พลังประขารัฐ ชนะเลือกตั้งซ่อม ลำปาง 119 ส.ส. รับขวัญ “บิ๊กป้อม” นั่งหัวหน้าพรรค

ผลการเลือกตั้งซ่อม เขต 4 จังหวัดลำปาง “อย่างไม่เป็นทางการ” พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เข้า “เส้นชัย” เป็นอันดับ 1 “ทิ้งห่าง” พรรคเสรีรวมไทย (สร.) “เท่าตัว”

ค่ำวันที่ 20 มิถุนายน2563 หลังปิดหีบการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ “นายวัฒนา สิทธิวัง” ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 1 ได้คะแนน 61,811 คะแนน ร.ต.ท.สมบูรณ์ กล้าผจญ ผู้สมัครพรรคเสรีรวมไทย เบอร์ 2 ได้คะแนน 38,048 คะแนน

มิหน้ำซ้ำยัง “เจาะไข่แดง” พรรคที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย “ฐานเสียง” พรรคเพื่อไทย (พท.) ที่เคยกินเรียบ-ยกจังหวัด ในการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562

ฉีกทฤษฎี “สองนคราประชาธิปไตย” ของ “อเนก เหล่าธรรมทัศน์” ที่เคยบอกว่า“คนกรุงเทพตั้งรัฐบาล คนต่างจังหวัดล้มรัฐบาล” แก้เกมยุทธศาสตร์ “แตกแบงก์พัน” ของ “ทักษิณ ชินวัตร” แบบหมดทางสู้

เข้าทางวาทกรรมร่วมสมัย “เลือกความสงบจบที่ลุงตู่” และคำพยากรณ์ของ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ในฐานะนักการเมืองเก๋าเกม-ขาใหญ่กุมสภาพความเคลื่อนไหวฝ่ายรัฐบาล

“เลือกตั้งใหญ่ประชาชนเลือกพรรคที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาล แต่เลือกตั้งซ่อมประชาชนเลือกคนที่จะเข้าไปทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงในรัฐบาล” สมศักดิ์ระยุ

อนึ่ง “จุดเปลี่ยน” เมืองหลวงเพื่อไทยแตก คือ การเทโค้ง-หักศอกของพรรคเพื่อไทยใน “นาทีสุดท้าย” เมื่อ “พินิจ จันทรสุรินทร์” บิดา “อิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์” ที่พรรคเพื่อไทยส่งลงสมัครเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 4 ลำปาง-ป้องกันแชมป์แทนลูก

ทว่า กลับถอดใจ-เท “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์” ประธานยุทธศาสตร์พรรคใน “นาทีสุดท้าย” กลางอากาศ

เสียงลือเสียงเล่าอ้างถึง “มูลเหตุจูงใจ” เพราะนายพินิจต้องการลงสมัครรับเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ลำปาง ไปจนถึงกระแสดรามาว่า เป็นการ “ฮั้ว” กับพรรคพลังประชารัฐเพื่อ “หลีกทาง” ไม่ส่งลงสนามเลือกตั้งท้องถิ่น

ผสมโรงกับความขัดแย้ง-ไม่เป็นเอกภาพภายในพรรคเพื่อไทย-พันธมิตรฝ่ายค้าน กลยุทธ์แยกปลาออกจากน้ำ แบ่งฝ่ายฝ่ายประชาธิปไตย กับฝ่ายเผด็จการ ปลุกไม่ขึ้น

จนพรรคพลังประชารัฐได้แต้มทิ้งห่างตั้งแต่ออกตัวในช่วง 100 เมตรแรก เมื่อ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือของพรรค-รมช.เกษตรและสหกรณ์ “สวมหมวกสองใบ” ลงพื้นที่ทำการบ้าน-การเมืองชนิด “พับสนามบุก”

48 ชั่วโมงก่อนเปิดหีบ-หย่อนบัตรลงคะแนนในวันที่ 20 มิถุนายน 2563 “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ประธานยุทธศาสตร์พรรค “ใส่หมวก” รองนายกรัฐมนตรี ตรวจราชการและติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง จังหวัดลำปาง ณ ศาลากลางจังหวัดลำปาง และโรงเรียนสบปราบพิทยาคม อำเภอสบปราบ จังหวัดลำปาง

ประกอบการกระแส “ไทยชนะ” แซ่ซร้องผลงานของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

เมื่อกระสุน-กระแสออกฤทธิ์ พรรคพลังประชารัฐจึงย้ำชัยชนะ-ตอกฝาโลงฝ่ายค้านที่อ้างประชาธิปไตย แน่นสนิท

ทั้งนี้ การเลือกตั้งซ่อม ก่อนหน้านี้ พรรคพลังประชารัฐเก็บได้เป็นกอบเป็นกำ-ตีเมืองหลวงเพื่อไทยย่อยยับ ทั้ง เลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 2 กำแพงเพชร เลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 7 ขอนแก่น

ส่วนเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 5 นครปฐม แม้พรรคพลังประชารัฐจะไม่ได้คะแนนบริสุทธิ์-เรียบร้อยโรงเรียน “บ้านใหญ่สะสมทรัพย์” แต่ก็เติมเสียงให้รัฐบาล

และยังมีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 5 สมุทรปราการรออยู่ให้ลุ้นในสนามต่อไป

1 เสียงจากการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 4 ลำปาง ทำให้พรรคพลังประชารัฐ มี 119 เสียง ยังไม่นับรวม 2 พรรคจิ๋ว คือ พรรคพลังชาติไทย-พรรคประชานิยม เตรียมหนีตาม-เดินตาม “ไพบูลย์โมเดล” รวมร่างกับพรรคพลังประชารัฐ

รับขวัญ “พี่ใหญ่” ก่อนนั่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐในวันที่ 27 มิถุนายน 2563