที่ยึดมาได้จะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ เงินที่ศูนย์ AOC 1441 รับแจ้งจากผู้เสียหาย และมีการอายัดบัญชีทันที กรณีนี้สามารถคืนเงินกับผู้เสียหายได้ เพราะมีเส้นทางการเงิน และเงินที่ ป.ป.ง.ยึดได้จะต้องตรวจสอบก่อนว่าเส้นทางการเงินมาจากแหล่งใด ก่อนเฉลี่ยคืนผู้เสียหายต่อไป และจากการอายัดบัญชีดังกล่าว มีเงินค้างอยู่ในระบบล่าสุดกว่า 900 ล้านบาท คาดว่าจำนวนเงินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในส่วนการจะคืนเงินให้กับผู้เสียหายต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบ พิสูจน์ ก่อนเฉลี่ยคืนผู้เสียหาย

“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญทางการป้องกัน ปราบปราม อาชญากรรมออนไลน์ทางเทคโนโลยี รวมทั้งให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้เท่าทันกลโกงหลอกลวงของอาชญากร และสั่งการอย่างเด็ดขาดให้จับกุม ปราบปรามการกระทำผิดผ่านช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลของการจับกุม อายัดเส้นทางการเงินเหล่านี้ เป็นผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมของการทำงานอย่างจริงจังของรัฐบาล รวมทั้งเป็นความมุ่งมั่นของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการจะปกป้องประชาชนให้พ้นจากเหล่ามิจฉาชีพ” นายชัยกล่าว

Advertisment