“เจ๊อมรัตน์” กางใบเสร็จมัด “ประยุทธ์” ปมบ้านพักทหาร ผิดกฎ ป.ป.ช. ติดคุก 228 ปี

นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ก้าวไกล เปิดประเด็นบ้านพักทหารภาค 2 ย้ำ “พล.อ.ประยุทธ์” อยู่ฟรีไม่จ่ายภาษี – ผิดกฎหมาย ป.ป.ช.โทษ 76 กระทง ติดคุก 228 ปี

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 ที่คารรัฐสภา นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.นครปฐม พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ถึงกรณีอาศัยบ้านพักในค่ายทหารว่า ขอกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ ในประเด็นการทุจริตในหน้าที่ 3 ข้อ คือ 1.ทำผิดกฎหมายประมวลรัษฎากร หนีภาษี 2. ทำผิดกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับผลประโยชน์อื่นใดเกินที่กฎหมายกำหนด และ 3. มีพฤติกรรมปกปิดข้อมูลส่วนตัวเพื่อหนีการตรวจสอบ มี และเข้าข่ายให้ข้อมูลเท็จต่อศาลรัฐธรรมนูญ

พล.อ.ประยุทธ์ รอดจากการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 ไปแล้ว แต่อย่าเพิ่งดีใจคิดว่าไม่รอด กรณีนั้นเป็นการวินิจฉัยเฉพาะประเด็นการขาดคุณสมบัตินายกฯ เพียงประเด็นเดียวแต่ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้มีอำนาจวินิจฉัยความผิดตามกฎหมายอื่น นั่นคือความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช. ความผิดตามกฎหมายอาญา เกี่ยวกับภาษี ซึ่งพฤติการณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์มีความผิดตามกฎหมายทั้งสองข้างต้นอย่างชัดเจน

พล.อ.ประยุทธ์ แจ้งต่อ ป.ป.ช.ปี 2557 บ้านเลขที่ 14 ซอยร่วมมิตร ย่านพหลโยธิน สามเสนใน กทม. ทั้งๆ ที่ตอนนั้น พล.อ.ประยุทธ์เป็น ผบ.ทบ. อยู่บ้านพักในค่ายแล้ว แต่แจ้งกับศาลรัฐธรรมนูญว่าอาศัยอยู่ในบ้านพัก 253/54 แต่ในหนังสือของวาสนานาน่วม ระบุว่าบ้านพักอยู่บ้านเลขที่ 702 ในกรมทหารราบที่ 1 ตลอดมาตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ.จนถึงเวลานี้เป็นเวลามากกว่า 10 ปีแล้ว ในหนังสือชื่อ “ลับลวงพราง 5 ศึกชิงอำนาจผ่าแผนปฎิบัติการเลือด” ตีพิมพ์เมื่อเดือนเมษายน 2555 ในบทที่ 68

และในหนังสือดังกล่าว ยังเขียนถึงเรื่องเกี่ยวกับบ้านเซฟเฮาส์เลขที่ 702 เอาไว้อีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้สร้างบ้านพักหลังนี้ บนเนื้อที่เกือบ 3 ไร่ ที่จะเป็นทั้งบ้านพัก ห้องประชุมใหญ่ ห้องประชุมลับ ห้องรับรอง ห้องจัดเลี้ยงวอร์รูมและเซฟเฮ้าส์ ที่พร้อมสรรพและทันสมัย ในแบบประชุมทางไกลผ่านดาวเทียมจากที่ไหนในโลกก็ได้ และยังระบุอีกว่า ที่ผ่านมา 3 ป. ได้ใช้บ้านพักหลวงแห่งนี้เป็นที่ประชุมทางการเมืองมาตลอด เป็นที่ประชุมลับในช่วงวิกฤต บ้านพักหลังนี้

มีการวัดระยะก่อนสร้างว่า เอ็ม 79 ยิงไม่ถึง เป็นการสะท้อน ว่าพล.อ.ประยุทธ์มีแผนที่จะอยู่ในอำนาจยาวนาน และรู้ด้วยว่าจะต้องพบเจอภารกิจใดบ้างนับจากนี้ นอกจากนี้ วาสนายังได้ทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ร.1 รอ. และ เซฟเฮาส์เลขที่ 702 จะเป็นสถานที่ให้กำเนิดและตัดสินชะตาบ้านเมืองอีกครั้งก็เป็นได้

“ขอถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จำบ้านเลขที่ตัวเองได้หรือไม่ และบ้านหลังนี้ที่สร้างขึ้นใหม่ล้วนสร้างจากภาษีของประชาชนทั้งนั้น สร้างจากเงินของ พล.อ.ประยุทธ์ เองจะไม่มีคำถาม ขอให้เปิดเผยค่าบำรุงรักษาที่พัก ค่าไฟฟ้าและสาธารณูปโภคอื่นๆ ในคฤหาสน์ริมบึงพื้นที่ 3 ไร่ในค่ายทหารของ พล.อ.ประยุทธ์นั้น มีค่าใช้จ่ายเกิน 3 พันบาทตามกฎหมาย ป.ป.ช.อย่างเห็นได้ชัด นายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งหลายๆ คนไม่เห็นมีความจำเป็นต้องใช้ชีวิตหรูหรา หลบซ่อนอยู่ในค่ายทหารเช่นนี้ ขอตั้งฉายาให้นายกฯ ใหม่เป็นเต่า หดหัวอยู่ในกระดอง” นางอมรัตน์ กล่าว

นางอมรัตน์ กล่าวว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำผิดกฎหมาย ป.ป.ช. จากการรับทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดเกินกว่า 3 พันบาท ซึ่งในกรณีนี้ พล.อ.ประยุทธ์เคยให้การไว้ต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า การรับประโยชน์ใดๆจากหน่วยราชการคือกองทัพ เป็นไปตามที่กองทัพปฎิบัติต่อบุคคลอื่นๆ ที่มีสถานภาพและคุณสมบัติเดียวกันในธุรกิจการงานปกติ กองทัพจึงอนุมัติให้ผู้ถูกร้องเข้าอาศัยในอาคารเลขที่ 253/54 และสนับสนุนค่ากระแสไฟฟ้า ค่าน้ำประปา และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็นในการอาศัย
นี่คือใบเสร็จที่ทั้งตัว พล.อ.ประยุทธ์และกองทัพบกยื่นให้การไว้ต่อศาล และถูกบันทึกไว้แล้ว ในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จนมัดตัว พล.อ.ประยุทธ์ ไว้แน่นชนิดดิ้นไม่หลุดว่า พล.อ.ประยุทธ์ ทำผิดกฎหมาย ป.ป.ช.จริง จากการยอมรับว่าได้รับผลประโยชน์อื่นใดเกิน 3 พันบาทจากกองทัพ และทำผิดกฎหมายรัษฎากรจริง จากการยอมรับว่ามีรายได้อื่นแต่ไม่เคยยื่นเสียภาษี ภงด.90

นางอมรัตน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์เกษียณตั้งแต่ปี 2557 กองทัพบกไม่ใช่ต้นสังกัดของ พล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์จึงทำผิดกฎหมาย ป.ป.ช. ในมาตรา 128 ” ห้ามมิให้เจ้าพนักงานของรัฐทุกตำแหน่ง และที่พ้นตำแหน่งมาแล้วไม่เกิน 2 ปี รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้เกิน 3,000 บาท” โดยผู้ฝ่าฝืนมีโทษตาม มาตรา 169 คือ จำคุกไม่เกิน 3 ปีปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

จากการอยู่บ้านพักเกินมา 76 เดือน 76 กระทง คิดเป็นโทษ 228 ปี โทษอาญา และโทษหนีภาษี ซึ่งเกิดจากความประมาท ทำให้ตายน้ำตื้น การเป็นรัฐบาลเถื่อนในยุค คสช. ทำให้เกิดความประมาท เผลอเซ็นต์ยอมรับสารภาพต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วยตัวเอง การให้การเท็จต่อศาลรัฐธรรมนูญ ป.อาญา 77 ต้องเลือกให้การเท็จ หรือ รับโทษประมวลกฎหมายรัษฎากรเรื่องการเสียภาษี

นางอมรัตน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ระเบียบกองทัพไมได้อยู่ในข้อยกเว้นที่จะไม่รับความผิด ของ กฎหมาย ป.ป.ช.และระเบียบกองทัพ ออกมาในสมัย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเป็นระเบียบภายใน ใช้ในกองทัพ ไม่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ป.ป.ช.ไม่ยอมรับด้วย นอกจากนี้ ยังไม่เข้าข้อยกเว้นตามระเบียบกองทัพ ดังนั้น ความผิด พล.อ.ประยุทธ์ในการรับประโยชน์อื่นใดจากกองทัพ ไม่อยู่ในข้อยกเว้น

