อดีต ส.ส.เพื่อไทย 5 สมัย ทิ้งเพื่อไทย เหตุขัดแย้งลูกสะใภ้ “สมพงษ์” ชิง “นายกฯอบจ”

หลังจากนายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย ในวันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม 2563 โดยได้ยื่นหนังสือลาออกไป 3 ฉบับ คือ ถึงหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ นายทะเบียนพรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม 2563 เป็นต้นไป

พร้อมระบุว่า ได้ทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่ปี 2543 ถึงปีนี้ครบ 20 ปีพอดี มีโอกาสได้ทำงานได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างในช่วงเวลาดังกล่าว จึงคิดว่าถึงเวลาต้องการความเป็นอิสระปลอดจากสังกัดพรรคการเมือง เพื่อทบทวนตัวเอง ถอยออกมามองและวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ ในภาพกว้างมากขึ้น รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากพรรคพวกเพื่อนฝูงทุกกลุ่ม ทุกสี ทุกสาขาอาชีพอย่างกว้างขวางด้วยบรรยากาศสบายๆ ไม่กังวลในสถานะที่สังกัด ทั้งนี้ เพื่อจะก้าวเดินต่อไปในทิศทางที่เหมาะสมถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ในช่วงชีวิตที่เหลืออยู่

ตามประวัตินายสามารถ เริ่มเข้าสู่แวดวงการเมือง จากการเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ จังหวัดเชียงราย (ส.ส.ร. เชียงราย) ในปี 2539 จากนั้น ลงเลือกตั้งในนามพรรคไทยรักไทย ได้เป็น ส.ส.เชียงราย 5 สมัย
ทั้งนี้ สมัยแรกในการเลือกตั้ง 6 มกราคม 2544 สมัยที่สองในการเลือกตั้ง 6 กุมภาพันธ์ 2548 ส.ส. สมัยที่สามในการเลือกตั้ง 2 เมษายน 2549 (ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินโมฆะ) ลงเลือกตั้งสมัยที่สี่ในนามพรรคพลังประชาชน 23 ธันวาคม 2550 ส.ส. และสมัยที่ห้า 3 กรกฎาคม 2554 เป็น ส.ส. เชียงราย เขต 1 พรรคเพื่อไทย แต่การเลือกตั้งครั้งล่าสุด 24 มี.ค. 2562 นายสามารถสอบตก โดยแพ้ให้กับนายเอกภพ เพียรพิเศษ ผู้สมัครจากพรรคพรรคอนาคตใหม่ หมดโอกาสเป็น ส.ส. สมัยที่ 6

ขณะเดียวกัน แม้นายสมศักดิ์ ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี แต่ได้รับเลือกให้เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 (แทนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์) ในปี 2551 ยุครัฐบาลพรรคพลังประชาชน และเคยเป็นประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล)

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนธันวาคม.2562 นายสามารถ ได้ยื่นหนังสือต่อ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อขอลาออกจากตำแหน่งคณะกรรมการบรหารพรรคเพื่อไทยและรองหัวหน้าพรรค ระบุเหตุผลว่า

“เนื่องจากมีเหตุผลความจำเป็นบางประการ ที่เห็นว่าการดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยและรองหัวหน้าพรรคของผม คงไม่สามารถทำงานให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพได้ ผมจึงขอลาออกจากตำแหน่งคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยและรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป”

ทั้งนี้ นายสามารถ ระบุถึงสาเหตุการลาออกจากรองหัวหน้าพรรค และ คณะกรรมการบริหารพรรคช่วงเดือนธันวาคม 2562ว่า มาจากกรณีความเห็นในการส่งตัวผู้สมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ. เชียงราย ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองได้หารือกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย และนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ว่า จะส่งบุคคลของนายสามารถลงสมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ. แต่จากนั้น นายวิสารเห็นว่า ควรจะส่ง นางวิสาระดี อมรวิวัฒน์ ซึ่งเป็นบุตรสาวของนายวิสาร ให้เป็นผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.แทน โดยให้เหตุผลว่านางสาววิสาระดีน่าจะมีคุณสมบัติเหมาะสมกว่า เนื่องจากคุ้นเคยในพื้นที่เป็นอย่างดี โดยหลังจากการประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยเมื่อวานนี้ แม้ว่าจะมีข้อเสนอให้ส่งลงสมัครทั้ง 2 คน แต่ผู้ใหญ่ของพรรคเห็นว่าจะเป็นการตัดคะแนนกันเอง ซึ่งสุดท้ายนายภูมิธรรมสนับสนุนข้อเสนอของนายวิสารที่จะส่งนางสาววิสาระดีลงสมัคร จากนั้นจึงได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งกรรมการ

ทั้งนี้ นางสาววิสาระดี นอกจากเป็นบุตรของนายวิสาร และยังเป็นลูกสะใภ้ของนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้วย