ส่องปฏิกิริยา-ความเห็น คนการเมือง-คอการเมือง หลัง “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี แถลงใช้กฎหมายเฉียบขาด
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีแถลงการณ์นายกรัฐมนตรี ที่ระบุถึงการยกระดับมาตรการจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุม ด้วยการใช้กฎหมายทุกมาตราที่มีอยู่ เพื่อควบคุมสถานการณ์บ้านเมืองให้เรียบร้อย
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
โดยแถลงการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากกลุ่มราษฎร ถูกสลายการชุมนุมหน้ารัฐสภา และไดเมีการประกาศยกระดับการชุมนุม เมื่อวานนี้ (18 พ.ย.)
หลังจากนั้น บรรดานักเคลื่อนไหวทางการเมืองและนักการเมือง ต่างพากันแสดงความเห็นผ่านทางโซเชียล เริ่มที่
1.นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด นักกิจกรรมทางการเมือง แนวร่วมกลุ่มราษฎร โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้แถลงการณ์ ว่า มันจะไม่ตลกไปหน่อยเหรอ? คนที่ทำเคยรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ แล้วนิรโทษกรรมตัวเอง ต่อมาได้สืบทอดอำนาจของตนเอง ได้ประกาศว่าจะใช้มาตรการทางกฏหมายแบบเข้มข้นกับประชาชนที่ออกมาประท้วงให้ตนเองลาออก
2.นายอานนท์ นำภา หรือ “ทนายอานนท์” ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ตอบกลับแถลงการณ์ดังกล่าว ระบุว่า “ประยุทธ์ ประกาศรบกับประชาชน สำหรับข้าราชการที่ยังไม่เลือกข้าง ท่านต้องเลือกแล้วว่าจะอยู่กับอดีตหรือจะสร้างอนาคตไปพร้อมกับพวกเรา จะให้ความรุนแรงทั้งทางกฎหมายและทางกายภาพใดๆ กับผู้ชุมนุมก็เชิญตามแต่ความชั่วช้าของพวกท่าน พวกเรายืนยันสันติวิธีขั้นสูงสุด ในการต่อสู้ครั้งนี้ และพร้อมจะยกเพดานการต่อสู้ทางสันติวิธีแบบที่เคยยกเพดานด้านข้อเรียกร้องเช่นกัน ขอให้เพื่อนร่วมขบวนราษฎรเตรียมรับความชั่วช้าของประยุทธ์กับพวกให้พร้อม เตรียมอุปกรณ์ป้องกัน และดูแลจิตใจให้เข้มแข็ง มุ่งมั่น ต่อสู้เพื่อสังคมใหม่ของเราทุกคน”
3.น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ทวีตข้อความว่า พลเอกประยุทธ์แถลงเท็จอย่างมหันต์ ในความเป็นจริงรัฐบาลไม่เคยแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา เห็นได้จากการใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา และใช้เสียงข้างมากรัฐสภาโหวตไม่รับร่างรธน.ฉบับไอลอว์อย่างไร้เยื่อใยต่อประชาชน หวังคงไว้ในอำนาจและสืบทอดอำนาจของตนต่อไป
4. พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระวัดสร้อยทอง โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า
รัฐลดการใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือที่อาจก่อให้เกิดความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมในการปราบปราม จากนั้นก็ให้พื้นที่กับคนเห็นต่างทั้งสองกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน ไม่เลือกปฎิบัติ ไม่ว่าคนกลุ่มนั้นจะสนับสนุนรัฐหรือไม่ก็ตาม
เมื่อรัฐไม่เลือกปฎิบัติและลดความรุนแรงด้วยการใช้เครื่องมือในปราบปรามแล้ว ผู้ชุมชนลดความรุนแรงเชิงสัญลักษณ์ ลดข้อความผรุสวาท เสียดสีซึ่งอาจเกินเลยไป
อาตมาว่า นี่คือช่องทางที่พอเป็นไปได้นะ เป็นช่องทางที่จะลดการเผชิญหน้าและการสูญเสียได้
ปล. ขอให้เมตตาและความจริงใจ นำสังคมไปสู่การเจรจาและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
5.นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทวีตข้อความว่า การประกาศว่าจะบังคับใช้กฎหมายทุกมาตรา ซึ่งรวมถึง 112 ด้วย ของนายกรัฐมนตรี เป็นการตัดสินใจที่ไม่ฉลาด และมีแต่จะทำให้สถานการณ์แย่ลง เพราะ การบังคับใช้ 112 เท่ากับ รัฐบาลจะดึงให้สถาบันกษัตริย์เข้ามาเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรง ไม่มีข้อดีอะไร มีแต่เสียกับเสีย #ม็อบ19พฤศจิกา
6.กลุ่มเยาวชนปลดแอก ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า นี่คือการประกาศสงครามกับประชาชนเต็มรูปแบบใช่หรือไม่? รัฐบาลของประยุทธ์ ได้ออกแถลงการณ์ โดยจะใช้นิติสงครามเต็มรูปแบบ ทุกมาตราที่มีอยู่ในมือ นั่นอาจรวมถึง 112 หรือกฎหมายเอาผิดผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์กษัตริย์ด้วย
ฟางเส้นสุดท้ายได้ขาดลงแล้ว อนาคตของประเทศ ขึ้นอยู่กับข้าราษฎรทุกหมู่เหล่า พนักงานออฟฟิศ ชาวสวน ชาวไร่ ชาวนา และราษฎรทุกคน
สันติวิธีนั้นมีหลายรูปแบบ การสาดสี และพ่นสียังจัดอยู่ในสันติวิธี แต่บนรัฐที่ล้มเหลวเช่นนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ การพยายามบิดเบือน และสร้างความชอบธรรมให้รัฐเกิดขึ้นอยู่เสมอดังเช่นในอดีต แต่ผองราษฎรจงอย่ายอมจำนน ถ้าไม่ลุกขึ้นสู้ ก็ต้องอยู่อย่างทาสไปอีกหลายทศวรรษ
โปรดเตรียมพร้อมรับมือกับความเหลวแหลกของรัฐ