ชง ศบค. เลื่อนเปิด Test & go ถึง 31 มกราคม อนุทิน สั่งสาธารณสุข

ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก Like Anutin

อนุทินสั่งสาธารณสุขชง ศบค. เลื่อนเปิด Test & go ถึง 31 มกราคม 2565 หลังโอไมครอนพุ่ง 1,780 ราย

วันที่ 3 มกราคม 2565 มติชน รายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ว่า วันนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน เพิ่มขึ้น 229 ราย สะสมทั้งหมด 1,780 ราย

จังหวัดที่พบมากที่สุดยังเป็นกรุงเทพมหานคร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ชลบุรี และภูเก็ต โดยยังคงพบการติดเชื้อในผู้เดินทางเข้าประเทศ

ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเท็จจริงกรณีที่มีข้อสั่งการจากรัฐมนตรีว่าการ สธ. ให้เลื่อนมาตรการ Test & go ออกไป นายอนุทิน ตอบว่า จากการที่ทั่วโลกพบการติดเชื้อโอไมครอนเพิ่มขึ้น ทำให้เราต้องประกาศชะลอการเดินทางเข้าประเทศในระบบ Test & go เพื่อประเมินสถานการณ์จนถึงวันที่ 4 มกราคม

แต่ด้วยขณะนี้เรายังพบผู้เดินทางเข้าประเทศติดเชื้อโอไมครอนต่อเนื่อง ซึ่งวันนี้ในที่ประชุม EOC ของ สธ. มีปลัด สธ. อธิบดีกรมควบคุมโรค ผู้บริหาร สธ. และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ให้ความเห็นว่า สธ.จะเสนอต่อ ศบค. พิจารณาเลื่อนมาตรการ Test & go ออกไปจากเดิมในวันที่ 4 มกราคมนี้ ทั้งนี้ จะชะลอเพื่อประเมินสถานการณ์ไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2565

“ผมยืนยันว่า เพื่อความสบายใจในเรื่องของมาตรการเข้าประเทศ และความปลอดภัยของคนในประเทศ เราจำเป็นต้องมีนโยบายให้เลื่อนเปิด Test & go ออกไป ซึ่งเราจะเสนอในที่ประชุม ศบค. พิจารณาเห็นชอบทันที” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามถึงผู้เดินทางในระบบ Test & go ที่ยังค้างท่ออยู่ จะสามารถเดินทางเข้ามาได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนในระบบ test and go มาก่อนหน้านี้ เราต้องขอความร่วมมือ ว่า หากต้องการใช้สิทธิตามที่ลงทะเบียน จะต้องเดินทางเข้ามาภายในวันที่ 10 มกราคมนี้ เท่านั้น หลังจากนั้น หากใครต้องการเข้าไทย จะต้องเข้าระบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) ที่ภูเก็ต หรือผ่านระบบกักตัว (Quarantine) เท่านั้น

“เราจะกำหนดมาตรการสำหรับผู้เดินทางที่ลงทะเบียนมาก่อนหน้านี้ ภายในวันที่ 10 มกราคมนี้ เท่านั้น ถือเป็นเดตไลน์ โดยหลังจากนี้ผู้เดินทางทุกคนจะต้องเข้าระบบกับตัวหรือไม่ก็แซนด์บ็อกซ์ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ” นายอนุทิน กล่าว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังผู้บริหารระดับสูงของ สธ.โดยได้รับการยืนยันว่ารัฐมนตรีว่าการ สธ.ได้สั่งการเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านกลุ่มไลน์ผู้บริหาร สธ. เพื่อให้มีการเสนอข้อพิจารณาดังกล่าวในที่ประชุม ศบค.โดยเร็วที่สุด