ม็อบมุ่งหน้าราบ 1 มวลชนชู 3 นิ้วให้กำลังใจ “ตี้ พะเยา” ขึ้นรถปราศรัย

ม็อบเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าราบ 1 ประชาชนชู 3 นิ้วให้กำลังใจ “ตี้ พะเยา” ขึ้นรถปราศรัย ขอให้ออกมาสู้เพื่อลูกหลาน

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 กลุ่ม REDEM นัดรวมพลอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนเดินขบวนไปบ้านพักหลวง ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ณ กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.45 น. มติชน รายงานที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประกาศให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปยังบ้านพักหลวงของ พล.อ.ประยุทธ์

เวลา 16.55 น. ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนอีกครั้ง ภายหลังจากหยุดขบวนเตรียมความพร้อมเป็นเวลา 10 นาที ทั้งนี้ ขบวนนำโดยรถจักยานยนต์กว่า 30 คัน ตามด้วยกลุ่มนักกิจกรรมการเมือง อาทิ น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ หรืออั๋ว แกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอก นายชูเกียรติ แสงวงค์

สำหรับกลางขบวนเป็นกลุ่มประชาชน ถือธงแดง และป้ายผ้า ปล่อยนักโทษการเมืองทุกคน โดยมีการตีกลองต๊อกแต๊กสร้างจังหวะฝีเท้า พร้อมตะโกน I here too, ออกไป, ภาษีกู สลับกันเป็นระยะ ท่ามกลางประชาชนสองข้างทาง ที่ออกมาบันทึกภาพ และชู 3 นิ้ว ให้กำลังใจ

เวลา 17.06 น. หัวขบวนถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)

ตี้ พะเยา ขึ้นรถแห่และปราศรัยว่า เหนื่อยกันหรือยัง ถ้าเหนื่อยกัน วันนี้วันหน้าก็จะมีแผ่นดินให้ลูกหลานได้อยู่ ตนคิดถึงทุกคนที่ยอมเสียสละไปอยู่ในเรือนจำ ยอมสละอิสรภาพ สิ่งที่เขาทั้ง 4 คนยอมสละไปมันจะไม่สูญเปล่า ปล่อยเพื่อนเรา

ก่อนที่มวลชนจะตะโกน ปล่อยเพื่อนเรา

ตี้ พะเยา กล่าวต่อว่า อย่าคิดว่าการจัดม็อบไม่ได้อะไรเลย และตนอยากบอกว่าถ้าไม่มีคนกล้าออกมา ก็ไม่มีคนกล้าอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา เมื่อ 8 ปีที่แล้วต่อให้จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจอีกกี่ครั้ง เขาก็ไม่ยอมปล่อยอำนาจ แต่สิ่งที่เราทำได้คือการทำให้เสื่อมศรัทธาในระบบแย่ๆ แบบนี้ ตนเข้าไปอ่านในรัฐธรรมนูญ เขาบอกว่าคนจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ต้องเป็นคนดี แต่อยากบอกว่าการจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ต้องรักประชาชน

“มีคนเคยบอกว่าคนที่ออกมาโดนจูงจมูกโดยใครบางคน แต่อยากบอกว่าไม่มีใครถูกจูงจมูก แต่ทุกคนออกมาเชื่อในระบบประชาธิปไตย ไม่รู้ว่าคนที่อยู่บ้านไม่ได้ออกมา มีธุระอะไร แต่ขอคนที่สามารถออกมาได้ อย่านิ่งเฉยกับสิ่งที่พวกเราทำทุกวันนี้ ออกมาสู้กับพวกเรา

“ระบบเผด็จการทำให้เราอดตาย หากระบบนี้ดีจริงจะมีคนที่ไปนอนหัวลำโพง คนที่ยอมออกจากระบบการศึกษามาช่วยพ่อแม่ทำงาน ถ้าระบบนี้ดีจริงทุกคนจะอยู่ดีกินดี เมื่อ 4 ปีที่แล้วเคยรัก พล.อ.ประยุทธ์ และวันนี้โตพอที่จะรู้แล้ว

“เรากำลังไปบ้าน พล.อ.ประยุทธ์เพื่อให้รู้ว่าสิ่งที่พวกเราทำไม่ถูก แต่การยัดข้อหาเพราะออกมาเรียกร้องสิทธิของพวกเขา ถ้าพวกเขาเรียกนาย เราก็จะทำให้เขารู้ว่าเราก็ไม่เอาเขาเหมือนกัน

“วันนี้ยังมี 4 ชีวิตที่ยอมเสียสละอิสรภาพ ยอมเสียสละไม่เจอหน้าพ่อแม่พวกเขา แต่ขอให้รู้ไว้ว่าสิ่งที่พวกเขาทำมาเป็นสิ่งที่พวกเขาเชื่อมั่นในตัวพี่ๆ ทุกคนที่ออกมายืนหยัด และเราจะไม่ยอมทำให้สิ่งที่เขาทำสูญเปล่า วันใดที่ฟ้าสีทองส่องอำไพเราจะไปเอาพวกเขาออกจากเรือนจำ แม้วันนี้จะยังไม่เห็นเส้นชัย แต่ขอให้ยึดมั่นในอุดมการณ์ ขอให้ออกมาสู้เพื่อลูกหลาน ไม่ว่าใครจะบั่นทอนจิตใจก็ตาม และขอให้รู้ว่า 4 คนที่อยู่ในเรือนจำเชื่อมั่นในตัวพี่ๆ ทุกคน” ตี้ พะเยา กล่าว

ต่อมาเวลา 17.15 น. ขบวนเลี้ยวซ้าย มุ่งหน้าถนนวิภาวดีรังสิต ก่อนหยุด 1 นาทีเพื่อจัดแถว แล้วเคลื่อนขบวนต่อ

ประชาชนชาย กล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงว่า เราจะเอาประยุทธ์หรือประเทศ โดยผู้ชุมนุมตอบกลับว่า เราเอาประเทศ

“ถ้าอย่างนั้น เรามาไล่ประยุทธ์” ประชาชนชายกล่าว ก่อนผู้ชุมนุมตะโกน “ประยุทธ์ออกไป ภาษีกู”

นายวรัญชัย โชคชนะ อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหลายสมัย กล่าวว่า สู้ๆ อย่าไปท้อ เราต้องชนะ ขณะที่พนักงานร้านอาหารได้มาร่วมชู 3 นิ้วให้กำลังใจผู้ชุมนุม

เวลา 17.27 น. ผู้ชุมนุมบางส่วนเดินเข้าหาแนวตำรำวจ พร้อมกล่วว่าขี้ข้าเผด็จการ โดยการ์ดอาสาแจ้งว่า ห้ามปาสิ่งของใดๆ เข้าไป