เศรษฐา ทานข้าว 10 ปี จากโกดัง ภูมิธรรม เตรียมส่งออกนอกยกกอง

‘นายกฯ’ ทานข้าว 10 ปีจากโกดังแล้ว บอก ’เหมือนกินข้าวปกติทั่วไป ไม่ได้แตกต่าง ทานได้‘ ยกเว้นสีของข้าว ภูมิธรรม เตรียมขายยกกองออกนอก ไม่ขายในประเทศ

วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ นำข้าวจากโครงการรับจำนำข้าว ที่เก็บไว้ 10 ปี ในโกดังจังหวัดสุรินทร์มาให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รับประทานในช่วงเที่ยงวันเดียวกันนี้นั้น

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังคณะทำงานของนายกรัฐมนตรี โดยคณะทำงานระบุว่า เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ได้รับประทานอาหารมื้อเที่ยงกับคณะทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า  ทำเนียบรัฐบาล โดยได้นำข้าว 10 ปีจากโครงการรับจำนำข้าว ที่เก็บไว้ในโกดังข้าวในจังหวัดสุรินทร์มาหุงพร้อมรับประทาน ซึ่งมีเมนูกับข้าว ประกอบด้วย ไข่ลูกเขย กะเพราไก่ แกงเขียวหวานไก่ หมูทอดกระเทียม แกงคั่วเนื้อ และผัดผัก  โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวกับคณะทำว่า “ข้าวก็อร่อยดีครับ”

ผู้สื่อข่าวถามไปยังนายกรัฐมนตรีว่าหลังลองรับประทานข้าวแล้วเป็นอย่างไรบ้าง นายเศรษฐา ระบุว่า “ได้ลองกินแล้ว ความรู้สึกเหมือนกินข้าวปกติทั่วไป แต่เรื่องของสีข้าวอาจไม่ขาวเหมือนข้าวใหม่ แต่โดยรวมไม่ได้แตกต่างอะไร ทานได้”

นายภูมิธรรม เวชยชัย

Advertisment

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีนักวิชาการแสดงความเป็นห่วงข้าวหอมมะลิในโครงการรับนำจำข้าวนาน 10 ปี อาจมีสารปนเปื้อนสะสมจนทำให้เกิดมะเร็งในอนาคตได้ว่า ตนได้พิสูจน์ให้เห็นในขั้นตอนแรกแล้วว่าสภาพทางกายภาพข้าวยังดีอยู่ แม้สีจะเปลี่ยนไปบ้าง คุณภาพข้าวอาจไม่เหมือนข้าวใหม่ แต่สามารถรับประทานได้ ขออย่าดรามาเรื่องนี้อีกเลยเพราะเป็นเพียงการสรุปสภาพทางกายภาพของข้าว หากใครต้องการจะตรวจสอบ ก็สามารถมาตรวจสอบได้ ทั้งนี้

การตรวจพิสูจน์ดังกล่าว มีทั้งสื่อมวลชน ข้าราชการ รวมถึงเซอร์เวย์เยอร์ ที่เป็นผู้ลงทะเบียนตรวจข้าวไปต่างประเทศ ที่ต่างชาติยอมรับตามมาตรฐาน รวมถึงผู้ส่งออก และโรงสี ที่มั่นใจว่าสามารถทำได้และพร้อมประมูล โดยกระบวนการส่งออก เอกชนมีขั้นตอนในการปรับปรุงข้าวอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า เพื่อให้เกิดความมั่นใจและไม่มีดรามา ควรให้ทางสาธารณสุข หรือนักโภชนาการตรวจสอบเพิ่มเติมหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ เพราะการวิจารณ์เพียงอย่างเดียวไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรกับข้าวกว่า 150,000 กระสอบ ยืนยันว่าไม่ได้ท้าทายใคร แต่ต้องการพิสูจน์เพื่อเตรียมเปิดประมูลให้ได้ราคา โดยคาดว่าสามารถประมูลได้ในช่วงต้นเดือนมิ.ย.นี้ และหากยังดราม่ากันไม่จบตนก็กังวลว่า เราจะเสียโอกาส และไม่สามารถประมูลได้

