แพทย์สภาหารือ “บิ๊กตู่” 2 ชั่วโมง รับข้อเสนอแนะจากคณะแพทย์ ถกเพิ่มมาตรการเสาร์นี้

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2563 ภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน โดยใช้เวลาหารือประมา 2 ชั่วโมง ศ.พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา เปิดเผยสั้นๆ ภายหลังการหารือ ว่า “นายกรัฐมนตรี ได้รับฟังข้อเสนอแนะของเหล่าคณบดีคณะแพทยศาสตร์จากหลายมหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งโดยหลักจะมีมาตรการเพิ่มเติมออกมา โดยให้ฟังรายละเอียดความชัดเจนจากนายกรัฐมนตรีต่อไป”

ด้าน นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารสุข เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีที่ตึกไทยคู่ฟ้าว่า “วันนี้เราพูดคุยกันลื่นถึงเรื่องของเทคโนโลยี ใหม่เพื่อดูแล ผู้ป่วยให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นในเวลาที่ต้องกักตัวเองอยู่ที่บ้าน รวมทั้งหารือร่วมกันวนการดูแลผู้ป่วยให้ได้คุณภาพ โดยการร่วมมือระหว่างคณบดีคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่างๆ

โดยในวันเสาร์ที่ 21 มีนาคม นี้ จะมีการพูดคุยกันอีกครั้งในเรื่องของมาตรการ โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 09.30 น. ที่ศูนย์กระทรวงสาธารณสุข “วันนี้เราจะมีการใช้เครื่องมือใหม่สำหรับการช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยซึ่งต้องมาศึกษาวิจัย โดยเครื่องมือเหล่านี้ได้รับการบริจาคจากเครือโรงพยาบาล กรุงเทพ จำนวน 200 ชุด เป็นเครื่องมือในลักษณะการวัดความดัน ดูลิ้น วัดคลื่นหัวใจ วัดชีพจร วัดไข้ ส่วนจะกระจายไปยังโรงพยาบาลต่างๆอย่างไรเดี๋ยวจะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง ส่วนการหารือกันในวันนี้ก็มีการพูดคุยและหารือร่วมกันในการดูแลและรักษาผู้ป่วย”

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีได้ให้คำแนะนำอะไรเป็นพิเศษบ้าง นพ.สุขุม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีย้ำให้ดูแลผู้ป่วยให้ดีที่สุดถือว่า ชีวิตคนไทยมีค่า โดยพร้อมสนับสนุนงบประมาณอย่างเต็มที่ในการดูแลผู้ป่วย รวมทั้งการหาเตียงให้ผู้ป่วยเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ สำหรับปัจจุบันเรื่องของเตียงผู้ป่วยในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล รวมทั้งต่างจังหวัด ก็มีจำนวนเพียงพอต่อการดูแลผู้ป่วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าแนวโน้มการเพิ่มจำนวนของผู้ป่วยจะมีมากขึ้นไปอีกแค่ไหน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ถ้าสังเกตไทม์ไลน์ของผู้ป่วยกลุ่มใหม่จะเป็นกลุ่มชนชั้นกลาง และกลุ่มผู้มีฐานะ ที่ไปเที่ยวในผับและสถานที่เฉพาะ ส่วนคนไข้ใหม่ทั่วไปยังมีจำนวนไม่มาก ขณะนี้กำลังติดตามอยู่เป็นระยะๆ ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่า การหารือครั้งนี้ เป็นการหารือความร่วมมือกันระหว่างคณะแพทย์ต่างๆ ทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อควบคุมสถานการณ์โรคระบาดให้มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ที่ประชุมไม่ได้พูดคุยกันถึงขั้นจะยกระดับการแพร่ระบาดเป็นระยะที่ 3 แต่อย่างใด

Advertisment