นางอมรัตน์ กล่าวต่อไปว่า เรื่องนี้เคยมีบรรทัดฐานที่เกิดขึ้นแล้วจากการชี้มูลของ ป.ป.ช. กรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการชี้มูลความผิด และแจ้งข้อกล่าวหาต่ออดีตรัฐมนตรีคนหนึ่ง ในคดีดำหมายเลข 03- 3-57 9/2562 เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 กรณีดังกล่าวป็นความผิดที่ ป.ป.ช.ชี้มูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กับเลขาฯ มีความว่า อดีตรัฐมนตรีทำผิดกฎหมาย ป.ป.ช. รับตั๋วเครื่องบินมูลค่าเกิน 3 พันบาท 2 ครั้ง ป.ป.ช.ชี้มูลว่าถือเป็นโทษ 2 กรรม 2 กระทง สำหรับกรณีของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ทำผิดรับค่าไฟฟ้าจากกองทัพเกิน 3 พันบาท 76 เดือน เรียงเป็นโทษ 76 กระทง และถ้า ป.ป.ช.ยังแชเชือนชักช้าไม่กล้าดำเนินการใดๆ ก็จะเพิ่ม เดือนที่ 77, 78, 79 เพิ่มความผิดต่อไปเรื่อยๆอีก

และรัฐธรรมนูญ 2550 กำหนดให้บุคคลมีหน้าที่เสียภาษี ประโยชน์ใดๆ ต้องถือเป็นรายได้พึงประเมินยื่นแบบ ภงด.90 ผลประโยชน์ที่กองทัพมอบให้ พล.อ.ประยุทธ์ ถือเป็นรายได้พึงประเมินภาษี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ 6 ปี แต่ไม่ได้นำผลประโยชน์อื่นใด พล.อ.ประยุทธ์ต้องให้ลูกน้องนำมาแสดง หากไม่มีเท่ากับคนที่มีคดีอาญาไม่สามารถเป็นนายกฯ ต่อไปได้

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ ตอบชี้แจงว่า ทุกอย่างชัดเจนอยู่แล้วในมติของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมา ขอบคุณที่สังเกตว่าตนตัวผอมลง สูงขึ้น แสดงว่าห่วงใยตนเหมือนกัน ตนก็ห่วงท่านเหมือนกันรู้สึกว่าตัวเตี้ยลงทุกวันๆ เพราะไปหลบหลังม็อบทุกวัน
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากฟังไปถามที่อภิปรายแล้ว คนฟังอาจจะเกิดความเข้าใจผิด เพราะมีผู้อยู่ในข่ายแบบนี้อีกเป็นพันเป็นหมื่นเป็นแสนคน ว่าข้าราชการที่อยู่บ้านหลวง รับรถหลวง น้ำหลวง ไฟหลวง จะต้องนำมาเสียภาษีในฐานะเงินได้พึงประเมินกันหรือไม่ ถ้าหากนายกฯ ต้องเสีย ก็ต้องเสียเหมือนกันทั้งประเทศ เรื่องนี้มีคำตอบในประมวลกฎหมายประมวลรัษฎากร ซึ่งผู้อภิปรายยังไม่ดูเลยในมาตรา 42 อนุมาตรา 6

เงินได้พึงประเมินดังต่อไปนี้ไม่นำมาคำนวณสำหรับเสียภาษีเงินได้ เงินได้ที่ทางราชการจ่ายให้เป็นการค่าเช่าบ้าน หรือเงินที่คำนวณได้จาก มูลค่าของการได้อยู่บ้านที่ทางราชการให้อยู่โดยไม่เสียค่าเช่า เงินช่วยการศึกษาบุตร เงินช่วยเหลือบุตร เบี้ยกันดาร เงินยังชีพ หรือเงินค่าอาหารทำการนอกเวลา ไม่ต้องนำมาคำนวณในฐานะที่เป็นเงินได้พึงประเมิน เพื่อให้ข้าราชการทั้งประเทศที่อยู่บ้านหลวง ใช้รถหลวงได้มีความเข้าใจตรงกัน ส่วนค่าน้ำค่าไฟเป็นส่วนหนึ่งของเงินหรือค่าที่คำนวณได้จากการอยู่บ้านหลวง แม้แต่บ้านชำรุดทรุดโทรม หลวงก็ซ่อมให้ เป็นส่วนหนึ่งที่กรมสรรพากรคำนวณว่าเป็นส่วนหนึ่งของบ้านที่อยู่ทั้งสิ้น