“ขอให้เชื่อว่าประเทศที่รับซื้อ หรือผู้ค้า-ผู้ส่งออก เจ้าของโรงสี เขาคงไม่นำข้าวเน่าไปขายแน่นอน หากจะขายต้องมั่นใจ ไม่เช่นนั้นขายไปแล้วจะไม่มีใครมาซื้ออีก และประเทศที่รับซื้อ ก็จะต้องตรวจสอบอย่างเต็มที่ ขออย่าดรามาไปมากกว่านี้ ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็เคารพเพราะถือว่าได้ทำตามขั้นตอนกระบวนการแรกเสร็จสิ้นแล้ว”

Advertisment

ผู้สื่อข่าวถามว่าข้าวดังกล่าวจะประมูลเพื่อการส่งออกเพียงอย่างเดียวหรือประมูลเพื่อจำหน่ายบริโภคในประเทศ  นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่งออกอย่างเดียวก็ไม่พอแล้ว โดยเฉพาะในตลาดแอฟริกา ต้องการถึง 15,000 ตัน จึงต้องเป็นการประมูลแบบยกกองทีเดียว ไม่แบ่งขายในประเทศหรือนอกประเทศ

ส่วนกรณีที่เคยมีผู้ชนะการประมูลข้าวดังกล่าวไปแล้ว แต่ไม่มาเอาข้าวออกไปนั้น เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง 4-5 ครั้งแล้ว เพราะราคาข้าวในครั้งนี้สูงมาก เมื่อประมูลแล้วราคากลับตก หากรับไปก็จะต้องขาดทุน จึงเกิดการฟ้องร้องกัน โดยองค์การคลังสินค้า ยังอยู่ระหว่างการฟ้องร้อง ยืนยันว่าที่ผู้ประมูลทิ้งข้าว ไม่ใช่เพราะข้าวเน่า แต่เพราะราคาข้าวในปีนั้นราคาตก และการประมูลในครั้งนี้

ตนก็จะเขียนกฎเกณฑ์ให้ชัดเจนให้ผู้ที่ให้ราคาสูงสุด 5 อันดับแรก มีสิทธิชนะการประมูลข้าว เผื่อกรณีมีผู้สละสิทธิ และสามารถไปตรวจสอบคุณภาพข้าวก่อนได้ ซึ่งข้าวจากโครงการรับจำนำข้าวนี้ ไม่มีค้างข้างสต๊อกในโครงการรับจำนำข้าวแล้ว และโกดังดังกล่าวที่ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ก็เป็นเพียง 2 โกดังสุดท้ายที่เหลือ

เมื่อถามว่า มีการประเมินเบื้องต้นหรือไม่ว่าข้าวในโกดัง ดังกล่าวหากประมูลแล้วจะมีมูลค่าประมาณเท่าไหร่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ราคาข้าวอยู่ที่ 30 กว่าบาท ประมาณว่าสักครึ่งก็อยู่ที่ 15 บาท แต่สุดท้ายประมูลที่เท่าไหร่ก็ต้องไปดู เพียงแต่ตนประเมินว่าครึ่งหนึ่งก็น่าจะได้เท่านี้  ส่วนจะเปิดซองประมูลได้เมื่อไหร่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าให้ตนคาดการณ์น่าจะประมาณต้นเดือน มิ.ย.นี้

แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้ทุกอย่างยุติก่อน เพราะถ้ายังมีคนตั้งคำถามว่า ข้าวเน่าและเสีย แล้วจะประมูลได้อย่างไร  เพราะสุดท้ายคนที่ประมูลเขาก็ต้องตรวจสอบอยู่แล้ว และเราตั้งใจขายข้าวให้ได้ข้าวมาตรฐานโดยจะเปิดประมูลขาย และเบื้องต้นได้ทดสอบให้คนที่เกี่ยวข้องมาดูแล้วก็บอกว่าน่าจะทำได้ เวลาประมูลก็ต้องมีกรรมการขึ้นมาประกาศ ตนไม่คิดจะล็อกให้ใคร ไม่ว่าใครที่ประมูลได้ราคาสูงสุด ขอรอดูตอนนั้นดีกว่า