“เรืองไกร” เอาคืน ร้อง “กกต.” เบรกประกาศผลเลือกตั้ง 10 ว่าที่ ส.ส. ถือหุ้นสื่อ

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เข้ายื่นหนังสือเพื่อขอให้ตรวจสอบผู้สมัคร ส.ส.ที่ขาดคุณสมบัติเนื่องจากถือหุ้นสื่อ อันเข้าลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(3) จำนวน 10 ราย เพื่อขอให้ระงับการประกาศผลการเลือกตั้งไว้ก่อนจนกว่าจะตรวจสอบผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตได้ครบร้อยละ 95 ว่าเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และขอให้รอฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญก่อนที่จะพิจารณาว่าจะประกาศผลการเลือกตั้งได้ต่อไปโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

“กกต.ยังมีเวลาพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้งได้ถึงวันที่ 24 พฤษภาคม หรือ 60 วันหลังเลือกตั้ง ไม่ใช่วันที่ 9 พฤษภาคม กกต.จะปล่อยผ่านไปก่อนแล้วมาตามสอยทีหลังเพื่อให้ถูกใจใครไม่ได้” นายเรืองไกรกล่าว

นายเรืองไกรกล่าวว่า สำหรับรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ที่ถูกยื่นคำร้องทั้ง 10 คน ถือหุ้นในบริษัทที่ระบุในวัตถุประสงค์การจดทะเบียนบริษัทไว้ในข้อ 19 ว่าประกอบกิจการโรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ จำหน่าย และออกหนังสือพิมพ์ โดยทั้ง 10 คน ประกอบด้วย นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 8 กรุงเทพฯ ถือหุ้นบริษัท โอที ซุปเปอร์เซอร์วิส จำกัด จำนวน 9,998 หุ้น, นายชาญวิทย์ วิภูศิริ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 15 กรุงเทพฯ ถือหุ้นบริษัท ภัทรเฮ้าส์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นจำนวน 250,000,000 หุ้น, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ถือหุ้นบริษัท วิสดอม เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด จำนวน 25,000 หุ้น

ขณะที่ นายพิบูลย์ รัชกิจประสาร ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เขต 1 สตูล ถือหุ้นบริษัท พี แอนด์ ซี ปิโตรเลียม จำกัด จำนวน 52,310 หุ้น ถือหุ้นบริษัท รัชกิจ คอร์โปเรชั่น จำกัด จำนวน 1,600 หุ้น ถือหุ้นบริษัท รัชกิจ โฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 10,940,989 หุ้น บริษัท เอ็น แอนด์ ซี มินิมาร์ท จำกัด จำนวน 2,092 หุ้น บริษัท จิตแก้ว จำกัด จำนวน 1,600 หุ้น บริษัท ซีเคโฟว์ เทรดดิ้ง จำกัด จำนวน 14 หุ้น บริษัท สตูลอะความารีนคัลเจอร์ จำกัด จำนวน 10,000 หุ้น บริษัท สตูลอะความารีน ฟีด ซัพพลาย จำกัด จำนวน 6,000 หุ้น บริษัท สตูลผลิตภัณฑ์คอนกรีต จำกัด 15,000 หุ้น,

นายสาธิต ปิตุเตชะ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 ระยอง ถือหุ้นบริษัท เก่งกล้า จำกัด จำนวน 6,665 หุ้น บริษัท พี.ที. รุ่งเรืองคอนกรีต จำกัด จำนวน 2,700 หุ้น, นายเดชอิศม์ ขาวทอง ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 5 สงขลา ถือหุ้นบริษัท ซิงค์ กรุ๊ป จำกัด จำนวน 5,000 หุ้น บริษัท แอล เอส โกลบอล จำกัด จำนวน 100,000 หุ้น, นายสาคร เกี่ยวข้อง ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 กระบี่ บริษัท อ่าวนาง แทรเวล แอนด์ ทัวร์ จำกัด จำนวน 22,129 หุ้น, นายอัศวิน วิภูศิริ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้นบริษัท ภัทรเฮ้าส์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จำนวน 40,000,000 หุ้น บริษัท ชาญวิทย์โฮเต็ล จำกัด จำนวน 651,750 หุ้น บริษัท พิจิตร เรียล เอสเตท จำกัด จำนวน 16,500 หุ้น และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้นบริษัท วีพี แอโร่เทค จำกัด จำนวน 588,500 หุ้น

ส่วนนายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เขต 1 สุรินทร์ ถูกระบุว่าถือหุ้นในบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ในการจดทะเบียนบริษัทไว้ในวัตถุประสงค์ข้อ 29 ว่า “ประกอบกิจการให้บริการด้านวิทยุและโทรทัศน์ ซึ่งดำเนินการหลักเกี่ยวกับการผลิตรายการวิทยุ และโทรทัศน์ทุกประเภท เช่น รายการบันเทิง รายการส่งเสริมการศึกษา รายการข่าว กีฬา พยากรณ์อากาศ สัมภาษณ์บุคคล โดยเป็นรายการสด หรือบันทึกลงแถบบันทึกสื่อต่างๆ เพื่อเผยแพร่ กระจายเสียง รวมถึงการขาย ให้เช่า เก็บรักษาเพื่อการกระจายเสียงหรือแพร่ภาพ และการนำกลับมาแพร่ภาพซ้ำ” โดยนายปกรณ์ถือหุ้นจำนวน 3,400 หุ้น

นายเรืองไกรกล่าวว่า รายชื่อผู้สมัครที่ตนเองเสนอให้ กกต.ตรวจสอบจะแตกต่างจากผู้ร้องคนอื่นๆ แต่เมื่อรวมกันแล้วจะมีจำนวนเกิน 18 คน หรือร้อยละ 5 ที่ กกต.จะประกาศผลการเลือกตั้งแน่นอน

 

ที่มา : มติชนออนไลน์