เพื่อไทย กลัวข้อหาล้มล้างการปกครอง กั๊กโหวต “รธน.ไอลอว์”

เพื่อไทยคัดค้านแก้ รธน.

เพื่อไทยกลัวยุบพรรค ส่งสัญญาณถอย สารพัดม็อบเคลื่อนถึงหน้ารัฐสภา สนับสนุน-คัดค้าน การแก้ไขรัฐธรรมนู

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศโดยรอบอาคารรัฐสภา ย่านเกียกกาย ในช่วงที่รัฐสภามีการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 7 ฉบับ มีการปิดจราจรด้านหน้าอาคารรัฐสภาและโดยรอบทุกช่องทาง

และเริ่มมีการระบายการจราจรบริเวณถนนประชาราษฎร์ สาย 1 ตั้งแต่สถานีรถไฟฟ้าบางโพ ได้นำแบริเออร์ปิดช่องทางขาเข้าที่มุ่งหน้ามายังบริเวณแยกเกียกกาย พร้อมกับนำแผงเหล็กมากั้นก่อนขึ้นสะพานพิบูลสงครามก่อนถึงแยกเกียกกายอีกชั้นหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม กลุ่มไทยภักดี นำโดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม พร้อมด้วยกองทัพธรรม ได้ตั้งปราศรัยบนรถติดเครื่องขยายเสียงเชิงสะพานพิบูลสงคราม

ทั้งนี้ นพ.วรงค์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้เดินทางมาที่หน้ารัฐสภาเพื่อทำความเข้าใจกับกลุ่มมวลชน ว่าเหตุใดจึงต้องมีการคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญ ทั้ง 3 ฉบับไอลอว์ ฉบับส.ส.ฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะร่างของไอลอว์ที่เป็นกฎหมายขี้ข้าต่างชาติ ทำลายระบอบการปกครองของประเทศไทย อย่างไรก็ตามข้อมูลจากกลุ่มประชาชนปลดแอกได้บิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ปี 2560 จึงอยากใช้เวทีดังกล่าวเพื่อให้ความรู้กับประชาชนเนื่องจากเป็นรัฐธรรมนูญที่ประชาชนเป็นใหญ่ มีประโยชน์ต่อประเทศต่าง

“อยากเตือนส.ส. เพราะวันนี้นักการเมืองทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ต้องการแก้ไขกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง มิใช่ผลประโยชน์ของประเทศชาติ รัฐธรรมนูญปี 60 มีปัญหาตรงไหน ซึ่งปัญหาที่เขาพูดกันคือส.ว. 250 คน ซึ่งเรายอมรับ แต่เราไม่ยอมให้มีการแก้ไขทั้งฉบับ” นพ.วรงค์ กล่าว

นพ.วรงค์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า หากแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ตนไม่ขัดข้อง แต่จะแก้ทั้งฉบับยอมไม่ได้ ทั้งที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้เหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศที่สุดในเวลานี้

ต่อมาในเวลา 10.45 น. กลุ่มไทยภักดีได้ยื่นหนังสือเรื่อง “ขอปกป้องรัฐธรรมนูญปี 2560” ถึงประธานรัฐสภา ก่อนจะเดินทางไปยังสำนักอัยการสูงสุด ที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ เพื่อส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อระงับยับยั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ขณะที่ด้านในอาคารรัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม เพื่อรับทราบรายงานของคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ก่อนรับหลักการ และพิจารณาญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ จำนวน 7 ญัตติ

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า ในการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านเมื่อวันที่ 16 พ.ย. มีมติให้รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ฉบับ

“แต่ภายหลังมีการประชุมพรรคเพื่อไทย ส.ส. หลายคนแสดงความกังวลเนื่องจากมีประสบการณ์สมัยปี 2556 ที่เสนอร่างรัฐธรรมนูญ แล้วมีผู้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญอาจจะเป็นการล้มล้างการปกครอง ทำให้ ส.ส.หลายคน ขอรอฟังคำอภิปรายร่างของไอลอว์ก่อน ว่าจะตีความเป็นการแก้ทั้งฉบับหรือไม่ ถ้าไม่ใช่การแก้ทั้งฉบับก็คงลงมติรับหลักการ”

โดยเหตุผลที่มีการตั้งข้อสังเกตนี้เนื่องจากร่างของพรรคร่วมฝ่ายค้าน และพรรคร่วมรัฐบาลที่เสนอให้ตั้งส.ส.ร. นั้น มีการยกเว้นหมวด 1,2 แต่ร่างของไอลอว์ไม่มีข้อยกเว้น ก็อาจจะตีความได้ นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาหลัการ 11 ข้อในร่างของไอลอว์ด้วยว่าเมื่อเข้าสู่ชั้นกรรมาธิการ จะปรับได้หรือไม่ เพราะตอนนี้มีหลายความคิดเห็น ทั้งปรับได้และปรับไม่ได้ เราจึงต้องฟังการอภิปรายในตอนนี้ก่อน

เมื่อถามว่า หากไม่รับหลักการร่างของไอลอว์ จะทำให้เสียมวลชนหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า นานๆ ทีจะมีร่างของประชาชนเข้ามาก็อยากให้พิจารณา เพราะเราเป็นห่วงความรู้สึกของประชาชนที่เข้าชื่อกันมา แต่เหตุการณ์เมื่อปี 2556 ก็ยังตามหลอกหลอนถึงวันนี้ ดังนั้นส.ส. ก็ต้องหาทางออกให้ได้ก่อน แต่ก็ยังไม่ปฎิเสธร่างของไอลอว์ ส่วนจะเป็นการหักมติของพรรคร่วมหรือไม่นั้น มติพรรคร่วมเราก็เคารพ อะไรที่ไปกันได้ก็ไปกัน แต่มีหลายเหตุผล บางเรื่องเป็นนโยบายของพรรค ก็ต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวันนี้ วุฒิสภาได้เวลาอภิปราย 5 ชั่วโมงครึ่ง ส่วนภาคประชาชนที่เสนอร่างกฎหมายได้เวลาชี้แจงร่างกฎหมายครึ่งชั่วโมง ส่วนฝ่ายค้านได้เวลา 5 ชั่วโมง ส่วน ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลได้ 4 ชั่วโมง โดยคาดว่าจะมีการลงมติในช่วงบ่ายของวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563