เผย “ยิ่งลักษณ์” ไหว้หลวงพ่อโตวัดระฆังฯ ก่อนไปสิงคโปร์ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.

ภาพประกอบข่าว

หลังจากที่นายชีพ จุลมนต์ ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนรายงานกระบวนการพิจารณาคดีจำนำข้าวก่อน โดยจำเลยไม่มา ทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนฟังคำพิพากษา เนื่องจากจำเลยมีอาการป่วย น้ำในหูไม่เท่ากัน วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ ไม่สามารถเดินทางมาฟังคำพิพากษาได้ อัยการโจทก์ได้ยื่นคัดค้านเห็นว่าอาการป่วย จำเลยน่าที่จะสามารถเดินทางมาฟังคำพิพากษาได้ และไม่มีใบรับรองแพทย์ องค์คณะพิจารณาแล้วไม่น่าเชื่อว่าอาการป่วยของจำเลยจะไม่สามารถเดินทางมาฟังได้ อีกทั้งไม่มีใบรับรองเเพทย์ อันเชื่อได้ว่าจำเลยมีพฤติการณ์หลบหนี จึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับยิ่งลักษณ์ และปรับนายประกันเต็มจำนวน และนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้ง วันที่ 27 ก.ย. 60 เวลา 09.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางไปทำบุญกราบไหว้สมเด็จโตที่วัดระฆัง กทม. เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นก็มีข้อมูลว่าวันที่ 24 ส.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์แล้ว ขณะเดียวกัน ก็มีข้อมูลว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาที่ประเทศสิงคโปร์เช่นเดียวกัน

ยิ่งลักษณ์กราบหลวงพ่อโตที่วัดระฆังเมื่อวันที่ 23 ส.ค.

ล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้เดินทางมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตแหน่งทางการเมือง เพื่อรับฟังการพิจารณาคดีจำนำข้าวว่า ทราบว่าศาลได้ออกหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์แล้ว และก็ต้องติดตามตัว

“ส่วนเรื่องนี้เป็นข้อบกพร่องทางการข่าวของฝ่ายความมั่นคงหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เขามีหลายบ้าน ไม่รู้อยู่บ้านหลังไหน และรถก็มีหลายคัน มันไม่ใช่ความบกพร่อง เราก็พยายามติดตามว่าเขาเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี แต่ก็ยังไม่เห็นว่าป่วยน้ำในหูไม่เท่ากัน ก็ต้องดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งถ้าไม่มาศาลก็ต้องออกหมายจับ แล้วแต่การดำเนินการของศาล” พล.อ.ประวิตรกล่าว

เมื่อถามว่ามีกระแสว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้หลบหนีไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา มีการข่าวเรื่องนี้บ้างหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้มีความชัดเจน เขาเป็นอดีตนายกฯ เจ้าหน้าที่จึงอาจจะมีคนเข้าไปช่วยเหลือ แต่ก็ยังไม่แน่ใจ

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์