มท. แจ้งทุกจังหวัดชงโครงการของบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน ภายใน 26 พ.ค.

มท. แจ้งทุกจังหวัดชงโครงการของบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน ภายใน 26 พ.ค.

มหาดไทย แจ้งทุกจังหวัดรวบรวมโครงการ เสนอของบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน ภายใน 26 พ.ค. กำชับทุกโครงการต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ครม. เพื่อประสิทธิภาพ เม็ดเงินเข้าสู่ระบบตามเป้าหมายรัฐบาล

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 68 ได้เห็นชอบแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ซึ่งจะครอบคลุมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำและคมนาคม การท่องเที่ยว การลดผลกระทบส่งออกและเพิ่มผลิตภาพ เศรษฐกิจชุมชนและอื่นๆ

ซึ่งทุกกระทรวงเป็นหน่วยรับงบประมาณที่เกี่ยวข้องต้องเสนอโครงการ ผ่านรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล เพื่อเสนอตามขั้นตอนการกลั่นกรอง และเสนอต่อสำนักงบประมาณในคราวเดียวกันด้วยภายในเดือน พ.ค. 68

ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามกรอบเวลาที่ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์  ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือแจ้ง ผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแจ้งผ่านไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั่วประเทศ ให้เตรียมการเสนอโครงการและคําของบประมาณเพื่อดําเนินการตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ การจัดสรรเพื่อการลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ตามหนังสือได้กำหนดให้จังหวัดและส่วนราชการรวบรวมและจัดส่งคำเสนอโครงการมายังสำนักกระทรวงมหาดไทยภายในวันที่ 26 พ.ค. 68  ซึ่งเป็นกรอบระยะเวลาที่ได้พิจารณาแล้วว่ามีความเหมาะสม ทั้งส่วนหน่วยงานต่างๆ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้มีระยะเวลาพิจารณาโครงการที่เหมาะสมกับพื้นที่ ครอบคลุมและเป็นประโยชน์กับประชาชน ขณะเดียวกันหน่วยงานที่ทำหน้าที่กลั่นกรองสามารถมีเวลาในการพิจารณาตามขั้นตอนและเสนอโครงการได้ทันตามกรอบเวลาที่ ครม. กำหนด

นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยยังได้กำชับทุกหน่วยงาน และ อปท. ให้จัดทําข้อเสนอโครงการและคําของบประมาณ จะต้องยึดถือหลักเกณฑ์ตามที่ ครม. กำหนดโดยเคร่งครัด เพื่อให้เมื่อเสนอโครงการมาตามลำดับแล้วสามารถพิจารณากลั่นกรองได้ตามกรอบระยะเวลา เพื่อให้เม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจมากที่สุด รองรับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เดิมกระทรวงมหาดไทย ได้ให้จังหวัดรวบรวมข้อมูลโครงการภายในวันที่ 23 ..68 เพื่อที่คณะกรรมการ ระดับกระกรม และระดับกระทรวง จะได้พิจารณากลั่นกรอง ให้เป็นไปตามแนวทาง หลักเกณฑ์ที่ ครม. กำหนดไว้ แต่ด้วยระยะเวลาที่กระชั้นชิดจึงขยายเวลาออกไปเป็นวันที่ 26 .. 68 เพื่อให้แต่ละพื้นที่ได้พิจารณาโครงการที่เหมาะสมแต่ละพื้นที่ ครอบคลุมทุกมิติและเป็นประโยชน์กับประชาชน..ไตรศุลี กล่าว

ADVERTISMENT