“เทพไท” กลับลำ ให้ประยุทธ์อยู่ต่อ ตัดวงจรธรรมนัส รักษาชีวิตรัฐบาล

วันที่ 10 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกล่าวถึงกรณีการแสดงความเห็นผ่านกลุ่มไลน์ของ ส.ส.และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ว่า

เป็นการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองตามปกติ ที่สมาชิกพรรคทุกคนสามารถแสดงความเห็นของตนเองได้อย่างเต็มที่ มีหลายครั้งที่ได้แสดงความเห็นกันอย่างเข้มข้นต่อสถานการณ์ทางการเมืองนั้น ๆ อาจมีเห็นต่าง ความเห็นขัดแย้งกันบ้าง ก็เป็นธรรมดาของพรรคการเมืองที่มีความเป็นประชาธิปไตยในพรรคสูง หลายครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์มีความขัดแย้งทางด้านความคิด ต้องประชุมถกเถียงกันข้ามวันข้ามคืน แต่เมื่อได้ข้อสรุป ทุกคนก็ยินดีปฏิบัติตามมติพรรคทุกประการ

กรณีความเห็นเรื่องการถอนตัวจากการเข้าร่วมรัฐบาลนั้น เป็นความเห็นจากสมาชิกพรรคผู้อาวุโสคืออาจารย์เจริญ คันธวงศ์ ที่เป็นอดีต ส.ส.ของพรรคตั้งแต่ปี2519 เป็น ส.ส.หลายสมัย เป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวง ได้ให้ข้อคิดเรื่องการเข้าร่วมรัฐบาล และมีสมาชิกหลายคนได้แสดงความเห็นในแนวทางที่สอดคล้องกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องรับฟัง และนำมาพิจารณากันต่อไป

ส่วนความเห็นของ นายพนิต วิกิจเศรษฐ์ พูดถึงการหยุดพายเรือให้โจรนั่ง คงเป็นการเปรียบเปรย หรืออุปมาอุปมัยเท่านั้น การที่พรรคประชาธิปัตย์ ถอนตัวหรือการเข้าร่วมรัฐบาลต่อไปหรือไม่นั้น ก็ต้องเป็นมติพรรคจากที่ประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรคกับส.ส.ของพรรคทั้งหมด จะต้องนำมาหารือหรือทบทวนมติพรรค ซึ่งต้องพิจารณาถึงเงื่อนไข3ข้อในการเข้าร่วมรัฐบาล ว่าจนถึงบัดนี้รัฐบาลได้ละเมิดเงื่อนไข3ข้อของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่

ส่วนตัวเห็นว่าในสถานการณ์เช่นนี้ ก็ควรให้กำลังใจพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำรัฐบาล ได้มีโอกาสทำงานแก้ปัญหาของประเทศชาติไปก่อน ในขณะเดียวกันก็ควรรับฟังเสียงสะท้อน หรือกระแสของสังคมด้วย ว่าต้องการให้พลเอกประยุทธ์ปรับปรุงภาพลักษณ์และการทำงานอะไรบ้าง

“ปัญหาเฉพาะหน้าที่สำคัญที่สุดคือ การปรับ ครม.ต้องยึดหลักตัดอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต ต้องตัดเนื้อร้ายออกไปให้เร็วที่สุด ก่อนที่จะลุกลามจนเกินกว่าที่จะเยียวยาได้”

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการแสดงความเห็นผ่านกลุ่มไลน์ของ ส.ส.และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองตามปกติ ที่สมาชิกพรรคทุกคนสามารถแสดงความเห็นของตนเองได้อย่างเต็มที่ มีหลายครั้งที่ได้แสดงความเห็นกันอย่างเข้มข้นต่อสถานการณ์ทางการเมืองนั้นๆ อาจมีเห็นต่าง ความเห็นขัดแย้งกันบ้าง ก็เป็นธรรมดาของพรรคการเมืองที่มีความเป็นประชาธิปไตยในพรรคสูง หลายครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์มีความขัดแย้งทางด้านความคิด ต้องประชุมถกเถียงกันข้ามวันข้ามคืน แต่เมื่อได้ข้อสรุป ทุกคนก็ยินดีปฏิบัติตามมติพรรคทุกประการ กรณีความเห็นเรื่องการถอนตัวจากการเข้าร่วมรัฐบาลนั้น เป็นความเห็นจากสมาชิกพรรคผู้อาวุโสคืออาจารย์เจริญ คันธวงศ์ ที่เป็นอดีต ส.ส.ของพรรคตั้งแต่ปี2519 เป็น ส.ส.หลายสมัย เป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวง ได้ให้ข้อคิดเรื่องการเข้าร่วมรัฐบาล และมีสมาชิกหลายคนได้แสดงความเห็นในแนวทางที่สอดคล้องกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องรับฟัง และนำมาพิจารณากันต่อไป ส่วนความเห็นของนายพนิต วิกิจเศรษฐ์ พูดถึงการหยุดพายเรือให้โจรนั่ง คงเป็นการเปรียบเปรย หรืออุปมาอุปมัยเท่านั้น การที่พรรคประชาธิปัตย์ ถอนตัวหรือการเข้าร่วมรัฐบาลต่อไปหรือไม่นั้น ก็ต้องเป็นมติพรรคจากที่ประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรคกับส.ส.ของพรรคทั้งหมด จะต้องนำมาหารือหรือทบทวนมติพรรค ซึ่งต้องพิจารณาถึงเงื่อนไข3ข้อในการเข้าร่วมรัฐบาล ว่าจนถึงบัดนี้รัฐบาลได้ละเมิดเงื่อนไข3ข้อของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ส่วนตัวเห็นว่าในสถานการณ์เช่นนี้ ก็ควรให้กำลังใจพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำรัฐบาล ได้มีโอกาสทำงานแก้ปัญหาของประเทศชาติไปก่อน ในขณะเดียวกันก็ควรรับฟังเสียงสะท้อน หรือกระแสของสังคมด้วย ว่าต้องการให้พลเอกประยุทธ์ปรับปรุงภาพลักษณ์และการทำงานอะไรบ้าง ปัญหาเฉพาะหน้าที่สำคัญที่สุดคือ การปรับ ครม.ต้องยึดหลักตัดอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต ต้องตัดเนื้อร้ายออกไปให้เร็วที่สุด ก่อนที่จะลุกลามจนเกินกว่าที่จะเยียวยาได้

โพสต์โดย เทพไท เสนพงศ์ เมื่อ วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม 2020