“วิษณุ”เมิน กกต.สอบ ยันแจกเงินก่อนเลือกตั้ง ไม่เอื้อใคร ชี้ไม่ใช่ประชานิยม เป็นวิเศษนิยม

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเสียงวิจารณ์มติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่อนุมัติงบประมาณในโครงการบัตรสวัสดิการของรัฐเพิ่มเติม หลายหมื่นล้านบาท เป็นเหมือนการหาเสียงล่วงหน้าให้แก่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ว่า คิดว่าไม่เกี่ยวข้องกับการได้เปรียบเสียเปรียบ หรือผลประโยชน์ทับซ้อนทางการเมือง เพราะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้เสนอโครงการดังกล่าวให้ ครม.พิจารณา ไม่ได้เอื้ออะไรให้ใคร เป็นโครงการที่มีการคิดกันมานานแล้ว ตนได้ บอก ครม.ไปนานแล้วว่า หากมีโครงการใดที่จะให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน ก็ขอให้กระทรวงรีบนำมาเสนอ ก่อนที่จะมีประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง

“ผมคิดว่าไม่ได้ไปเอื้อให้กับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะมีรัฐมนตรี 4 คนอยู่ในพรรคพปชร. แต่สมมุติว่าถ้าเอื้อ ก็ไม่ได้เกี่ยวกับ 4 รัฐมนตรี เพราะทั้ง 4 คนนั้นไม่ได้ลงสมัคร ส.ส. ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่าหาเสียงล่วงหน้านั้น คนเป็นรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย เวลาทำอะไรก็จะถูกมองทั้งนั้น ไม่เป็นไร เมื่อถูกวิจารณ์ก็ให้ชี้แจงกันไป และที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)จะตรวจสอบเรื่องดังกล่าวก็ไม่เป็นอะไรถือว่า ดีแล้ว”

เมื่อถามว่าในอนาคตหากมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง รัฐบาลควรจะระมัดระวังการอนุมัติงบประมาณที่ส่อไปในทางที่จะถูกมองเป็นการหาเสียงหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า แม้ว่าจะมีประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งแล้วก็ยังทำได้ตามปกติ เพราะอย่างที่บอก ว่ารัฐบาลนี้จะไม่มีสถานะเป็นรัฐบาลรักษาการ ยังทำงานได้เต็มร้อยทุกอย่าง ส่วนที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลได้วิจารณ์นโยบายประชานิยมมาโดยตลอด แต่กลับออกนโยบายประชานิยมมาเช่นกัน เรื่องนี้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้บอกแล้วว่าโครงการนี้ไม่ใช่ประชานิยม แต่ตนไม่รู้ว่าเป็นอะไร อาจจะเป็นวิเศษนิยมกระมัง(หัวเราะ)

เมื่อถามย้ำว่าถึงแม้ในทางกฎหมายจะทำได้ แต่โดยมารยาทแล้วควรทำหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันไปตามมารยาท เพราะรัฐบาลนี้จะอยู่ไปจนกระทั่งมีรัฐบาลใหม่เข้ามาปฎิบัติหน้าที่ ถ้าคิดว่าจะต้องมีมารยาทเป๊ะทั้งหมดแล้วในระหว่างที่รอรัฐบาลใหม่เข้ามาทำงาน ในช่วงที่รอนั้นจะให้ทำอย่างไร หากเกิดเหตุขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์น้ำท่วม ไฟไหม้ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด เรือล่ม ฯลฯ

 

ที่มา มติชนออนไลน์